บล.ฟิลลิปเผยตลาดหุ้นผันผวนสูง นักลงทุนหันลงทุนอนุพันธ์ ทำกำไรช่วงตลาดหุ้นขาลง-ลดความเสี่ยงการลงทุน ตั้งเป้าเพิ่มบัญชีลูกค้าใหม่ปีนี้ 300 บัญชี เน้นเจาะฐานลูกค้าหุ้นของบริษัทก่อน พร้อมมั่นใจรักษามาร์เกตแชร์ปีนี้ 10% แม้ภาวะการแข่งขันสูง
นายกิดาการ สุวรรณธรรมา ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจอนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในขณะนี้มีความผันผวนสูงและดัชนีฯก็ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคมถึงวันที่ 4 มิถุนายนดัชนีปรับตัวลดลงมากว่า 68 จุด หรือคิดเป็น 10.6% เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางการเมือง โดยจากการที่ดัชนีตลาดหุ้นลดลงนั้นเชื่อว่าจะทำให้มีนักลงทุนส่วนหนึ่งสนใจเข้ามาลงทุนในตลาดอนุพันธ์ (TFEX) เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงและทำกำไรจากตลาดหุ้นขาลง ประกอบกับการที่ตลาดอนุพันธ์เองก็มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยดึงดูดให้มีความน่าสนใจมากขึ้น จากปกติที่ตลาดอนุพันธ์เป็นที่นิยมอยู่แล้ว ในช่วงที่ตลาดหุ้นเป็นขาลง โดยบล.ฟิลลิป คาดว่าจากปัจจัยดังกล่าวบริษัทจะสามารถเพิ่มจำนวนบัญชีลูกค้าใหม่ในส่วนของตลาดอนุพันธ์ปีนี้ได้ตามเป้าหมายที่ 300 บัญชี
สำหรับแผนการขยายฐานลูกค้าของบริษัทนั้นจะจะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าภายในบริษัทฯ ก่อน เพราะถือเป็นฐานลูกค้าที่กว้าง เนื่องจากลูกค้าอนุพันธ์ ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกค้าที่ลงทุนในหุ้นอยู่แล้ว โดยปัจจุบันฐานลูกค้าอนุพันธ์ยังมีไม่ถึง 1,000 บัญชี ขณะที่บัญชีลูกค้าที่ลงทุนในหุ้นมีมากกว่า 15,000 บัญชี
นายกิดาการ กล่าวว่า บล.ฟิลลิป มั่นใจว่า จะยังสามารถรักษาสัดส่วนส่วนแบ่งการตลาดในตลาด TFEX ที่ระดับ 10% ไว้ได้ ซึ่งตั้งแต่ต้นปีถึง ขณะนี้บริษัทมีมาร์เกตแชร์ 11.03% เพราะบริษัทมีจุดเด่นในของการให้ความรู้กับผู้ลงทุน ที่บริษัทฯ ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ และถึงแม้ว่าปีนี้จำนวนโบรกเกอร์จะเพิ่มขึ้น ทำให้การแข่งขันในตลาดสูง แต่ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบกับการขยายฐานลูกค้าหรือส่วนแบ่งการตลาดของ บล.ฟิลลิป แต่อย่างใด
"การที่ปีนี้จำนวนโบรกเกอร์เพิ่มขึ้น ย่อมทำให้มาร์เก็ตแชร์ลดลงอยู่แล้ว เราจึงไม่ได้กำหนดมาร์เก็ตแชร์ว่า จะเพิ่มเท่าไหร่ แต่จะรักษาฐานให้เท่าเดิมคืออยู่ในระดับที่ไม่ต่ำกว่า 10% ในภาวะที่คู่แข่งเพิ่มขึ้น" นายกิดาการกล่าว
สำหรับในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ตลาดอนุพันธ์จะมีสินค้าตัวใหม่ๆ เข้ามาทำการซื้อขาย ไม่ว่าจะเป็นหุ้นรายตัว หรือการซื้อขายทองคำล่วงหน้า ซึ่ง บล.ฟิลลิป มีความพร้อมในการรองรับลูกค้ากลุ่มนี้อยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังคาดว่าสินค้าตัวใหม่จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะการซื้อขายอนุพันธ์หุ้นรายตัว ซึ่งถือว่าตรงกับความต้องการของนักลงทุนที่คุ้นเคยกับหุ้นมากที่สุด
นายกิดาการ สุวรรณธรรมา ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจอนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในขณะนี้มีความผันผวนสูงและดัชนีฯก็ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคมถึงวันที่ 4 มิถุนายนดัชนีปรับตัวลดลงมากว่า 68 จุด หรือคิดเป็น 10.6% เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางการเมือง โดยจากการที่ดัชนีตลาดหุ้นลดลงนั้นเชื่อว่าจะทำให้มีนักลงทุนส่วนหนึ่งสนใจเข้ามาลงทุนในตลาดอนุพันธ์ (TFEX) เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงและทำกำไรจากตลาดหุ้นขาลง ประกอบกับการที่ตลาดอนุพันธ์เองก็มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยดึงดูดให้มีความน่าสนใจมากขึ้น จากปกติที่ตลาดอนุพันธ์เป็นที่นิยมอยู่แล้ว ในช่วงที่ตลาดหุ้นเป็นขาลง โดยบล.ฟิลลิป คาดว่าจากปัจจัยดังกล่าวบริษัทจะสามารถเพิ่มจำนวนบัญชีลูกค้าใหม่ในส่วนของตลาดอนุพันธ์ปีนี้ได้ตามเป้าหมายที่ 300 บัญชี
สำหรับแผนการขยายฐานลูกค้าของบริษัทนั้นจะจะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าภายในบริษัทฯ ก่อน เพราะถือเป็นฐานลูกค้าที่กว้าง เนื่องจากลูกค้าอนุพันธ์ ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกค้าที่ลงทุนในหุ้นอยู่แล้ว โดยปัจจุบันฐานลูกค้าอนุพันธ์ยังมีไม่ถึง 1,000 บัญชี ขณะที่บัญชีลูกค้าที่ลงทุนในหุ้นมีมากกว่า 15,000 บัญชี
นายกิดาการ กล่าวว่า บล.ฟิลลิป มั่นใจว่า จะยังสามารถรักษาสัดส่วนส่วนแบ่งการตลาดในตลาด TFEX ที่ระดับ 10% ไว้ได้ ซึ่งตั้งแต่ต้นปีถึง ขณะนี้บริษัทมีมาร์เกตแชร์ 11.03% เพราะบริษัทมีจุดเด่นในของการให้ความรู้กับผู้ลงทุน ที่บริษัทฯ ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ และถึงแม้ว่าปีนี้จำนวนโบรกเกอร์จะเพิ่มขึ้น ทำให้การแข่งขันในตลาดสูง แต่ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบกับการขยายฐานลูกค้าหรือส่วนแบ่งการตลาดของ บล.ฟิลลิป แต่อย่างใด
"การที่ปีนี้จำนวนโบรกเกอร์เพิ่มขึ้น ย่อมทำให้มาร์เก็ตแชร์ลดลงอยู่แล้ว เราจึงไม่ได้กำหนดมาร์เก็ตแชร์ว่า จะเพิ่มเท่าไหร่ แต่จะรักษาฐานให้เท่าเดิมคืออยู่ในระดับที่ไม่ต่ำกว่า 10% ในภาวะที่คู่แข่งเพิ่มขึ้น" นายกิดาการกล่าว
สำหรับในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ตลาดอนุพันธ์จะมีสินค้าตัวใหม่ๆ เข้ามาทำการซื้อขาย ไม่ว่าจะเป็นหุ้นรายตัว หรือการซื้อขายทองคำล่วงหน้า ซึ่ง บล.ฟิลลิป มีความพร้อมในการรองรับลูกค้ากลุ่มนี้อยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังคาดว่าสินค้าตัวใหม่จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะการซื้อขายอนุพันธ์หุ้นรายตัว ซึ่งถือว่าตรงกับความต้องการของนักลงทุนที่คุ้นเคยกับหุ้นมากที่สุด
