TFEX ลั่นเทรดทองปลายไตรมาส 3 มั่นใจไม่กระทบราคาทองคำในท้องตลาด แม้ร้านทองหวั่นทำราคาซื้อขายทองแท่ง – รูปพรรณวูบวาบ เตือนระวังภัยจากเฮดจ์ฟันด์ปั่นราคาจากต่างประเทศฉุดสัญญาดิ่ง แต่เชื่อนักลงทุนชอบเพราะใช้ต้นทุนน้อย ส่วน บล. – บลจ.เห็นดีด้วย ชี้เป็นทางเลือกใหม่ที่ช่วยกระจายความเสี่ยง ยืนยันสนใจเข้าลงทุน ล่าสุดบรรดาโบรกเกอร์เร่งพัฒนาบุคลากรและระบบรองรับการเทรดแล้ว
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) หรือ TFEXกล่าวถึงความคืบหน้าในการเทรดทองล่วงหน้าในตลาดอนุพันธ์นั้น ขณะนี้ยังคงไปเป็นตามกำหนดการเดิมคือปลายไตรมาส 3 ที่จะถึงนี้ โดยจะมีการร่างสัญญาขึ้นมาเพื่อให้ใครก็ได้เข้ามาซื้อขายทองคำในตลาด แต่ต้องมีคุณสมบัติตามที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ได้กำหนดไว้ ซึ่งส่วนใหญ่คือสมาชิกที่อยู่ในตลาดอนุพันธ์แล้ว
อย่างไรก็ตามการเทรดราคาทองคำล่วงหน้าจะไม่เกิดผลกระทบกับราคาทองคำในตลาด เพราะเมื่อนำราคาทองมาเปรียบเทียบกันราคาทองคำจะเอื้อกันทั้งสองตลาด อีกทั้งยังมีข้อดีคือปกติ การซื้อขายทองคำ ผู้ซื้อหรือผู้ขายมักทำตามนโยบายที่ที่กำหนดขึ้นเพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยง และมีโอกาสในการเข้าทำกำไร เพราะปัจจุบันนี้ ทองคำถือว่าเป็นเครื่องมือในการลงทุนในอนาคต เพราะขณะนี้ได้มีกองทุนที่มาลงทุนในทองคำเพิ่มมากขึ้น
นายพิชญา พิสุทธิกุล เลขาธิการสมาคมค้าทองคำกล่าวถึงกรณีที่TFEX จะนำทองคำ 96.5% เข้ามาเปิดซื้อขายว่า เรื่องดังกล่าวน่าจะสามารถเปิดทำการซื้อขายได้ประมาณช่วงกลางปีหลัง 2551 หรือภายในไตรมาส 3- 4 นี้ ทั้งนี้อาจมีผลกระทบต่อการลงทุนในทองคำโดยตรงบ้าง แต่ยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะยังไม่มีการดำเนินการ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะมีนักลงทุนให้ความสนใจ และเข้าไปซื้อขายทองคำล่วงหน้าแน่นอน
“หากเปิดซื้อขายทองคำล่วงหน้าจริง จะมีคนให้คามสนใจแน่เพราะการลงทุนหรือซื้อขายทองคำจริง นักลงทุนจะต้องจ่ายเต็มจำนวนที่ 100% แต่ในการลงทุนทองคำล่วงหน้านักลงทุนจ่ายเพียงแค่ 10% เท่านั้น แต่สำหรับภาพรวมหรือผลกระทบโดยรวมนั้นยังอ่านไม่ได้”
ทั้งนี้ เลขาธิการสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำล่วงหน้า จะเป็นไปตามทิศทางราคาทองคำโลก หรือตลาดสินค้าล่วงหน้าใสต่างประเทศ อาทิ ลอนดอน หรือจีน ซึ่งจะเป็นการคาดการณ์เท่านั้น จะไม่เหมือนกับการลงทุนผ่านหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน เนื่องจากจะต้องแสดงผลข้อมูลงบการเงิน และการลงทุนต่างต่อตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งนักลงทุนสามารถประเมิน และรับทราบข้อมูลความเคลื่อนไหวในการดำเนินธุรกิจได้อย่างเต็มที่ แต่สำหรับการซื้อขายทองคำล่วงหน้านี้เปรียบเสมือน การอ่านใจว่าราคาจะปรับตัวขึ้นลงอย่างไร โดยดูภาวะหรือสถานการณ์ และปัจจัยต่างๆ ซึ่งไม่สามารถบอกถึงผลกำไรที่ชัดเจนได้
นอกจากนี้ ราคาซื้อขายทองคำในตลาดล่วงหน้า อาจปรับตัวขึ้นลงเร็ว โดยเฉพาะหากกองทุนเฮดจ์ฟันด์ให้เข้าลงทุนในสินค้าประเภทนี้มากขึ้นตามช่วงหรือจังหวะในการลงทุน หรือการโยกขายทำกำไรของกองทุนที่ลงทุนผ่านทองคำ ก็จะสร้างความผันผวนของราคาทองคำได้เช่นกัน
นายพิชญา กล่าวว่า ความจริงแล้วการบริโภคทองคำทั่วโลกขนาดนี้ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะในอินเดียที่ผ่านมาการบริโภคมีการปรับตัวลดลงถึงประมาณ 20% เพราะนักลงทุนต้องใช้เงินในการลงทุนมากขึ้น หากต้องการลงทุนผ่านทองคำซึ่งมีน้ำหนักเท่าเดิม
“การลงทุนในทองคำปัจจุบันนี้ หากใช้เงินลงทุนเท่าเดิมเหมือนเช่นหลายปีก่อนหน้า ก็จะได้สินค้าหรือทองคำกลับไปน้อยลง เพราะราคาทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้นจากช่วง 3 –4 ปีที่ผ่านมา”
นายพิชญา กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงพาณิชย์ออกมาระบุว่าประเทศขาดดุลการค้าเพราะการนำเข้าทองคำว่า เรื่องดังกล่าวอยากให้กระทรวงพาณิชย์ลองดูตัวเลขโดยรวม ในช่วงผ่านมาไม่ใช่ดูแค่ตัวเลขเดือนมีนาคม ซื้อราคาทองปรับตัวลดลง จึงทำให้ประชาชนเข้าซื้อทองเก็บไว้เป็นจำนวนมากเท่านั้น แต่หลังจากเดือนเมษายนเป็นต้นมา ประเทศมีการส่งออกทองคำมากกว่านำเข้า และก่อนหน้านี้ก็มีการขายคืนทองคำในจำนวนที่มากกว่าที่นำเข้ามา
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)จำกัด กล่าวว่า การที่TFEXเตรียมที่จะนำทองคำมาซื้อขายในตลาดอนุพันธ์นั้น ถือเป็นทางเลือกอีกแบบสำหรับนักลงทุนนอกจากการเทรดหุ้น ซึ่งสามารถที่จะเลือกลงทุนได้อย่างมีอิสระมากขึ้น อีกทั้งมีลักษณะการขึ้นลงคล้ายกับการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทมีความสนใจที่จะเข้าร่วมทำธุรกรรมดังกล่าวแน่
ขณะเดียวกันเชื่อว่าการซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่ตะเปิดขึ้นนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมในตลาดทองคำทั่วไป เพราะทองคำเป็นสิ่งที่มีการซื้อขายตลอดเวลาอยู่แล้วในตลาด โดยข้อดีของการเทรดทองล่วงหน้านั้น ถือเป็นการกระจายความเสี่ยงที่ดีอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งทองคำจัดเป็นตราสารที่เคลื่อนไหวไม่มากนัก อีกทั้งการขึ้นลงของราคาไม่ได้เป็นไปตามราคาหุ้น นักลงทุนจึงควรเลือกลงทุนในทองคำบ้าง
นายกัมพล จันทร์วิบูลย์ ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า การเทรดราคาทองล่วงหน้ากับการเทรดราคาทองในท้องตลาดมักจะสอดคล้องกันไม่ว่าจะเป็นส่วนต่างของต้นทุนกับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นไปในทางเดียวกัน ส่วนจะเป็นการเทรดราคาทองคำ 96.5% นั้น ต้องดูว่าในต่างชาติเข้ามามีส่วนร่วมด้วยหรือเปล่า หากว่าต่างชาติเข้ามาร่วมด้วยน่าจะที่ใช้ทองคำ 99.9% ดังนั้นจึงขึ้นอยู่ว่าใครจะเป็นคนทำตลาด
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการเทรดราคาทองคำล่วงหน้าในตลาดอนุพันธ์ จะส่งผลดีต่อราคาทองคำแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นทองรูปพรรณหรือทองคำแท่ง เพราะสามารถกำหนดราคาซื้อขายล่วงหน้าได้ อีกทั้งสามารถคำนวณต้นทุนในการผลิตทองได้ และสามารถป้องกันความเสี่ยงได้อีกด้วย
“ปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่มีความสนใจในเรื่องทองคำมากพอสมควร เห็นได้จากความสนใจที่จะซื้อทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณมาเก็บไว้หรือมารอการเทรดทองคำล่วงหน้าในTFEX แต่ส่วนใหญ่นิยมซื้อทองรูปพรรณมาสวมใส่มากกว่า อีกทั้งความนิยมในการลงทุนทองคำยังไม่เป็นที่แพร่หลายเท่าใดนัก นอกจากนี้ทองคำยังมีตลาดรองรับพอสมควร ซึ่งดูได้จากตัวเลขในเดือนที่แล้วที่ทำให้เกิดภาวะขาดดุล
ทั้งนี้หากมีการเทรดราคาทองคำล่วงหน้าเกิดขึ้นมีความเป็นไปได้ที่บริษัทให้ความสนใจร่วมลงทุนในด้านนี้ โดยดูได้จากสภาพคล่องของตลาด ทิศทางการส่งมอบทองคำ หรือจะเป็นสตรัคเจอร์ของตลาด
นายธิติ ธาราสุข ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เน็กซ์วิว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตอนนี้มีบริษัทหลักทรัพย์ประมาณ 2- 3 ราย ที่เข้ามาติดต่อบริษัทเพื่อต้องการติดตั้งระบบฟีดความเลื่อนไหวราคาทองคำในตลาดซื้อขายต่างประเทศ อาทิ ลอนดอน อินเดีย และจีน โดยใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการซื้อขายทองคำล่วงหน้าของTFEX ที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ประมาณไตรมาส 3 นี้ ซึ่งบริษัทได้ปรับปรุงระบบฟีดราคาทองคำให้เหมาะสมกับตลาดในประเทศแล้ว
“ในตลาดต่างประเทศเขาจะใช้ทองคำ 99.9% แต่ในประเทศไทยจะใช้ทองคำ 96.5% ซึ่งจุดนี้ทำให้หลายบล.ต้องปรับเปลี่ยนคำนวณของระบบจาก 99.9% มาเป็น 96.5% ที่มีการขึ้นลงของราคาต่างกันแม้จะมีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกันก็ตาม”
สำหรับ ส่วนตัวมองว่าการที่ TFEX นำทองคำเข้ามาเทรดนั้นเป็นเรื่องที่ดี เพราะการซื้อขายทองคำในต่างประเทศมีวอลุ่มที่สูง และได้รับความเชื่อถือมากกว่าการลงทุนในประเภทอื่น โดยนักลงทุนสามารถหาผลตอบแทนจากการทำLong – shot สัญญาได้ นอกจากนี้เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในประเทศแน่
มีรายงานว่าการที่ TFEX นำทองคำเข้ามาเป็นสินค้าใหม่ในการซื้อขายล่วงหน้าของตลาดนั้น เพราะหวังว่าทองคำจะช่วยเพิ่มวอลุ่มปริมาณซื้อขายให้เพิ่มขึ้น และทำให้ TFEX ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากกว่าปัจจุบัน เนื่องสินค้าที่มีซื้อขายอยู่ขณะนี้ช่วยผลักดันให้มีปริมาณการซื้อได้เพียงแค่ระดับหนึ่งเท่านั้น
ก่อหน้านี้ นายสุชาย สุทัศน์ธรรมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PST เปิดเผยว่า ปัจจุบันลูกค้าเปิดบัญชีซื้อขายอนุพันธ์ลดลงเหลือสัปดาห์ละ 4-5 บัญชี จากก่อนหน้านี้ที่มีการเปิดบัญชีใหม่สัปดาห์ละ 8-10 โดยคาดว่าสินค้าใหม่อย่างทองคำล่วงหน้า(Gold Futures) ที่จะเปิดซื้อขายในเดือนกันยายนนี้ จะช่วยให้จำนวนนักลงทุนกลุ่มใหม่เข้ามาซื้อขายกันมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้าให้ความสนใจพอสมควร ขณะนี้จึงเริ่มเตรียมให้ความรู้บุคลากร และอยู่ระหว่างการทดสอบระบบ
“นักลงทุนส่วนใหญ่รู้จักทองคำค่อนข้างดี เทรดเป็นลักษณะคล้ายฟิวเจอร์ส ซึ่งนักลงทุนค่อนข้างมีความรู้ในเรื่องของความเคลื่อนไหวราคาทอง จึงมีความเข้าใจ และน่าจะมีลูกค้ากลุ่มใหม่ที่เข้าใจทองเพิ่มขึ้น” นายสุชาย กล่าว
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) หรือ TFEXกล่าวถึงความคืบหน้าในการเทรดทองล่วงหน้าในตลาดอนุพันธ์นั้น ขณะนี้ยังคงไปเป็นตามกำหนดการเดิมคือปลายไตรมาส 3 ที่จะถึงนี้ โดยจะมีการร่างสัญญาขึ้นมาเพื่อให้ใครก็ได้เข้ามาซื้อขายทองคำในตลาด แต่ต้องมีคุณสมบัติตามที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ได้กำหนดไว้ ซึ่งส่วนใหญ่คือสมาชิกที่อยู่ในตลาดอนุพันธ์แล้ว
อย่างไรก็ตามการเทรดราคาทองคำล่วงหน้าจะไม่เกิดผลกระทบกับราคาทองคำในตลาด เพราะเมื่อนำราคาทองมาเปรียบเทียบกันราคาทองคำจะเอื้อกันทั้งสองตลาด อีกทั้งยังมีข้อดีคือปกติ การซื้อขายทองคำ ผู้ซื้อหรือผู้ขายมักทำตามนโยบายที่ที่กำหนดขึ้นเพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยง และมีโอกาสในการเข้าทำกำไร เพราะปัจจุบันนี้ ทองคำถือว่าเป็นเครื่องมือในการลงทุนในอนาคต เพราะขณะนี้ได้มีกองทุนที่มาลงทุนในทองคำเพิ่มมากขึ้น
นายพิชญา พิสุทธิกุล เลขาธิการสมาคมค้าทองคำกล่าวถึงกรณีที่TFEX จะนำทองคำ 96.5% เข้ามาเปิดซื้อขายว่า เรื่องดังกล่าวน่าจะสามารถเปิดทำการซื้อขายได้ประมาณช่วงกลางปีหลัง 2551 หรือภายในไตรมาส 3- 4 นี้ ทั้งนี้อาจมีผลกระทบต่อการลงทุนในทองคำโดยตรงบ้าง แต่ยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะยังไม่มีการดำเนินการ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะมีนักลงทุนให้ความสนใจ และเข้าไปซื้อขายทองคำล่วงหน้าแน่นอน
“หากเปิดซื้อขายทองคำล่วงหน้าจริง จะมีคนให้คามสนใจแน่เพราะการลงทุนหรือซื้อขายทองคำจริง นักลงทุนจะต้องจ่ายเต็มจำนวนที่ 100% แต่ในการลงทุนทองคำล่วงหน้านักลงทุนจ่ายเพียงแค่ 10% เท่านั้น แต่สำหรับภาพรวมหรือผลกระทบโดยรวมนั้นยังอ่านไม่ได้”
ทั้งนี้ เลขาธิการสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำล่วงหน้า จะเป็นไปตามทิศทางราคาทองคำโลก หรือตลาดสินค้าล่วงหน้าใสต่างประเทศ อาทิ ลอนดอน หรือจีน ซึ่งจะเป็นการคาดการณ์เท่านั้น จะไม่เหมือนกับการลงทุนผ่านหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน เนื่องจากจะต้องแสดงผลข้อมูลงบการเงิน และการลงทุนต่างต่อตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งนักลงทุนสามารถประเมิน และรับทราบข้อมูลความเคลื่อนไหวในการดำเนินธุรกิจได้อย่างเต็มที่ แต่สำหรับการซื้อขายทองคำล่วงหน้านี้เปรียบเสมือน การอ่านใจว่าราคาจะปรับตัวขึ้นลงอย่างไร โดยดูภาวะหรือสถานการณ์ และปัจจัยต่างๆ ซึ่งไม่สามารถบอกถึงผลกำไรที่ชัดเจนได้
นอกจากนี้ ราคาซื้อขายทองคำในตลาดล่วงหน้า อาจปรับตัวขึ้นลงเร็ว โดยเฉพาะหากกองทุนเฮดจ์ฟันด์ให้เข้าลงทุนในสินค้าประเภทนี้มากขึ้นตามช่วงหรือจังหวะในการลงทุน หรือการโยกขายทำกำไรของกองทุนที่ลงทุนผ่านทองคำ ก็จะสร้างความผันผวนของราคาทองคำได้เช่นกัน
นายพิชญา กล่าวว่า ความจริงแล้วการบริโภคทองคำทั่วโลกขนาดนี้ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะในอินเดียที่ผ่านมาการบริโภคมีการปรับตัวลดลงถึงประมาณ 20% เพราะนักลงทุนต้องใช้เงินในการลงทุนมากขึ้น หากต้องการลงทุนผ่านทองคำซึ่งมีน้ำหนักเท่าเดิม
“การลงทุนในทองคำปัจจุบันนี้ หากใช้เงินลงทุนเท่าเดิมเหมือนเช่นหลายปีก่อนหน้า ก็จะได้สินค้าหรือทองคำกลับไปน้อยลง เพราะราคาทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้นจากช่วง 3 –4 ปีที่ผ่านมา”
นายพิชญา กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงพาณิชย์ออกมาระบุว่าประเทศขาดดุลการค้าเพราะการนำเข้าทองคำว่า เรื่องดังกล่าวอยากให้กระทรวงพาณิชย์ลองดูตัวเลขโดยรวม ในช่วงผ่านมาไม่ใช่ดูแค่ตัวเลขเดือนมีนาคม ซื้อราคาทองปรับตัวลดลง จึงทำให้ประชาชนเข้าซื้อทองเก็บไว้เป็นจำนวนมากเท่านั้น แต่หลังจากเดือนเมษายนเป็นต้นมา ประเทศมีการส่งออกทองคำมากกว่านำเข้า และก่อนหน้านี้ก็มีการขายคืนทองคำในจำนวนที่มากกว่าที่นำเข้ามา
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)จำกัด กล่าวว่า การที่TFEXเตรียมที่จะนำทองคำมาซื้อขายในตลาดอนุพันธ์นั้น ถือเป็นทางเลือกอีกแบบสำหรับนักลงทุนนอกจากการเทรดหุ้น ซึ่งสามารถที่จะเลือกลงทุนได้อย่างมีอิสระมากขึ้น อีกทั้งมีลักษณะการขึ้นลงคล้ายกับการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทมีความสนใจที่จะเข้าร่วมทำธุรกรรมดังกล่าวแน่
ขณะเดียวกันเชื่อว่าการซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่ตะเปิดขึ้นนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมในตลาดทองคำทั่วไป เพราะทองคำเป็นสิ่งที่มีการซื้อขายตลอดเวลาอยู่แล้วในตลาด โดยข้อดีของการเทรดทองล่วงหน้านั้น ถือเป็นการกระจายความเสี่ยงที่ดีอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งทองคำจัดเป็นตราสารที่เคลื่อนไหวไม่มากนัก อีกทั้งการขึ้นลงของราคาไม่ได้เป็นไปตามราคาหุ้น นักลงทุนจึงควรเลือกลงทุนในทองคำบ้าง
นายกัมพล จันทร์วิบูลย์ ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า การเทรดราคาทองล่วงหน้ากับการเทรดราคาทองในท้องตลาดมักจะสอดคล้องกันไม่ว่าจะเป็นส่วนต่างของต้นทุนกับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นไปในทางเดียวกัน ส่วนจะเป็นการเทรดราคาทองคำ 96.5% นั้น ต้องดูว่าในต่างชาติเข้ามามีส่วนร่วมด้วยหรือเปล่า หากว่าต่างชาติเข้ามาร่วมด้วยน่าจะที่ใช้ทองคำ 99.9% ดังนั้นจึงขึ้นอยู่ว่าใครจะเป็นคนทำตลาด
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการเทรดราคาทองคำล่วงหน้าในตลาดอนุพันธ์ จะส่งผลดีต่อราคาทองคำแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นทองรูปพรรณหรือทองคำแท่ง เพราะสามารถกำหนดราคาซื้อขายล่วงหน้าได้ อีกทั้งสามารถคำนวณต้นทุนในการผลิตทองได้ และสามารถป้องกันความเสี่ยงได้อีกด้วย
“ปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่มีความสนใจในเรื่องทองคำมากพอสมควร เห็นได้จากความสนใจที่จะซื้อทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณมาเก็บไว้หรือมารอการเทรดทองคำล่วงหน้าในTFEX แต่ส่วนใหญ่นิยมซื้อทองรูปพรรณมาสวมใส่มากกว่า อีกทั้งความนิยมในการลงทุนทองคำยังไม่เป็นที่แพร่หลายเท่าใดนัก นอกจากนี้ทองคำยังมีตลาดรองรับพอสมควร ซึ่งดูได้จากตัวเลขในเดือนที่แล้วที่ทำให้เกิดภาวะขาดดุล
ทั้งนี้หากมีการเทรดราคาทองคำล่วงหน้าเกิดขึ้นมีความเป็นไปได้ที่บริษัทให้ความสนใจร่วมลงทุนในด้านนี้ โดยดูได้จากสภาพคล่องของตลาด ทิศทางการส่งมอบทองคำ หรือจะเป็นสตรัคเจอร์ของตลาด
นายธิติ ธาราสุข ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เน็กซ์วิว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตอนนี้มีบริษัทหลักทรัพย์ประมาณ 2- 3 ราย ที่เข้ามาติดต่อบริษัทเพื่อต้องการติดตั้งระบบฟีดความเลื่อนไหวราคาทองคำในตลาดซื้อขายต่างประเทศ อาทิ ลอนดอน อินเดีย และจีน โดยใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการซื้อขายทองคำล่วงหน้าของTFEX ที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ประมาณไตรมาส 3 นี้ ซึ่งบริษัทได้ปรับปรุงระบบฟีดราคาทองคำให้เหมาะสมกับตลาดในประเทศแล้ว
“ในตลาดต่างประเทศเขาจะใช้ทองคำ 99.9% แต่ในประเทศไทยจะใช้ทองคำ 96.5% ซึ่งจุดนี้ทำให้หลายบล.ต้องปรับเปลี่ยนคำนวณของระบบจาก 99.9% มาเป็น 96.5% ที่มีการขึ้นลงของราคาต่างกันแม้จะมีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกันก็ตาม”
สำหรับ ส่วนตัวมองว่าการที่ TFEX นำทองคำเข้ามาเทรดนั้นเป็นเรื่องที่ดี เพราะการซื้อขายทองคำในต่างประเทศมีวอลุ่มที่สูง และได้รับความเชื่อถือมากกว่าการลงทุนในประเภทอื่น โดยนักลงทุนสามารถหาผลตอบแทนจากการทำLong – shot สัญญาได้ นอกจากนี้เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในประเทศแน่
มีรายงานว่าการที่ TFEX นำทองคำเข้ามาเป็นสินค้าใหม่ในการซื้อขายล่วงหน้าของตลาดนั้น เพราะหวังว่าทองคำจะช่วยเพิ่มวอลุ่มปริมาณซื้อขายให้เพิ่มขึ้น และทำให้ TFEX ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากกว่าปัจจุบัน เนื่องสินค้าที่มีซื้อขายอยู่ขณะนี้ช่วยผลักดันให้มีปริมาณการซื้อได้เพียงแค่ระดับหนึ่งเท่านั้น
ก่อหน้านี้ นายสุชาย สุทัศน์ธรรมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PST เปิดเผยว่า ปัจจุบันลูกค้าเปิดบัญชีซื้อขายอนุพันธ์ลดลงเหลือสัปดาห์ละ 4-5 บัญชี จากก่อนหน้านี้ที่มีการเปิดบัญชีใหม่สัปดาห์ละ 8-10 โดยคาดว่าสินค้าใหม่อย่างทองคำล่วงหน้า(Gold Futures) ที่จะเปิดซื้อขายในเดือนกันยายนนี้ จะช่วยให้จำนวนนักลงทุนกลุ่มใหม่เข้ามาซื้อขายกันมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้าให้ความสนใจพอสมควร ขณะนี้จึงเริ่มเตรียมให้ความรู้บุคลากร และอยู่ระหว่างการทดสอบระบบ
“นักลงทุนส่วนใหญ่รู้จักทองคำค่อนข้างดี เทรดเป็นลักษณะคล้ายฟิวเจอร์ส ซึ่งนักลงทุนค่อนข้างมีความรู้ในเรื่องของความเคลื่อนไหวราคาทอง จึงมีความเข้าใจ และน่าจะมีลูกค้ากลุ่มใหม่ที่เข้าใจทองเพิ่มขึ้น” นายสุชาย กล่าว
