TFEX ลงนามบันทึกความเข้าใจกับ CBOE เพื่อกระชับความสัมพันธ์ พร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูลและพัฒนาความร่วมมือในธุรกิจอนุพันธ์ ด้าน "เกศรา" ระบุไม่พอใจภาพรวมตลาดอนุพันธ์ แต่ยังมั่นใจปีนี้ถึง 1 หมื่นสัญญาต่อวัน พร้อมนำ Gold Futures เทรด ก.ย. กำหนด 1 สัญญาต่อทองคำ 10 บาท อ้างอิงตลาดลอนดอน ก่อนแปลงเป็นเงินบาท เหตุเพราะเน้นนักลงทุนไทย
นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ บมจ. ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) หรือ TFEX เปิดเผยว่า TFEX ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับ Chicago Board Options Exchanges หรือ CBOE ซึ่งเป็นตลาดอนุพันธ์ที่มีปริมาณการซื้อขายออปชั่นมากที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างองค์กร และเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและศึกษาความเป็นไปได้ในการที่จะพัฒนาธุรกิจร่วมกันในอนาคต ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตลาดอนุพันธ์ทั้งสองแห่ง โดยมีนายริชาร์ด ดูฟอร์ (Richard DuFour) Executive Vice President ซึ่งรับผิดชอบ สายงานด้านกลยุทธ์และวิจัย และนายยูจีน เชิง (Eugene Zheng) ซึ่งดูแลธุรกิจภาคพื้นเอเชีย เป็นตัวแทนของ CBOE มาร่วมในพิธีลงนาม
"ที่ผ่านมา TFEX และ CBOE มีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด ซึ่งการลงนามในบันทึกความเข้าใจครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของ TFEX ในการพัฒนาความสัมพันธ์กับองค์กรระดับโลกอย่าง CBOE ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดออปชั่น โดยจะช่วยให้ TFEX ได้มีโอกาสเรียนรู้จากประสบการณ์ของ CBOE และนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาสินค้าและบริการของ TFEX ต่อไป"
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บมจ. ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า CBOE เป็นตลาดอนุพันธ์ที่มีประสบการณ์ยาวนานในการให้บริการซื้อขายออปชั่น และที่ผ่านมา CBOE ได้ให้ข้อมูล และแนวคิดในการพัฒนาตลาดออปชั่นต่อ TFEX ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาและสินค้าบริการของเรา โดยเฉพาะ Index Options ดังนั้นการลงนามในครั้งนี้นับว่าเป็นโอกาสดีของ TFEX ที่จะมีโอกาสเรียนรู้จากประสบการณ์ของ CBOE มาพัฒนาศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของเราให้แข็งแกร่ง ก้าวหน้า และมีมาตรฐานการดำเนินงานเทียบเท่าสากล
สำหรับภาพรวมการซื้อขาย SET50 Futures และ SET50 Options ในช่วงครึ่งปีแรกถือว่ายังไม่น่าพอใจ เนื่องจากมีการซื้อขายเฉลี่ยรวมกันทั้งสองสินค้าประมาณ 6,000 สัญญา/วัน ซึ่งยังห่างจากเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ที่ 10,000 สัญญา/วัน เนื่องจากช่วงต้นปีทุกตลาดหุ้นถูกครอบคลุมด้วยความกังวลเกี่ยวกับปัญหาซับไพรม์ ทำให้ตลาดหุ้นค่อนข้างนิ่ง ซึ่งส่งผลมายังการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ โดยปัจจุบันสัดส่วนนักลงทุนในตลาด TFEX เป็นนักลงทุนรายย่อยในประเทศ 55-60% นักลงทุนต่างชาติมีเพียง 20% และนักลงทุนสถาบัน 20%
นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ บมจ. ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) หรือ TFEX เปิดเผยว่า TFEX ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับ Chicago Board Options Exchanges หรือ CBOE ซึ่งเป็นตลาดอนุพันธ์ที่มีปริมาณการซื้อขายออปชั่นมากที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างองค์กร และเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและศึกษาความเป็นไปได้ในการที่จะพัฒนาธุรกิจร่วมกันในอนาคต ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตลาดอนุพันธ์ทั้งสองแห่ง โดยมีนายริชาร์ด ดูฟอร์ (Richard DuFour) Executive Vice President ซึ่งรับผิดชอบ สายงานด้านกลยุทธ์และวิจัย และนายยูจีน เชิง (Eugene Zheng) ซึ่งดูแลธุรกิจภาคพื้นเอเชีย เป็นตัวแทนของ CBOE มาร่วมในพิธีลงนาม
"ที่ผ่านมา TFEX และ CBOE มีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด ซึ่งการลงนามในบันทึกความเข้าใจครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของ TFEX ในการพัฒนาความสัมพันธ์กับองค์กรระดับโลกอย่าง CBOE ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดออปชั่น โดยจะช่วยให้ TFEX ได้มีโอกาสเรียนรู้จากประสบการณ์ของ CBOE และนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาสินค้าและบริการของ TFEX ต่อไป"
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บมจ. ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า CBOE เป็นตลาดอนุพันธ์ที่มีประสบการณ์ยาวนานในการให้บริการซื้อขายออปชั่น และที่ผ่านมา CBOE ได้ให้ข้อมูล และแนวคิดในการพัฒนาตลาดออปชั่นต่อ TFEX ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาและสินค้าบริการของเรา โดยเฉพาะ Index Options ดังนั้นการลงนามในครั้งนี้นับว่าเป็นโอกาสดีของ TFEX ที่จะมีโอกาสเรียนรู้จากประสบการณ์ของ CBOE มาพัฒนาศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของเราให้แข็งแกร่ง ก้าวหน้า และมีมาตรฐานการดำเนินงานเทียบเท่าสากล
สำหรับภาพรวมการซื้อขาย SET50 Futures และ SET50 Options ในช่วงครึ่งปีแรกถือว่ายังไม่น่าพอใจ เนื่องจากมีการซื้อขายเฉลี่ยรวมกันทั้งสองสินค้าประมาณ 6,000 สัญญา/วัน ซึ่งยังห่างจากเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ที่ 10,000 สัญญา/วัน เนื่องจากช่วงต้นปีทุกตลาดหุ้นถูกครอบคลุมด้วยความกังวลเกี่ยวกับปัญหาซับไพรม์ ทำให้ตลาดหุ้นค่อนข้างนิ่ง ซึ่งส่งผลมายังการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ โดยปัจจุบันสัดส่วนนักลงทุนในตลาด TFEX เป็นนักลงทุนรายย่อยในประเทศ 55-60% นักลงทุนต่างชาติมีเพียง 20% และนักลงทุนสถาบัน 20%