ผู้จัดการรายวัน - SCC แจงเพิ่มคำเสนอซื้อหุ้น TGCI โดยผู้ถือหุ้น TGCI ไฟเขียวออกหุ้นกู้แปลงสภาพ ขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมวงเงินไม่เกิน 1,200 ล้านบาท และ SCC จะหนุนตามสิทธิวงเงิน 1 พันล้านบาท ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด
นายขจรเดช แสงสุพรรณ กรรมการ บริษัท ไทย-เยอรมัน เซรามิค อินดัสทรี่ จำกัด (มหาชน)(SCC ) แจ้งว่าตามที่บริษัทเซรามิคซิเมนต์ไทย จำกัด (ผู้ทำคำเสนอซื้อ) ได้ยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของบริษัท ไทย-เยอรมัน เซรามิค อินดัสทรี่ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2551 นั้น ผู้ทำคำเสนอซื้อขอแจ้งข้อมูล เพิ่มเติมในคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (แบบ 247-4) ดังต่อไปนี้
1. ตามที่ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของกิจการวันที่ 25 เมษายน 2551 ได้มีมติอนุมัติในหลักการออกหุ้นกู้แปลง สภาพเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นในวงเงินไม่เกิน 1,200 ล้านบาท นั้น ผู้ทำคำเสนอซื้อ จะสนับสนุนการออกหุ้นกู้แปลงสภาพดังกล่าวตามสิทธิในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท โดยข้อกำหนดที่ สำคัญของหุ้นกู้แปลงสภาพดังกล่าวมีดังนี้(1) เป็นหุ้นกู้แปลงสภาพที่จัดสรรโดยการเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นของกิจการทุกรายตามสัดส่วนการถือหุ้น(2) หุ้นกู้แปลงสภาพไม่สามารถโอนได้เว้นแต่เป็นการโอนให้แก่ผู้ถือหุ้นของกิจการ และผู้ถือหุ้นกู้แปลงสภาพที่ใช้สิทธิแปลงสภาพต้องเป็นผู้ถือหุ้นของกิจการในวันที่ใช้สิทธิแปลงสภาพ
(3) หุ้นกู้แปลงสภาพมีอายุ 5 ปี นับแต่วันที่ออก อย่างไรก็ตามเมื่อครบกำหนด 5 ปีดังกล่าว หากมีผู้ถือหุ้นกู้แปลงสภาพไม่ใช้สิทธิแปลงสภาพ กิจการมีสิทธิที่จะขยายอายุของหุ้นกู้แปลงสภาพอีกกี่คราวก็ได้ ทั้งนี้ อายุรวมของหุ้นกู้แปลงสภาพสูงสุดต้องไม่เกิน 10 ปี นับจากวันที่ออกหุ้นกู้แปลงสภาพ
2. ผู้ทำคำเสนอซื้อไม่มีรายการทางธุรกิจระหว่างกันที่เกี่ยวข้องกับกิจการ ในปี 2549, 2550 และไตรมาสแรกของปี 2551 ผู้ทำคำเสนอซื้อมีแนวทางที่จะพัฒนากิจการในด้านการผลิตสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น ลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รวมถึงภาระทางการเงิน โดยการเพิ่มประสิทธิภาพในการ ผลิต การบริหาร การตลาด การขาย และการพัฒนาพนักงานและองค์กร
อย่างไรก็ตาม การพัฒนากิจการในด้านการผลิตสินค้า การตลาด การขาย ดังกล่าว จะขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้ทำคำเสนอซื้อและกิจการ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดรายการทางธุรกิจระหว่างกันได้แต่ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าของรายการระหว่างกันในขณะนี้ได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางดำเนินการที่ชัดเจน ทั้งนี้หากในอนาคตผู้ทำคำเสนอซื้อและกิจการมีรายการที่ เข้ าข่ายเป็ นรายการระหว่างกันเกิ ดขึ้น ผู้ทํ าคำเสนอซื้อจะปฏิ บั ติตามกฎหมาย หลั กเกณฑ์ และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องและมีผลใช้บังคับในขณะนั้น
นายขจรเดช แสงสุพรรณ กรรมการ บริษัท ไทย-เยอรมัน เซรามิค อินดัสทรี่ จำกัด (มหาชน)(SCC ) แจ้งว่าตามที่บริษัทเซรามิคซิเมนต์ไทย จำกัด (ผู้ทำคำเสนอซื้อ) ได้ยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของบริษัท ไทย-เยอรมัน เซรามิค อินดัสทรี่ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2551 นั้น ผู้ทำคำเสนอซื้อขอแจ้งข้อมูล เพิ่มเติมในคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (แบบ 247-4) ดังต่อไปนี้
1. ตามที่ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของกิจการวันที่ 25 เมษายน 2551 ได้มีมติอนุมัติในหลักการออกหุ้นกู้แปลง สภาพเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นในวงเงินไม่เกิน 1,200 ล้านบาท นั้น ผู้ทำคำเสนอซื้อ จะสนับสนุนการออกหุ้นกู้แปลงสภาพดังกล่าวตามสิทธิในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท โดยข้อกำหนดที่ สำคัญของหุ้นกู้แปลงสภาพดังกล่าวมีดังนี้(1) เป็นหุ้นกู้แปลงสภาพที่จัดสรรโดยการเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นของกิจการทุกรายตามสัดส่วนการถือหุ้น(2) หุ้นกู้แปลงสภาพไม่สามารถโอนได้เว้นแต่เป็นการโอนให้แก่ผู้ถือหุ้นของกิจการ และผู้ถือหุ้นกู้แปลงสภาพที่ใช้สิทธิแปลงสภาพต้องเป็นผู้ถือหุ้นของกิจการในวันที่ใช้สิทธิแปลงสภาพ
(3) หุ้นกู้แปลงสภาพมีอายุ 5 ปี นับแต่วันที่ออก อย่างไรก็ตามเมื่อครบกำหนด 5 ปีดังกล่าว หากมีผู้ถือหุ้นกู้แปลงสภาพไม่ใช้สิทธิแปลงสภาพ กิจการมีสิทธิที่จะขยายอายุของหุ้นกู้แปลงสภาพอีกกี่คราวก็ได้ ทั้งนี้ อายุรวมของหุ้นกู้แปลงสภาพสูงสุดต้องไม่เกิน 10 ปี นับจากวันที่ออกหุ้นกู้แปลงสภาพ
2. ผู้ทำคำเสนอซื้อไม่มีรายการทางธุรกิจระหว่างกันที่เกี่ยวข้องกับกิจการ ในปี 2549, 2550 และไตรมาสแรกของปี 2551 ผู้ทำคำเสนอซื้อมีแนวทางที่จะพัฒนากิจการในด้านการผลิตสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น ลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รวมถึงภาระทางการเงิน โดยการเพิ่มประสิทธิภาพในการ ผลิต การบริหาร การตลาด การขาย และการพัฒนาพนักงานและองค์กร
อย่างไรก็ตาม การพัฒนากิจการในด้านการผลิตสินค้า การตลาด การขาย ดังกล่าว จะขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้ทำคำเสนอซื้อและกิจการ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดรายการทางธุรกิจระหว่างกันได้แต่ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าของรายการระหว่างกันในขณะนี้ได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางดำเนินการที่ชัดเจน ทั้งนี้หากในอนาคตผู้ทำคำเสนอซื้อและกิจการมีรายการที่ เข้ าข่ายเป็ นรายการระหว่างกันเกิ ดขึ้น ผู้ทํ าคำเสนอซื้อจะปฏิ บั ติตามกฎหมาย หลั กเกณฑ์ และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องและมีผลใช้บังคับในขณะนั้น
