xs
xsm
sm
md
lg

S&Pลดเรตติ้งวาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ ทำตลาดผวาวิกฤตซับไพรม์ยังมีฤทธิ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รอยเตอร์ - สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (เอสแอนด์พี)บริษัทเครดิตเรตติ้งยักษ์ใหญ่ ประกาศในวันจันทร์(2) ลดอันดับความน่าเชื่อถือของสินเชื่อสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่อย่าง เลห์แมนบราเธอร์ส, เมอร์ริลลินช์, และมอร์แกน สแตนลีย์ เพราะภาพรวมกำไรในอนาคตจะลดลงสำหรับภาคการเงินของสหรัฐฯและอาจจะต้องมีการตัดยอดขาดทุนจากตราสารซับไพรม์เพิ่มขึ้นอีก
ในรายงานของเอสแอนด์พีชี้ว่า ภาพรวมของธุรกิจการเงินขนาดใหญ่ในสหรัฐฯขณะนี้ ยังคงเป็นลบเสียส่วนใหญ่
การประกาศลดอันดับความน่าเชื่อของสถาบันการเงินขนาดใหญ่เหล่านี้ของเอสแอนด์พี ส่งผลสะเทือนต่อภาคการเงินของสหรัฐฯอย่างมาก โดยทำให้หุ้นซึ่งร่วงลงอยู่แล้วลดลงไปมากกว่าเดิม และราคาของพันธบัตรกระทรวงการคลังก็พุ่งขึ้น
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของเอสแอนด์พีได้รับการตีความว่า บ่งชี้ให้เห็นว่าภาคการเงินของสหรัฐฯยังคงอ่อนไหวต่อวิกฤตตราสารซับไพรม์อยู่มาก ถึงแม้ก่อนหน้านี้นักลงทุนคลายใจไปแล้วว่า สถานการณ์ได้ผ่านช่วงตกต่ำถึงที่สุดไปแล้ว และกำลังจะดีขึ้นเรื่อยๆ
เท่าที่ผ่านมาสถาบันการเงินทั่วโลกได้ตัดยอดขาดทุนอันเนื่องมาจากตราสารซับไพรม์ของสหรัฐฯ รวมกันแล้วถึง 350,000 ล้านดอลลาร์ แต่รายงานของเอสแอนด์พีกล่าวว่า “การตัดยอดขาดทุนอาจยังคงดำเนินต่อไปและจะส่งผลกระทบต่อรายได้”
“ตลาดประหลาดใจเล็กน้อยกับจังหวะเวลาและขนาดของการกระทำคราวนี้(ของเอสแอนด์พี)” ริคาร์โด ไคล์โบม นักวิเคราะห์ที่บีเอ็นพี ปารีบาส์ในนิวยอร์กกล่าว และเพิ่มเติมว่า “ผมไม่เห็นมีอะไรเป็นพิเศษเลยที่จะถือได้ว่ามีการเปิดเผย(เรื่องสำคัญจนทำให้ต้องมีการลดเกรด)”
“การที่มีประกาศเช่นนี้ออกมาในช่วงใกล้กับการประกาศผลประกอบการ ก็ทำให้มีการตีความกันว่าเอสแอนด์พีมองว่าไตรมาสสองจะไม่ค่อยดีนัก” ไคล์โบมกล่าว
ขณะที่ ฮิเดอากิ อินนูอิ หัวหน้าผู้จัดการส่วนค้าเงินของธนาคารมิตซูบิชิ ยูเอฟเอในญี่ปุ่นบอกว่า “ตลาดยังคงจับตามองความคืบหน้าของปัญหาในบรรดาสถาบันการเงินต่างๆ อย่างระแวดระวัง”
“ความเคลื่อนไหวในทางลบเช่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมของธุรกิจวาณิชธนกิจยังคงอ่อนแอและอาจจะมีการตัดยอดขาดทุนเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะไม่มากเท่ากับในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาก็ตาม” เอสแอนด์พีกล่าวไว้ในรายงาน
นอกจากนี้ผู้จัดอันดับความน่าเชื่อถือรายนี้ยังได้กล่าวอีกว่า อาจจะลดความน่าเชื่อถือของธนาคาร วาโคเวีย คอร์ป ลงไปอีก ภายหลังแถลงการณ์ของธนาคารเมื่อวันจันทร์ที่ให้เคน ธอมป์สัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารออกจากตำแหน่งไป แต่ก็ยังรอดูสถานการณ์ให้ชัดเจนมากกว่านี้ว่า วาโคเวียจะเปลี่ยนแปลงการคาดการณ์ผลประกอบการของธนาคารในอนาคตมากน้อยเพียงใด
เอสแอนด์พียังประกาศปรับอันดับทิศทางความน่าเชื่อถือ (outlook) ของ แบงก์ออฟอเมริกาและเจพีมอร์แกน เชส ลงมาเป็น “ลบ” ทั้งนี้การปรับเช่นนี้มีความหมายเท่ากับว่า อาจจะมีการลดอันดับความน่าเชื่อถือลงมาในช่วงสองปีข้างหน้า
ขณะเดียวกัน เอสแอนด์พีได้ปลด ซิตี้กรุ๊ป ออกจากรายชื่อสถาบันการเงินที่ต้องจับตาดูทางด้านสินเชื่อเพราะมีสัญญาณด้านลบ รวมทั้งได้ยืนยันเรตติ้งในระดับเดิม แต่ก็ได้เปลี่ยนอันดับทิศทางความน่าเชื่อถือให้เป็น “ลบ”
**เลห์แมน”จะเพิ่มทุน$3,000-4,000ล้าน**
ในขณะเดียวกันก็มีรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลฉบับวานนี้(3)ว่า เลห์แมนบราเธอร์สโฮลดิ้งอาจจะต้องระดมทุนเพิ่มอีก 3,000 ถึง 4,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าบริษัทอาจจะประกาศผลขาดทุนในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ อันนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เลห์แมนเข้าตลาดเป็นต้นมา
รายงานข่าวบอกว่า การระดมทุนอาจจะทำโดยการออกหุ้นใหม่ พร้อมลดมูลค่าของหุ้นที่มีอยู่เดิม โดยหลายฝ่ายคาดว่าเลห์แมนจะประกาศการระดมทุนนี้พร้อม ๆกับการประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกในวันที่ 16 มิถุนายน
การตีความเรื่องผลขาดทุนของเลห์แมน รวมทั้งข่าวการลดอันดับความน่าเชื่อถือของเอสแอนด์พีทำให้หุ้นของเลห์แมน บราเธอร์สลดลง 8.1% เมื่อวันจันทร์มาอยู่ที่ 33.83 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อหนึ่งหุ้น และในปีนี้หุ้นของเลห์แมนดิ่งลงมากกว่า 50% แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น