xs
xsm
sm
md
lg

แนะ5พรรคร่วมสลับขั้ว จับมือปชป.ล้มพลังแม้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายประมวล รุจนเสรี หัวหน้าพรรคประชามติ ผู้ที่เคยโด่งดังด้วยงานเขียนเรื่อง "พระราชอำนาจ"ได้แถลงข่าวเปิดหนังสืออีก 2 เล่ม คือ"ปฏิวัติ วัฒนธรรม" และ"อำนาจเงิน อำนาจรัฐ" โดยมีเนื้อหาสะท้อนแนวคิดการเมืองในปัจจุบันที่จะต้องมีการปฏิวัติความคิดกันใหม่ โดยมีการหยิบยกปัญหาวัฒนธรรมทางการเมืองที่มีข้ออ่อนด้อย ไม่เหมาะสม เพื่อให้คนไทยได้ช่วยกันปฏิวัติความคิด ก่อนที่กระแสทุนเสรีโลกาภิวัตน์จะกลืนชาติไทย และวัฒนธรรมไทย แผ่นดิน และทรัพยากรของประเทศให้หมดไป
นายประมวล ยังได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันว่า ขณะนี้การเมืองไทยกำลังเดินไปสู่ทางตัน เพราะความขัดแย้งถูกขยายไปในวงกว้างขึ้น จากการต้อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็กลายมาเป็นต้อต้านระบอบทักษิณ โดยการเรียกร้องให้นายสมัคร สุนทรเวช ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ขณะที่นายสมัคร ก็ออกมาตอบโต้ว่าจะมีการสลายการชุมนุม ทำให้ฝ่ายกลุ่มผู้ชุมนุมได้รับความเห็นใจเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการต้อสู้ในวันนี้ย้อนกลับไปเหมือนปี 48-49 ความรู้สึกของประชาชนได้รับการการคำยืนยันชัดเจนมาขึ้นในเรื่องพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ทั้งจาก กกต. และการยอมรับของนายสมัครเอง เกมต่อสู้ของกลุมพันธมิตรฯ จึงดึงพ.ต.ท.ทักษิณมาเป็นเงื่อนไข ดังนั้น เรื่องนี้ไม่มีทางจบ เพราะเชื่อว่านายสมัครไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
"ในฐานะที่ผมอยู่ในวงการการเมืองมาพอสมควรได้รู้จัก พี่เหนาะ(เสนาะ เทียนทอง) พี่หาร(ศิลปอาชา) น้องเชษฐา (พล.อ. เชษฐา ฐานะจาโร ) น้องสุวิทย์ ( นายสุวิทย์ คุณกิตติ) และน้องอนงค์วรรณ( นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน ) ว่าต้องคิดทบทวนตัวเอง ตอนเลือกตั้งใหม่ๆ เข้าไปร่วมรัฐบาลเพราะความชัดเจนในเรื่องนอมินียังไม่เกิดขึ้น แต่เวลาผ่านไป 4 เดือน ทั้งนายสมัคร และพลังประชาชน ไม่ได้ให้คุณค่ากับพรรคร่วมรัฐบาลเลย อยากเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือคิดจะทำประชามติก็ไม่เคยหารือ คิดเองทำเอง ผมรู้ว่าพรรคร่วมก็มีความอึดอัด ถ้าจะผ่าทางตัน พรรคร่วมรัฐบาลต้องย้ายค่ายมารวมกับพรรคประชาธิปัตย์ ยอมเป็นรัฐบาลปริ่มน้ำ มีส.ส.เกินเพียง7 เสียง คือ 247 เสียง ถ้าทำดีๆก็ไปได้”
นายประมวล กล่าวว่า เมื่อผ่าทางตันแล้ว สิ่งที่ควรทำคือ ไม่ต้องมีการพูดถึงการแก้รัฐธรรมนูญไป 3 ปี และเดินหน้าแก้ปัญหาความทุกข์ยากของประชาชน ให้ทุกฝ่ายมีโอกาสบริหารแต่ละกระทรวงเพิ่มมากขึ้น และในอนาคตหากมีการถอดถอน ส.ส.ที่เสนอแก้รัฐธรรมนูญ ก็อาจจะทำให้มีจำนวน ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเพิ่มขึ้นมาอีก ในส่วนของซีกสภา ก็ยังเป็นของพรรคพลังประชาชน100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งประธานสภา และรองประธานสภาฯ ดังนั้นการตรวจสอบก็จะเกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างเต็มที่
"ตอนนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแกนนำทั้ง5 พรรค มีคนบอกว่าพวกนี้ถอนตัวไม่ได้ เพราะไปรับอะไรเขามา ผมไม่เชื่อ และโอกาสนี้จะเป็นการพิสูจน์ว่าเรื่องที่กล่าวหาไม่เป็นความจริง"
นายประมวล ยังกล่าววิเคราะห์ต่อว่า หากการเมืองเข้าสู่วิกฤตจริงๆ หากจะให้นายสมัครลาออกเชื่อว่า คนที่จะมาแทนก็ยังเป็นคนที่พ.ต.ท.ทักษิณไว้วางใจ ไม่ว่าจะเป็นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ หรือนพ. สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เชื่อว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ก็ไม่ยอม แม้หากมีการยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่ สุดท้ายก็จะกลับมาเหมือนเดิม ทุกคนก็รู้ว่าใครเป็นรัฐบาล อำนาจรัฐอยู่ที่ใคร จึงไม่มีทางไป ถ้าจะถอยก็ไม่รู้จะถอยอย่างไร
"วันนี้เขาเอาประเด็นกฎหมายที่ใหญ่กว่ามากลบเรื่องเล็ก รัฐบาลใช้กฏหมายจราจร ซึ่งเป็นกฎหมายเล็กมาจัดการการชุมนุม ที่กฎหมายใหญ่อนุญาตในเรื่องของสิทธิเสรีภาพ แต่ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ วันที่ 4 มิ.ย.ที่กลุ่มมหาประชาชนพิทักษ์ประชาธิปไตย นัดชุมนุมใหญ่ ไม่แน่ใจว่าจะควบคุมได้หรือไม่ หากมีการปะทะกันก็น่าเสียใจ โอกาสที่ไม่ควรได้เห็นก็จะเกิดขึ้น ซึ่งข้อเสนอของผมได้ตรงกับที่ทางกลุ่มพันธมิตรฯ เรียกร้อง เพียงแต่ผมได้เสนอเพิ่มเติมให้ไปจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์”
นายประมวล ยังเชื่อว่า ในพรรคพลังประชาชนก็มีความต้องการที่จะเปลี่ยนตัวนายกฯ แต่เชื่อว่าคนอย่างนายสมัคร ต้องสู้ตาย ไม่ยอมง่ายๆ และไม่ยอมลาออกอย่างแน่นอน การจะเอานายสมัครลงได้มี 2 ทางคือ ต้องยุบสภา หรือปฏิวัติเท่านั้น เวลานี้การต่อสู้ขยายวงกว้างเป็นเรื่องของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ยังเป็นตัวปัญหา เพราะแม้จะมีการปฏิวัติไปแล้ว ก็ยังไม่จบ อย่างไรก็ตามในการเสนอแนวคิดดังกล่าวตนจะเดินสายพบหัวหน้าพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลเพื่อเสนอแนวทางดังกล่าวด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น