เอเอฟพี – ยูบีเอส ธนาคารใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ กำลังถูกบีบให้เปิดเผยชื่อลูกค้าที่เป็นอภิมหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ที่อาจใช้บริการของธนาคารเพื่อเลี่ยงการเสียภาษีรายได้ หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลเป็นผู้รายงานข่าวนี้ออกมา ในขณะที่ยูบีเอสปฏิเสธที่จะตอบคำถามใด ๆ
วอลล์สตรีทเจอร์นัลฉบับวานนี้(15)รายงานว่า ทางอัยการสหรัฐฯจะใช้วิธีการออกหมายเรียกขอข้อมูลเพื่อให้ยูบีเอสยินยอมให้รายชื่อของลูกค้า หลังจากได้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีในศาลสหรัฐฯที่ฟลอริดาเมื่อวันอังคาร(13) กับจำเลย 2 คน โดยคนหนึ่งเป็นอดีตพนักงานยูบีเอสที่รับผิดชอบเรื่องการบริหารสินทรัพย์ส่วนบุคคล ชื่อ แบรดลีย์ เบอร์เกนเฟลด์ และ นักธุรกิจจากรัฐลิกเตนสไตน์ชื่อ มาริโอ สแตกเกิล
ความเคลื่อนไหวคราวนี้ต่อเนื่องมาจากการสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯที่กำลังสงสัยว่า ยูบีเอส รวมทั้งเบอร์เคนเฟลด์และสแตกเกิล ได้ให้ความช่วยเหลือแก่เศรษฐีอเมริกันเลี่ยงภาษีรายได้ที่เกิดจากการลงทุนต่าง ๆหรือไม่
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารสวิตเซอร์แลนด์ทำรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์เปิดเผยว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯกำลังสอบสวนการทำธุรกรรมของธนาคารอยู่
“กระทรวงยุติธรรมกำลังตรวจสอบว่า มีลูกค้าชาวอเมริกันที่ได้รับความช่วยเหลือจากที่ปรึกษาของยูบีเอสเพื่อให้สามารถเลี่ยงกฎหมายการจ่ายภาษีของสหรัฐฯที่เกี่ยวกับการลงทุนในหลักทรัพย์ต่าง ๆหรือไม่” ยูบีเอสกล่าวในรายงาน
โดยทั่วไปธนาคารมักจะช่วยเหลือลูกค้าร่ำรวยเพื่อใช้ช่องว่างของกฎหมายทำให้เสียภาษีน้อยลง แต่ในสหรัฐฯ การพยายามเลี่ยงไม่จ่ายภาษีรายได้อย่างจงใจเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย
การสอบสวนยูบีเอสเกิดขึ้น หลังจากเจ้าหน้าที่ภาษีของสหรัฐได้เปิดการสอบสวนเศรษฐีอเมริกันมากกว่า 100 คนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่มีส่วนเกี่ยวพันกับบัญชีของยูบีเอสที่อยู่ในลิกเตนสไตน์
ยูบีเอสก็ยังได้เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ผู้บริหารคนหนึ่งถูกควบคุมตัวในสหรัฐฯและกำลังถูกสอบสวนในกรณีนี้
ธนาคารบอกว่าผู้บริหารดังกล่าวจะต้องอยู่ในสหรัฐฯเพราะต้องให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯต่อไป และธนาคารได้รายงานอีกว่าผู้บริหารรายนั้น ซึ่งไม่มีการเอ่ยชื่ออยู่ในฐานะของพยานในคดีนี้
ทางด้านหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานว่า ผู้บริหารที่ถูกทางการสหรัฐฯกักตัวไว้นั้นคือ มาร์ติน ลิคติ ซึ่งอยู่ในซูริกและเป็นผู้ดูแลธุรกิจบริหารสินทรัพย์ระหว่างประเทศของยูบีเอสส่วนหนึ่ง ลิคติเป็นนายเก่าของเบอร์เกนเฟลด์ เขาถูกควบคุมตัวโดยทางการมลรัฐฟลอริดาเมื่อเดือนที่แล้ว และการสอบสวนเรื่องภาษีนี้เกี่ยวข้องกับบริการให้คำปรึกษาที่ยูบีเอสให้แก่ลูกค้าอเมริกันระหว่างปี 2000 ถึง 2007
ยังไม่ข้อมูลแน่ชัดว่าการสอบสวนนี้จะส่งผลต่อยูบีเอสเพียงไร แต่ตอนนี้สถานะของธนาคารก็กำลังซวดเซเพราะปัญหาตราสารซับไพรม์ในสหรัฐฯที่ทำให้ขาดทุนสุทธิในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ไปแล้วถึง 11,540 ล้านฟรังก์สวิส (10,970 ล้านดอลลาร์)
ทั้งนี้ธนาคารออกมาประกาศตัดยอดขาดทุนไป 19,000 ล้านฟรังก์สวิสในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งทำให้การตัดยอดขาดทุนทั้งหมดของธนาคาร นับตั้งแต่วิกฤตทางการเงินรอบนี้ อยู่ที่ 37,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
วอลล์สตรีทเจอร์นัลฉบับวานนี้(15)รายงานว่า ทางอัยการสหรัฐฯจะใช้วิธีการออกหมายเรียกขอข้อมูลเพื่อให้ยูบีเอสยินยอมให้รายชื่อของลูกค้า หลังจากได้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีในศาลสหรัฐฯที่ฟลอริดาเมื่อวันอังคาร(13) กับจำเลย 2 คน โดยคนหนึ่งเป็นอดีตพนักงานยูบีเอสที่รับผิดชอบเรื่องการบริหารสินทรัพย์ส่วนบุคคล ชื่อ แบรดลีย์ เบอร์เกนเฟลด์ และ นักธุรกิจจากรัฐลิกเตนสไตน์ชื่อ มาริโอ สแตกเกิล
ความเคลื่อนไหวคราวนี้ต่อเนื่องมาจากการสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯที่กำลังสงสัยว่า ยูบีเอส รวมทั้งเบอร์เคนเฟลด์และสแตกเกิล ได้ให้ความช่วยเหลือแก่เศรษฐีอเมริกันเลี่ยงภาษีรายได้ที่เกิดจากการลงทุนต่าง ๆหรือไม่
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารสวิตเซอร์แลนด์ทำรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์เปิดเผยว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯกำลังสอบสวนการทำธุรกรรมของธนาคารอยู่
“กระทรวงยุติธรรมกำลังตรวจสอบว่า มีลูกค้าชาวอเมริกันที่ได้รับความช่วยเหลือจากที่ปรึกษาของยูบีเอสเพื่อให้สามารถเลี่ยงกฎหมายการจ่ายภาษีของสหรัฐฯที่เกี่ยวกับการลงทุนในหลักทรัพย์ต่าง ๆหรือไม่” ยูบีเอสกล่าวในรายงาน
โดยทั่วไปธนาคารมักจะช่วยเหลือลูกค้าร่ำรวยเพื่อใช้ช่องว่างของกฎหมายทำให้เสียภาษีน้อยลง แต่ในสหรัฐฯ การพยายามเลี่ยงไม่จ่ายภาษีรายได้อย่างจงใจเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย
การสอบสวนยูบีเอสเกิดขึ้น หลังจากเจ้าหน้าที่ภาษีของสหรัฐได้เปิดการสอบสวนเศรษฐีอเมริกันมากกว่า 100 คนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่มีส่วนเกี่ยวพันกับบัญชีของยูบีเอสที่อยู่ในลิกเตนสไตน์
ยูบีเอสก็ยังได้เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ผู้บริหารคนหนึ่งถูกควบคุมตัวในสหรัฐฯและกำลังถูกสอบสวนในกรณีนี้
ธนาคารบอกว่าผู้บริหารดังกล่าวจะต้องอยู่ในสหรัฐฯเพราะต้องให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯต่อไป และธนาคารได้รายงานอีกว่าผู้บริหารรายนั้น ซึ่งไม่มีการเอ่ยชื่ออยู่ในฐานะของพยานในคดีนี้
ทางด้านหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานว่า ผู้บริหารที่ถูกทางการสหรัฐฯกักตัวไว้นั้นคือ มาร์ติน ลิคติ ซึ่งอยู่ในซูริกและเป็นผู้ดูแลธุรกิจบริหารสินทรัพย์ระหว่างประเทศของยูบีเอสส่วนหนึ่ง ลิคติเป็นนายเก่าของเบอร์เกนเฟลด์ เขาถูกควบคุมตัวโดยทางการมลรัฐฟลอริดาเมื่อเดือนที่แล้ว และการสอบสวนเรื่องภาษีนี้เกี่ยวข้องกับบริการให้คำปรึกษาที่ยูบีเอสให้แก่ลูกค้าอเมริกันระหว่างปี 2000 ถึง 2007
ยังไม่ข้อมูลแน่ชัดว่าการสอบสวนนี้จะส่งผลต่อยูบีเอสเพียงไร แต่ตอนนี้สถานะของธนาคารก็กำลังซวดเซเพราะปัญหาตราสารซับไพรม์ในสหรัฐฯที่ทำให้ขาดทุนสุทธิในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ไปแล้วถึง 11,540 ล้านฟรังก์สวิส (10,970 ล้านดอลลาร์)
ทั้งนี้ธนาคารออกมาประกาศตัดยอดขาดทุนไป 19,000 ล้านฟรังก์สวิสในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งทำให้การตัดยอดขาดทุนทั้งหมดของธนาคาร นับตั้งแต่วิกฤตทางการเงินรอบนี้ อยู่ที่ 37,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ