xs
xsm
sm
md
lg

51 สว.ร่วมต้านแก้รธน.เด็กเนวินชี้ลูกพี่ไม่หยุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โปรดเกล้าฯเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ 9 มิ.ย.นี้ ขณะที่ 51 ส.ว.ออกโรงค้านแก้รธน.ระบุมุ่งทำเพื่อตัวเอง ตั้งชุด ฉก.รณรงค์ให้ความรู้ประชาชน "แม้ว" ปัดพูดเรื่องแก้รธน. อ้างไม่ยุ่งการเมือง โฆษกส่วนตัวระบุลูกพี่อยากเห็นบ้านเมืองสงบ ติงกลุ่มที่ชื่นชอบอย่าก่อปัญหา ด้าน "เสนาะ" ยันคุย.แม้ว แล้วเชื่อ ส.ส.และ ส.ว.ลูกกรอกทยอยถอนชื่อในญัตติแก้ รธน. ขณะที่ ส.ส.สายเนวิน ยังดื้อ ส่วน "กลุ่มสมศักดิ์" ส่อถอนชื่อแต่รอดูท่าทีศุกร์นี้ เช่นเดียวกับ 10 ส.ว.นัดถกถอนชื่อวันนี้ เผย "เจ๊หน่อย" เดิมเกมล็อบบี้ ส.ส.พปช.ถอนชื่อโปรดเกล้าฯเปิดประชุมสภาวิสามัญ

ผู้สื่อข่าวรายว่า เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (28 พ.ค.) พระบามสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโอการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ทรงพระราชดำริว่ามีความจำเป็นเพื่อประโยชน์แห่งรัฐสมควรที่เรียกประชุมรัฐสภาเป็นการประชุมสมัยวิสามัญ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 128 และมาตรา 187 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา พ.ศ. 2551 ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2551 ผู้สนองพระบรมราชโอการ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี

51ส.ว.ออกโรงต้านแก้รธน.50

วันเดียวกันตัวแทนกลุ่ม ส.ว.สรรหา และส.ว.เลือกตั้ง จำนวน 14 คน ในนาม คณะกรรมการประสานงานสมาชิกวุฒิสภาเสวนาปัญหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วย นางพรพันธุ์ บุญยรัตพันธุ์ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย นายไพบูลย์ นิติตะวัน นายสมชาย แสวงการ นาย คำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหาพร้อมนายสาย กังกเวคิน ส.ว.ระยอง ได้ร่วมแถลงข่าวแสดงจุดยืนกรณี ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล และ ส.ว.บางส่วน เสนอญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550
นางพรพันธุ์ กล่าวว่าเมื่อคืนวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่โรงแรมรอยัลปรินซ์เซส หลานหลวง ได้มีการหารือของ ส.ว.พร้อมมีมติจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานชุดดังกล่าวประกอบด้วย ส.ว.สรรหา และ ส.ว.เลือกตั้ง รวม 51 คน ได้มีฉันทานุมัติร่วมกันว่าไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ เพราะเห็นชัดเจนว่า มีจุดมุ่งหมายทำเพื่อตนเองมากกว่าเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ซึ่งทางคณะกรรมการฯจะนำแนวคิดดังกล่าวไปทำความเข้าใจกับประชาชนทั่วประเทศ เพื่อขยายจุดยืนให้ประชาชนรับทราบมากขึ้น โดยจัดตั้งเป็นคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นมา จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง หากประธานรัฐสภาบรรจุญัตติเข้าสู่วาระการประชุม ทางกลุ่มก็จะกำหนดยุทธศาสตร์และยุทธวิธีที่จะคัดค้านต่อไปและสุดท้ายเราขอต้อนรับประชาชนทุกคนที่จะเข้าร่วมต่อสู้ในภารกิจนี้
ด้านนายสุรชัย กล่าวว่าที่มาของ ส.ว.กลุ่มนี้มาจากสถานการณ์ของบ้านเมือง ที่มีการปะกันของกลุ่มผู้ชุมนุมของพวกเราทั้งสองกลุ่มซึ่งในฐานะ ส.ว.ที่มีหน้าที่ ตรวจสอบรัฐบาล เราไม่อาจนิ่งเฉยได้ หากเราละเลยต่อภารกิจสำคัญของประเทศปัญหาก็จะยิ่งเลวร้ายไปมากกว่านี้ ดังนั้น เราต้องเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อคลี่คลายวิกฤตปัญหาของประเทศซึ่งเราจะมีการกำหนดหน้าที่การทำงานจะพยายามวางตัวเป็นกลาง โดยไม่ไปสนับสนุนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง พรรคใดพรรคหนึ่ง แต่จะยืนอยู่บนพื้นฐานผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ส.และ ส.ว.อ้างใช้สิทธิ์ตามมาตรา 291 นายสุรชัยกล่าวว่า เราไม่ได้ปฎิเสธ แต่สถานการณ์ของบ้านเมืองในขณะนี้นอกจากจะคำนึงถึงสิทธิ์ ตามกฎหมายแล้วควรพิจารณาถึงความสงบสุขของบ้านเมืองด้วย เราไม่ได้ปฎิเสธว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้แก้ไม่ได้แต่มันเป็นเวลาที่เหมาะสมหรือยัง เพราะรู้อยู่แล้วว่าเมื่อยื่นญัตติเข้ามาจะทำให้เกิดการเผชิญหน้ากัน ซึ่งวันนี้ก็เกิดขึ้นจริงและเวลานี้ไม่มีใครให้หลักประกันได้สถานการณ์จะไม่รุนแรงบานปลาย
ส่วนการณรงค์นอกสภาจะกลายเป็นว่าไม่สามารถใช้เวทีในสภาแก้ปัญหา ความขัดแย้งได้ นายสุรชัย กล่าวว่า ไม่ได้อยากให้เป็นเช่นนั้น ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะเสนอร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการทำประชามติทางกลุ่มยังไม่ได้มีการหารือกัน แต่ส่วนตัวเห็นว่าถ้าจะทำประชามติจริง ควรมีรายละเอียด มากกว่าจะถามแค่ว่าควรแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ และต้องมีการให้ความรู้แก่ประชาชนในแต่ละประเด็นด้วย ซึ่งส่วนตัวเห็นด้วย เพราะจะเป็นทางออกที่ดีได้ แต่การตั้งคำถามควรให้นักวิชาการให้มีส่วนร่วมออกแบบ

"แม้ว"ปัดไม่พูดเรื่องแก้ไขรธน.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 15.40 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับจากประเทศอินโดนีเซีย โดยมีอดีต กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และส.ส.พรรคพลังประชา อาทินายเนวิน ชิดชอบ นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ และนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม เดินทางมาต้อนรับ โดยมีกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบมารักษาความปลอดภัยกว่า 100 นาย ขณะเดียวกันยังมีตำรวจกองกำกับการปฎิบัติการพิเศษคอยยื่นส่องกล้องตรวจตราความปลอดภัยทุกระยะ
ทั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ใช้เวลาพูดคุยกับบุคคลที่มาต้อนรับประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นพ.ต.ท.ทักษิณ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อ ที่มาดักรอสัมภาษณ์เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญและสถานการณ์บ้านเมือง โดย โบกมือพร้อม กล่าวว่า เลิกการเมืองแล้ว จะสัมภาษณ์อะไร จากนั้นก็ขึ้นรถส่วนตัวเดินทางออกจากสนามบิน

ถอนญัตติให้ผู้เสนอตัดสินใจ

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกประจำตัวพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงท่าทีของ พ.ต.ท.ทักษิณต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ออกมาระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่เห็นด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พูดตลอดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญถ้าจะแก้ต้องยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ส่วนกระบวนการแก้ไขเป็นเรื่องของ ส.ส.กับประชาชนที่เป็นผู้เสนอท่านไม่ได้เกี่ยวข้อง
ส่วนที่มีการเสนอให้ชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อรอประชามติก่อนนั้น นายพงษ์เทพ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ให้ความเห็นอะไร บอแต่เพียงว่าต้องยึดประโยชน์ของประชาชนและแก้ไขให้ดีขึ้น ส่วนจะถอนญัตติหรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้ยื่นญัตติ
ส่วนเหตุการณ์ปะทะกันของผู้สนับสนุนและคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายพงศ์เทพ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เคยพูดก่อนนานแล้วว่าอยากเห็นประเทศไทยกลับสู่ความสงบร่มเย็นเหมือนเดิม สำหรับผู้ที่สนับสนุนและชื่นชนท่าน การแสดงออก ขอให้เป็นไปในทางที่สร้างสรรค์ และไม่ก่อปัญหา จุดยืนตรงนี้เหมือนเดิม

"เสนาะ"อ้าง"แม้ว"ค้านแก้รธน.

นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ให้สัมภาษณ์ วานนี้ (27 พ.ค.) อีกครั้ง ก่อนเข้าพบ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ถึงกรณีที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย และผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชาชนไม่เห็นด้วยกับการยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญของ ส.ส.พรรคพลังประชาชนบางส่วนว่า ตนได้คุยเมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 23 พ.ค. เพื่อไม่ให้เกิดการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในวันอาทิตย์ที่ 25 พ.ค. เป็นมุมมองในฐานะส.ส.และผู้เฒ่าคนหนึ่ง บ้านเมืองตอนนี้วิกฤตหนัก ข้าวยากหมาดแพง ฉะนั้นปมการเมืองควรหยุดเสียจะตายกันหรือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ต้องพูดถึง แต่ควรมากอดคอและสามัครีกันช่วยพยุงสถานะของเรือให้ฝ่ามรสุมลูกใหญ่อีกไม่รู้กี่ลูก
"เมื่อเวลา 22.00 น.ของวันศุกที่ 23 พ.ค.คนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้โทรศัพท์มาหาผมว่าเห็นด้วยทุกอย่างที่ผมเสนอไปและ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังปรารภมาว่าจะทำไปทำไม เกิดอะไรขึ้นมาก็มาลงที่ พ.ต.ท.ทักษิณทุกอย่าง การได้กลับมาสู้คดีในบ้านเกิด พ.ต.ท.ทักษิณก็พอใจแล้ว เรื่องอะไรจะไปทำตามที่กล่าวหาแบบนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญมันหากทำแบบนี้มันจะผ่านได้อย่างไร ใครจะยอม แต่ไม่เห็นมีผู้ใหญ่ของพรรคพลังประชาชนออกมาเคลื่อนไหวเลย ผมเห็นแต่เด็กๆ สิ่งที่ผมพูดแบบนี้ไม่ได้ดูถูกลูกหลานว่าจะทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จ"

มั่นใจส.ส.ลูกกรอกถอนชื่อหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคพลังประชาชนจะถอนเรื่องหรือล่าสุดยังไม่มีความคืบหน้า นายเสนาะ กล่าวว่า มันจะถอนปุ๊บปั๊บไม่ได้ เหมือนก้างคาคอ เรื่องนี้มันญัตติของ ส.ส.ไม่ใช้ของรัฐบาล มันก็ถอนยาก แต่ที่สุดมันจะเป็นไปตามที่ตนพูดไว้ว่าจะถอนญันติแน่นอน ตอนนี้ ส.ส.ก็ทยายไปถอนชื่อแล้ว และเชื่อว่าวันนี้ (28 พ.ค.) น่าจะถอนออกหมด จนทำให้ญัตติตกไป แม้จะดันทุรังทำต่อไปมันก็ไม่ผ่านแน่นอน ตนได้คุยมาหมดแล้ว แต่แต่คนในพรรคพลังประชาชนก็ตาม มีคนไม่เห็นด้วยเยอะ ยังรู้ว่าว่าสิ่งที่ดำเนินการไปนั้นมันเป็นการทำเอาใจนาย แต่เรื่องนี้มันจะฆ่านาย
"ตอนนี้นายสมัครอึดอัด เพราะนายสมัครไม่ใช่คนตั้งพรรคเอง แม้แต่พ.ต.ท.ทักษิณก็เช่นกัน เพราะสั่งอะไรไปก็ไม่เหมือนเดิม แม้นายสมัครจะบอกว่า จะออกกฎหมาย ประชามติที่ต้องหาทางออก แต่เรื่องนี้สักพักมันก็หายไปเอง ส่วนเรื่องที่บอกว่าจะออก พ.ร.ก.ประชามตินั้น หากทำแบบนั้นจริงก็คงต้องไปโรงพยาบาลจิตเวช เพราะหากเกิดอะไรขึ้นมารัฐบาลต้องรับผิดชอบ เรื่องนี้มันต้องหยุด ไม่หยุดมันก็เป็นไปไม่ได้ในทางปฎิบัติ"
ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนนี้กลุ่มพันธมิตรฯชุมนุมต่อต้านการแก้รัฐธรรมนูญ และเริ่มขับไล่รัฐบาลแล้ว นายเสนาะกล่าวว่า ไม่มีเหตุผล หากรัฐบาลไปทำในสิ่งผิด และมีจุดในการนำมาแฉก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ตอนนี้เรื่องอื่นๆ ก็ไม่มีเหตุผล หากการแก้รัฐธรรมนูญผ่านประชามติแล้วมีการต่อต้านนั้น มันไม่มีเหตุผล
ต่อมา นายเสนาะ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแก้ไขปัญหาน้ำทั้งระบบ สภาผู้แทนฯ นำคณะกรรมาธิการฯ ได้เดินทางเข้าพบ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของนายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการเข้าพบครั้งนี้น่าจะมีการหารือถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มี ส.ส.บางคนในพรรคพลังประชาชนยื่นญัตติแก้ไขจนถูกกลุ่มพันธมิตรฯออกมาเคลื่อนไหวคัดค้าน และจะเสนอให้ถอนชื่อในญัตติเพื่อลดประเด็นร้อนทางการเมือง อย่างไรก็ตามหลังการเข้าพบนายสมัครแล้ว นายเสนาะ ไปเดินทางกลับโดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ

"น้องเขยทักษิณ"ไม่รู้ผู้ใหญ่ให้ถอนชื่อ

นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบเรื่องที่นายเสนาะ ระบุว่ามีผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชาชนให้ ส.ส.ที่ยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญถอนชื่อ แต่การจะถอนชื่อหรือไม่นั้น ถือเป็นเอกสิทธิ ของส.ส. อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ยอมรับว่าได้มีการหารือกับผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชาชนแต่ไม่สามารถสั่งการได้ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีมีแนวทางเรื่องการทำประชามติ แต่ก็มีการคัดค้านในเรื่องนี้ ส่วนตัวเห็นว่าประชาชนก็มี 1 เสียงเท่ากัน ดังนั้นเมื่อมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย การทำประชามติจึงเป็นเรื่องที่ดี
ส่วนกรณีที่พรรคประชาราชและพรรคชาติไทยอยากให้ถอนญัตติออกไปนั้น นายสมชาย กล่าวว่า ก็ต้องหารือกันดู แต่คิดว่าผู้ใหญ่ในพรรคคงจะไปบังคับส.ส.ไม่ได้ และเชื่อว่าเรื่องนี้คงจะไม่ทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างส.ส.ด้วยกัน

"เด็กเนวิน"เดินหน้าแก้รธน.

ขณะที่ นายนิสิต สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน กลุ่มนายเนวิน ชิดชอบ ในฐานะกรรมการประชาสัมพันธ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคพลังประชาชน กล่าวยืนยันในฐานะเป็นแกนนำล่ารายชื่อ ส.ส. และ ส.ว.เพื่อเสนอญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ไม่มีสัญญาณจากผู้ใหญ่ในพรรค รวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในการให้ลูกพรรคถอนญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญจากประธานสภาผู้แทนราษฎร ตามที่นายเสนาะ ออกมาเปิดเผย เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ที่จะดำเนินการ
นายนิสิต ยืนยันว่า จะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผ่านกระบวนการของรัฐสภาอย่างเต็มที่ โดยไม่จำเป็นต้องถอนญัตติออกมาก่อน เพื่อรอการทำประชามติของรัฐบาล เพราะแม้ประธานสภาฯ จะบรรจุเป็นญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ คือ วันที่ 9 มิถุนายนนี้ แต่เมื่อบรรจุเป็นวาระแล้ว หากสมาชิกรัฐสภาหรือประธานสภาฯ เห็นว่ายังไม่จำเป็นต้องนำญัตติขึ้นมาพิจารณา ก็สามารถชะลอไว้ก่อนได้ จนกว่าผลการทำประชามติจะเสร็จสิ้น
นายสุนัย จุลพงศธร ประธานประชาสัมพันธ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคพลังประชาชน ยืนยันเช่นเดียวกัน ว่าไม่เคยมีสัญญาณจากผู้ใหญ่ให้ถอนญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงไม่เข้าใจเจตนาของนายเสนาะที่นำข้อมูลการพูดคุยกับผู้ใหญ่ของพรรค มาอ้างอิง

"กลุ่มสมศักดิ์"เตรียมถอนชื่อศุกร์นี้

ขณะที่ นายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคพลังประชาชน แกนนำ กลุ่มอีสานพัฒนา หนึ่งในผู้ร่วมลงชื่อสนับสนุนญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่าในวันนี้ส.ส.ในกลุ่มได้หารือกันแล้วโดยเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะถอนชื่อ จำนวน 8 คน เพื่อให้ญัตติดังกล่าวตกไปเพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง โดยได้นัดประชุมที่รัฐสภา ในวันศุกร์ที่ 30 พ.ค.นี้เวลา10.00 น.เพื่อลงมติในเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการเพราะต้องรอนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ในฐานะ ส.ส.ขอนแก่น แกนนำกลุ่ม เดินทางกลับมาร่วมประชุมด้วย
มีรายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับรายชื่อ ส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนา ที่จะขอถอนชื่อ อาทิ นายสุชาติ ศรีสุพล ส.ส.ขอนแก่น,นายเรืองเดช สุวรรณฝ่าย ส.ส.ขอนแก่น,นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด,นายวรวงษ์ พันธุ์ศิลา ส.ส.ร้อยเอ็ด นายอัสนี เชิดชัย ส.ส.สัดส่วน นางลินดา เชิดชัย ส.ส.นครราชสีมา ขณะที่ นาย ชวลิต วิชัยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ได้ขอถอนชื่อไปก่อนหน้านี้

10ส.ว.รอถกถอนชื่อแก้รธน.วันนี้

นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ส.ว.ยโสธร 1 ในผู้สนับสนุนญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ส.ว. 10 คนที่ร่วมลงชื่อในญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญและยังไม่ได้ถอนชื่อได้หารือกันถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ที่มีการชุมนุมทั้งฝ่ายคัดค้านและสนับสนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญมีความเป็นห่วงสถานการณ์ เพราะมีบางกลุ่มใข้ความรุนแรง ส.ว.เห็นว่าถ้ามีทางใดที่จะทำให้สถานการณ์คลี่คลายได้ก็ควรทำ บางคนเห็นว่าควรจะถอนชื่อในญัตติดังกล่าว เพื่อให้มีการลงประชามติก่อน ขณะที่อีกส่วนเห็นว่าหากถอนชื่อกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็จะประกาศใช้ชนะ และจะรุกคืบต่อไปอีก
อย่างไรก็ตามได้ร่างหนังสือขอถอนชื่อสนับสนุนญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้แล้ว โดย ส.ว.ในกลุ่มจำนวนครึ่งหนึ่ง พร้อมจะลงชื่อถอดถอน แต่ทางกลุ่มตกลงกันว่าจะตัดสินใจสุดท้ายในบ่ายวันพฤหัสบดีที่ 29 พ.ค.นี้

"เจ๊หน่อย"โชว์บทบาทล็อบบี้ถอนชื่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการเคลื่อนไหวให้ ส.ส.ถอนชื่อในญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ครั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่ถูกตัดสิทธิ ทางการเมือง 5 ปี และเป็นแกนนำกลุ่ม ส.ส.กทม. ได้พยายามแสดงบทบาท ติดต่อคนใกล้ชิดเดินสายขอให้ ส.ส.ที่ลงชื่อในญัตติถอนชื่อออก เพื่อลดความขัดแย้งทางการเมืองหลังพันธมิตรฯออกมาชุมนุมคัดค้าน
รายงานข่าวแจ้งว่า คุณหญิงสุดารัตน์ รู้สึกไม่พอใจบทบาทของนายเนวิน ชิดชอบ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่มักแสดงบทบาทในพรรค พยายามผลักดันสิ่งที่ตัวเองต้องการทั้งการเสนอให้นายชัย ชิดชอบ ขึ้นเป็นประธานสภาฯ ล่าสุดก็ยังสั่งให้กลุ่ม ส.ส.ในสังกัดยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยไม่ปรึกษาผู้ใหญ่ในพรรค โดยมักอ้างว่าทำไปเพราะได้รับคำสั่งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ

ปธ.วุฒิฯเผยถอนญัตติก็เสนอใหม่ได้

นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงปัญหาสมาชิกฯอาจถอนชื่อ ในญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญจนอาจทำให้รายชื่อไม่ครบ 1 ใน 5 ของสมาชิกรัฐสภา หรือ 124 คน ตามมาตรา 291 ของรัฐธรรมนูญว่า เมื่อรายชื่อไม่คบก็จะทำให้ญัตติตกไป แต่สมาชิก็สามารถยื่นญัตติใหม่ได้ และตามช่องมาตรา 291 ก็ไม่ได้กำหนดให้ต้องใช้เสียงทั้งสองสภา จะใช้เสียงแค่ สภาผู้แทนราษฎรเพียงสภาเดียวก็สามารถทำได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าพันธมิตรฯจะมีการชุมนุมยืดเยื้อหากไม่มีการถอนญัตติออกไป ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ตนก็ได้แต่หวังเหมือนทุกคนว่าจะยุติโดยเร็ว ในฐานะประธานวุฒิสภาตนก็พยายามทำทุกอย่างตามกฎหมายด้วยความเป็นกลาง
กำลังโหลดความคิดเห็น