00 นับจากวันที่พรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้งและเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลยึดอำนาจรัฐกลับคืนมาจนถึงวันนี้รวมๆแล้วเป็นเวลากว่า 4 เดือน และถ้านับจากวันที่รัฐบาล “หุ่นเชิด” ที่นำโดย “สมัคร สุนทรเวช” เข้ามาบริหารประเทศเพียงแค่ 3 เดือนกว่า ก็สามารถนำพาเครือข่าย “ระบอบทักษิณ” เข้ามายึดกุม หรือเข้าประจำหน่วยงานสำคัญจนเกือบเต็มพื้นที่ เหมือนก่อนช่วงเหตุการณ์ 19 กันยา 49 ไม่มีผิด
00 ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้นับรวมระดับบริหารสูงสุดในทำเนียบรัฐบาล แต่จะโฟกัสเน้นเฉพาะตำแหน่งสำคัญๆ ที่มีผลชี้เป็นชี้ตายกับ “นายใหญ่” เป็นการเฉพาะ ที่ผ่านมาแม้มีการรับรู้กันไปแล้วสำหรับตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ที่มีวาระเร่งด่วนเด้ง “สุนัย มโนมัยอุดม” ให้พ้นทางนำร่องไปก่อน หลังจากส่งฟ้องคดีเอสซีแอสเสท ที่โยงใยไปถึง “แม้ว” กับครอบครัวโดยตรง
00 และถ้าว่ากันเฉพาะกรณีของ"สุนัย" นอกจากจะถูกเด้งไปนั่งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) ยังพบกับวิบากกรรมอันน่าเจ็บปวดตามมาไม่สิ้นสุด หลังจากหาญกล้าสั่งฟ้องคนในครอบครัวแม้วยกล็อตในคดีซุกหุ้นภาค 2 แล้ว ล่าสุดยังต้องพบเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับข้าราชการระดับสูงนั่นคือ ผลกระทบจากคดีหมิ่นประมาทที่ “คนหน้าเหลี่ยม” ส่งคนมาแจ้งความ และนำไปสู่การออกหมายจับ อดีตอธิบดีกรมดีเอสไอ ผู้นี้ตามมาในที่สุด
00 คดีนี้ไม่ว่าจะมองในมุมไหน รับรองว่าจะต้องมี “วาระซ่อนเร้น” เข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอน สังคมส่วนใหญ่จะมองออกว่าตำรวจใช้อำนาจกลั่นแกล้งอย่างแน่นอน เพราะตามปกติในระดับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จะต้องมีการให้เกียรติและต้องมีการประสานกันระหว่างหน่วยงานกันก่อน เพื่อให้รับทราบหมายเรียกก่อน อีกทั้งคดีนี้ถือว่าเป็นผลจากการปฏิบัติหน้าที่โดยเฉพาะในการทำคดีเอสซีแอสเสทนั่งเอง จะมองอย่างอื่นไม่ได้
00 ที่สำคัญแม้ว่าคดีหมิ่นประมาทจะเป็นคดีอาญา แต่ไม่ใช่ถือว่าเป็นคดีร้ายแรง ตำรวจไม่น่าลุกลี้ลุกลน ขยันเอาจริงเอาจังจนผิดสังเกตแบบนี้ แม้จะอ้างว่าทำตามขั้นตอนตามกฎหมาย แต่ก็อย่างว่า แล้วแต่ว่าจะเลือกใช้กฎหมายในมุมไหนมาฟาดฟันฝ่ายตรงข้ามหรือไม่
00 เมื่อพูดถึงตำรวจแล้ว เวลานี้ถือว่ากำลังเข้าใกล้รัฐตำรวจเข้าไปทุกที สัญญาณที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ การแต่งตั้งให้ “พี่เมีย” กลับเข้ามากุมบังเหียนในตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. ทำหน้าที่เหมือนกับผู้นำองค์แท้จริง และไม่ทันจะนั่งเก้าอี้ได้ข้ามวัน ก็มีการแต่งตั้งให้เข้าดูแลคดีสำคัญทั้งหมด ว่ากันว่า “ต้นทาง” ของกระบวนการยุติธรรมอยู่ในมือของเครือข่ายแม้วได้อย่างเต็มไม้เต็มมือแล้ว
00 เพราะถ้าไล่เรียงกันไปตั้งแต่หน่วยงาน ตำรวจ อัยการ ดีเอสไอ หรือล่าสุดยังโยกเลขาฯป.ป.ส.ได้ตกอยู่ในมือของคนกลุ่มเดียวกัน นี่ยังไม่นับถึงความพยายามในการแทรกแซง แทรกซื้อ ในหน่วยงานหลักๆอื่นๆ เช่น กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ฯลฯ บางหน่วยงานได้คืบคลานเข้ามาจนสำเร็จ บางหน่วยงานยังไม่สำเร็จ หรือเรียบร้อยบางส่วน แต่ความพยายามยังไม่ลดละ แต่เชื่อว่าอีกไม่นาน ถ้าสถานการณ์บ้านเมืองยังเป็นแบบนี้ อีกไม่นานก็เรียบร้อยโรงเรียนแม้ว !!
00 ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้นับรวมระดับบริหารสูงสุดในทำเนียบรัฐบาล แต่จะโฟกัสเน้นเฉพาะตำแหน่งสำคัญๆ ที่มีผลชี้เป็นชี้ตายกับ “นายใหญ่” เป็นการเฉพาะ ที่ผ่านมาแม้มีการรับรู้กันไปแล้วสำหรับตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ที่มีวาระเร่งด่วนเด้ง “สุนัย มโนมัยอุดม” ให้พ้นทางนำร่องไปก่อน หลังจากส่งฟ้องคดีเอสซีแอสเสท ที่โยงใยไปถึง “แม้ว” กับครอบครัวโดยตรง
00 และถ้าว่ากันเฉพาะกรณีของ"สุนัย" นอกจากจะถูกเด้งไปนั่งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) ยังพบกับวิบากกรรมอันน่าเจ็บปวดตามมาไม่สิ้นสุด หลังจากหาญกล้าสั่งฟ้องคนในครอบครัวแม้วยกล็อตในคดีซุกหุ้นภาค 2 แล้ว ล่าสุดยังต้องพบเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับข้าราชการระดับสูงนั่นคือ ผลกระทบจากคดีหมิ่นประมาทที่ “คนหน้าเหลี่ยม” ส่งคนมาแจ้งความ และนำไปสู่การออกหมายจับ อดีตอธิบดีกรมดีเอสไอ ผู้นี้ตามมาในที่สุด
00 คดีนี้ไม่ว่าจะมองในมุมไหน รับรองว่าจะต้องมี “วาระซ่อนเร้น” เข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอน สังคมส่วนใหญ่จะมองออกว่าตำรวจใช้อำนาจกลั่นแกล้งอย่างแน่นอน เพราะตามปกติในระดับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จะต้องมีการให้เกียรติและต้องมีการประสานกันระหว่างหน่วยงานกันก่อน เพื่อให้รับทราบหมายเรียกก่อน อีกทั้งคดีนี้ถือว่าเป็นผลจากการปฏิบัติหน้าที่โดยเฉพาะในการทำคดีเอสซีแอสเสทนั่งเอง จะมองอย่างอื่นไม่ได้
00 ที่สำคัญแม้ว่าคดีหมิ่นประมาทจะเป็นคดีอาญา แต่ไม่ใช่ถือว่าเป็นคดีร้ายแรง ตำรวจไม่น่าลุกลี้ลุกลน ขยันเอาจริงเอาจังจนผิดสังเกตแบบนี้ แม้จะอ้างว่าทำตามขั้นตอนตามกฎหมาย แต่ก็อย่างว่า แล้วแต่ว่าจะเลือกใช้กฎหมายในมุมไหนมาฟาดฟันฝ่ายตรงข้ามหรือไม่
00 เมื่อพูดถึงตำรวจแล้ว เวลานี้ถือว่ากำลังเข้าใกล้รัฐตำรวจเข้าไปทุกที สัญญาณที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ การแต่งตั้งให้ “พี่เมีย” กลับเข้ามากุมบังเหียนในตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. ทำหน้าที่เหมือนกับผู้นำองค์แท้จริง และไม่ทันจะนั่งเก้าอี้ได้ข้ามวัน ก็มีการแต่งตั้งให้เข้าดูแลคดีสำคัญทั้งหมด ว่ากันว่า “ต้นทาง” ของกระบวนการยุติธรรมอยู่ในมือของเครือข่ายแม้วได้อย่างเต็มไม้เต็มมือแล้ว
00 เพราะถ้าไล่เรียงกันไปตั้งแต่หน่วยงาน ตำรวจ อัยการ ดีเอสไอ หรือล่าสุดยังโยกเลขาฯป.ป.ส.ได้ตกอยู่ในมือของคนกลุ่มเดียวกัน นี่ยังไม่นับถึงความพยายามในการแทรกแซง แทรกซื้อ ในหน่วยงานหลักๆอื่นๆ เช่น กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ฯลฯ บางหน่วยงานได้คืบคลานเข้ามาจนสำเร็จ บางหน่วยงานยังไม่สำเร็จ หรือเรียบร้อยบางส่วน แต่ความพยายามยังไม่ลดละ แต่เชื่อว่าอีกไม่นาน ถ้าสถานการณ์บ้านเมืองยังเป็นแบบนี้ อีกไม่นานก็เรียบร้อยโรงเรียนแม้ว !!