ธรรมศาสตร์มีมติให้ “อาจารย์อมนกเขา” ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง อธิการบดีขอโทษสังคมไทย-ประชาชน โดยเฉพาะนักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยที่เกิดเรื่องฉาวโฉ่ขึ้น
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวานนี้ (23 เม.ย.) ที่ พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผกก.ศูนย์สวัสดิภาพเด็กเยาวชนและสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศดส.บช.น.) พ.ต.อ.ปรีดา เปี่ยมวารี ผกก.สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศดส.บชน.และ สภ.คลองหลวง นำหมายศาลจังหวัดธัญบุรี เลขที่ 840/2551 ลงวันที่ 23 เม.ย.2551 เข้าจับกุมนายกำธร เชิดชูเกียรติ อายุ 33 ปี อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ในข้อหากระทำอนาจาร โดยสืบเนื่องจากมี นศ.สาวจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า เข้าแจ้งความว่าอาจารย์คนดังกล่าวได้ติดต่อให้เธอไปพบและแจ้งว่าสอบได้เกรดไม่ดี และเสนอให้เธอสำเร็จความใคร่ด้วยปากให้เพื่อแลกเกรด โดยผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าเคยทำมา 2 ครั้งนั้น
วันนี้ (24 เมษายน) เวลาประมาณ 13.00 น.ที่ตึกโดม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) ท่าพระจันทร์ ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตนและประชาคม มธ. รู้สึกช็อค และเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่นายกำธร เชิดชูเกียรติ อาจารย์ภาควิชาระบบไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มธ. ศูนย์รังสิต ก่อเหตุอนาจารลูกศิษย์ แลกกับการเพิ่มเกรด ซึ่งในฐานะอธิการบดีต้องขอโทษต่อสังคมโดยรวมที่ มธ.ไม่สามารถดูแลบุคลากรให้ปฏิบัติตนตามหน้าที่ และดำรงตนอยู่ในกรอบจริยธรรม และมาตรฐานอันดีของอาจารย์ได้
“รวมทั้งต้องขอโทษต่อนักศึกษาผู้เสียหาย และครอบครัว ผู้ปกครอง ตลอดจนประชาคมชาว มธ.ทุกคน ที่ไม่สามารถดูแลไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นในมหาวิทยาลัย แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น มธ.ก็พร้อมรับผิดชอบและทำให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งหลังจากที่คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ได้รายงานว่า นายกำธรยอมรับว่าได้กระทำผิดจริง และทาง มธ.ก็เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีมูล จึงได้ออกคำสั่งให้นายกำธร ออกจากราชการไว้ก่อน เพราะถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นพฤติกรรมชั่วร้ายแรงที่สุดในวิชาชีพนี้”
อธิการบดี มธ. กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงนายกำธร โดยมีนายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ อดีตรองคณบดีคณะนิติศาสตร์ มธ. เป็นประธาน ให้สอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด โดยให้สอบสวนด้วยว่ากระทำผิดของนายกำธรมีความผิดร้ายแรงในเรื่องอื่น หรือมีข้าราชการหรือบุคลากรคนใดมีส่วนร่วมรู้เห็นกับการกระทำดังกล่าวหรือไม่ ทั้งนี้ หากพบว่ามีผลสอบสวนออกมาว่าผิดจริงก็จะต้องได้รับโทษขั้นสูงสุดคือ ไล่ออกจากราชการ ซึ่งจะส่งผลให้นายกำธรหมดอนาคตในวิชาชีพ ถูกบันทึกประวัติและไม่สามารถเข้ารับราชการหรือทำงานในหน่วยงานอื่นได้อีก
นอกจากนั้นเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจในมาตรฐานการวัดผลของ มธ. ตนจึงได้มอบหมายให้ทางคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ และภาควิชาระบบไฟฟ้า ตรวจสอบผลการให้เกรดของนายกำธร ในวิชาระบบไฟฟ้ากำลัง และวิชาเครื่องจักรกลไฟฟ้า ย้อนหลังไป 1 ปี เพื่อดูว่ามีความผิดปกติของการให้เกรดหรือไม่ และหากจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงการให้เกรดของนักศึกษาก็ให้ทางคณะทำเรื่องเสนอขึ้นมา รวมถึงมอบหมายให้สภาคณบดีทุกคณะดูแลการให้เกรดของแต่ละคณะด้วย อย่างไรก็ตามกรณีที่มีการกล่าวว่ามีนักศึกษา 2-3 ราย ที่นายกำธร ระบุว่าสมยอมเพื่อแลกเกรดนั้น มธ.ถือว่านักศึกษาเป็นผู้ถูกกระทำ และอยู่ในภาวะจำยอม โดยอาจารย์ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจให้เกรดบังคับให้กระทำ ดังนั้น จึงจะเยียวยาไม่ให้กระทบกับนักศึกษา และคงไม่ลดเกรดนักศึกษาแน่นอน