อันธพาลการเมืองกลับมามีบทบาทอีกครั้ง และคงต้องกลับมาพิจารณาดูว่ารากเหง้าของคนจำพวกนี้มีที่มาอย่างไรบ้าง
ว่ากันไปแล้ว “อันธพาล” ก็บอกโดยนัยว่า หมายความถึง “คนพาล” จำพวกหนึ่ง แต่อันธพาลนั้น ลึกซึ้งกว่า มักหมายถึงพวกที่เกเร และใช้กำลังไร้สมอง
คนพวกนี้ไม่ใช่ “นักเลง” ซึ่งนักเลงนั้น อย่างน้อยยังมีสปิริต, รักพวกพ้อง และไม่ทำร้ายคนบริสุทธิ์ แต่จะสู้กับศัตรูแบบซึ่งหน้าไม่นิยม “หมาหมู่” และไม่ทำร้ายผู้หญิง
แต่อันธพาลจะทำร้ายเด็ก, ผู้หญิง, สตรีและผู้ชรา หรือกระทั่งผู้ทุพพลภาพ รวมทั้งจี้ปล้นปลดทรัพย์ และมักข่มขืนซ้ำ
อันธพาลรังแกคนไม่เลือกสถานที่และเวลา
เมื่อบวก “การเมือง” เข้าไป ก็อย่าไปเข้าใจผิดนะครับว่าอันธพาลมีจิตใจทางการเมือง
แต่เราควรศึกษาจิตใจของอันธพาลก่อน
เริ่มจากวัยเด็กของอันธพาล
วัยเด็กของอันธพาลนั้นเป็นด้านกลับของปัจจุบัน ในวัยเด็กพวกอันธพาลมักใจเสาะ อ่อนแอ และมักโดนเพื่อนล้อเลียน หรือโดนรังแก มีปมด้อยอย่างใดอย่างหนึ่ง มักเก็บกด กัดเล็บตัวเอง กัดเล็บเท้าและมักสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองบ่อยครั้ง ชอบถ้ำมอง และเห็นผู้หญิงก็มักอาย แต่ก็มองด้วยความหื่นกระหายอยากได้เป็นเจ้าของ แต่จีบ และรักใครไม่เป็น
เนื่องจากพ่อแม่เลี้ยงลูกไม่เป็น ปล่อยปละละเลย ส่วนมากมักมีพ่อขี้เหล้า โดนพ่อซ้อมเตะถีบ แม่ตีบ่อยๆ จึงไม่ได้รับความอบอุ่นหันไปหาเพื่อนไม่ได้ เพราะเพื่อนไม่คบด้วย
เรียนหนังสือก็ไม่ได้ดี มีนิสัยลักเล็กขโมยน้อยส่วนหนึ่งมักมีนิสัยขโมยกางเกงในและยกทรงสตรีบ่อยๆ มีจิตวิปริตทางเพศ เพราะเก็บกดด้านเพศ
พอวัยรุ่นมักดมกาว และพัฒนาไปสู่การติดยาหรือใช้สารกระตุ้นอื่นๆ รวมทั้งเริ่มข่มขืนเด็กสาวอายุน้อยมากๆ
พอโตขึ้นมาหน่อยก็ถูกชักจูงไปสู่แก๊งอันธพาลหากินด้วยการลักขโมยเล็กๆ น้อยๆ ตลอดมา
ทำงานในลักษณะ “รับจ้าง” แต่จับจด
พวกนี้ชอบที่จะได้เงินจากนักการเมือง ติดโปสเตอร์หาเสียง แต่ไม่มี “สำนึก” หรือรู้เรื่องการเมือง
อาจจะเดินแจกใบปลิวหาเสียงหลายพรรคการเมือง ทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักผู้สมัครด้วยซ้ำ
ถ้ามีการชุมนุมหาเสียงก็จะเป็นผู้ร่วมชุมนุม แต่เพื่อหาช่องทางหาเงินเท่านั้น
ดังนั้นที่ไหนมีประท้วง มีม็อบพวกนี้จะเข้าร่วมหากได้รับการจ้างงาน และจะกลายเป็นอันธพาลในการร่วมชุมนุม โดยใช้ระบบปาข้าวของ ด่าทอฝ่ายตรงข้าม โดยไม่รู้ว่าความหมายใดๆ ที่ด่าออกไป
อันธพาลการเมืองกลับมาก่อหวอดล่าสุด เมื่อพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนัดชุมนุมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ที่ผ่านมาครับ
ความรู้ของอันธพาลจำกัดมากเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ดังนั้นหากพวกนี้รู้อย่างเดียว คือ ออกมาต้านพวกค้านรัฐธรรมนูญที่จะแก้ไข
แน่นอนกำลังอันธพาลมีไม่มีมาก ไม่ถึง 30 คน ด้วยซ้ำ พวกเขาทำได้แค่ปาขวดน้ำ และขว้างสิ่งของเข้าใส่ แต่พวกนี้เห็นคนนับแสนก็จะหวั่นไหว
ไม่แน่ใจว่าจะสู้ไหวหรือไม่
กำลังพวกต่อต้านสู้ไม่ไหวแน่
อันธพาลการเมืองอาจคิดว่า เขาเปลี่ยนยุทธวิธีหาเป้าหมายใหม่ เช่น ขโมยของล้วงกระเป๋าหรือไปหาพวกต่อต้านที่แตกแถวทำร้ายดีกว่า
เฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิง, คนแก่ เป็นเป้าหมายที่จะทำร้ายได้ง่ายๆ
แน่นอนว่า พวกเขาพบและประสบความสำเร็จบ้าง ส่วนจะขโมยของพวกเดียวกันบ้างหรือไม่นั้นไม่ทราบได้
แต่อันธพาลการเมืองอย่างน้อยก็ได้เงินจากผู้จ้างงานมาหลายพันบาท
เพราะว่าพวกเขาจะต้องมาประท้วงอีกหลายวัน
อีกประการหนึ่ง อันธพาลไม่กลัวตำรวจ เพราะรู้ว่าพวกเขามีเส้นมีสายเคลียร์ได้ ดังนั้นเมื่อเขาเข้าทำร้ายผู้หญิงรายหนึ่ง เขาพบว่าตำรวจเมินเฉย
คนที่เขาทำร้ายเป็นสตรีสูงอายุแล้ว อายุร่วม 50 ปี ถูกอันธพาลตบหน้า โดยตบเธอต่อหน้าตำรวจและตำรวจเห็นๆ ก็ไม่ว่าอะไร
เขาช่วยปาก้อนหินใส่ขบวนอย่างมันมือจนทำให้ฝ่ายต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญหัวแตกไปหลายคน
มันเป็นการลอบกัด เพราะวัยเด็กเขาเคยโดนรังแกโดยสู้เพื่อนๆ ไม่ได้
ดังนั้น วันนี้เขาเอาคืนบ้าง และเขาเอาคืนกับคนที่ช่วยตัวเองไม่ได้ เช่น ผู้หญิงสูงอายุคราวเดียวกับแม่
เขาคิดถึงแม่ที่เคยตีเคยตบเขา
สะใจเขามากที่ได้ตบผู้หญิงคนนั้น เพราะเขานึกถึงหน้าของแม่ เวลาที่เขาใช้สันมือตบเธอ
นี่แหละเป็นการเอาคืนของอันธพาลที่ไม่เคยคิดเรื่องการเมืองอะไรทั้งนั้น.
ว่ากันไปแล้ว “อันธพาล” ก็บอกโดยนัยว่า หมายความถึง “คนพาล” จำพวกหนึ่ง แต่อันธพาลนั้น ลึกซึ้งกว่า มักหมายถึงพวกที่เกเร และใช้กำลังไร้สมอง
คนพวกนี้ไม่ใช่ “นักเลง” ซึ่งนักเลงนั้น อย่างน้อยยังมีสปิริต, รักพวกพ้อง และไม่ทำร้ายคนบริสุทธิ์ แต่จะสู้กับศัตรูแบบซึ่งหน้าไม่นิยม “หมาหมู่” และไม่ทำร้ายผู้หญิง
แต่อันธพาลจะทำร้ายเด็ก, ผู้หญิง, สตรีและผู้ชรา หรือกระทั่งผู้ทุพพลภาพ รวมทั้งจี้ปล้นปลดทรัพย์ และมักข่มขืนซ้ำ
อันธพาลรังแกคนไม่เลือกสถานที่และเวลา
เมื่อบวก “การเมือง” เข้าไป ก็อย่าไปเข้าใจผิดนะครับว่าอันธพาลมีจิตใจทางการเมือง
แต่เราควรศึกษาจิตใจของอันธพาลก่อน
เริ่มจากวัยเด็กของอันธพาล
วัยเด็กของอันธพาลนั้นเป็นด้านกลับของปัจจุบัน ในวัยเด็กพวกอันธพาลมักใจเสาะ อ่อนแอ และมักโดนเพื่อนล้อเลียน หรือโดนรังแก มีปมด้อยอย่างใดอย่างหนึ่ง มักเก็บกด กัดเล็บตัวเอง กัดเล็บเท้าและมักสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองบ่อยครั้ง ชอบถ้ำมอง และเห็นผู้หญิงก็มักอาย แต่ก็มองด้วยความหื่นกระหายอยากได้เป็นเจ้าของ แต่จีบ และรักใครไม่เป็น
เนื่องจากพ่อแม่เลี้ยงลูกไม่เป็น ปล่อยปละละเลย ส่วนมากมักมีพ่อขี้เหล้า โดนพ่อซ้อมเตะถีบ แม่ตีบ่อยๆ จึงไม่ได้รับความอบอุ่นหันไปหาเพื่อนไม่ได้ เพราะเพื่อนไม่คบด้วย
เรียนหนังสือก็ไม่ได้ดี มีนิสัยลักเล็กขโมยน้อยส่วนหนึ่งมักมีนิสัยขโมยกางเกงในและยกทรงสตรีบ่อยๆ มีจิตวิปริตทางเพศ เพราะเก็บกดด้านเพศ
พอวัยรุ่นมักดมกาว และพัฒนาไปสู่การติดยาหรือใช้สารกระตุ้นอื่นๆ รวมทั้งเริ่มข่มขืนเด็กสาวอายุน้อยมากๆ
พอโตขึ้นมาหน่อยก็ถูกชักจูงไปสู่แก๊งอันธพาลหากินด้วยการลักขโมยเล็กๆ น้อยๆ ตลอดมา
ทำงานในลักษณะ “รับจ้าง” แต่จับจด
พวกนี้ชอบที่จะได้เงินจากนักการเมือง ติดโปสเตอร์หาเสียง แต่ไม่มี “สำนึก” หรือรู้เรื่องการเมือง
อาจจะเดินแจกใบปลิวหาเสียงหลายพรรคการเมือง ทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักผู้สมัครด้วยซ้ำ
ถ้ามีการชุมนุมหาเสียงก็จะเป็นผู้ร่วมชุมนุม แต่เพื่อหาช่องทางหาเงินเท่านั้น
ดังนั้นที่ไหนมีประท้วง มีม็อบพวกนี้จะเข้าร่วมหากได้รับการจ้างงาน และจะกลายเป็นอันธพาลในการร่วมชุมนุม โดยใช้ระบบปาข้าวของ ด่าทอฝ่ายตรงข้าม โดยไม่รู้ว่าความหมายใดๆ ที่ด่าออกไป
อันธพาลการเมืองกลับมาก่อหวอดล่าสุด เมื่อพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนัดชุมนุมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ที่ผ่านมาครับ
ความรู้ของอันธพาลจำกัดมากเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ดังนั้นหากพวกนี้รู้อย่างเดียว คือ ออกมาต้านพวกค้านรัฐธรรมนูญที่จะแก้ไข
แน่นอนกำลังอันธพาลมีไม่มีมาก ไม่ถึง 30 คน ด้วยซ้ำ พวกเขาทำได้แค่ปาขวดน้ำ และขว้างสิ่งของเข้าใส่ แต่พวกนี้เห็นคนนับแสนก็จะหวั่นไหว
ไม่แน่ใจว่าจะสู้ไหวหรือไม่
กำลังพวกต่อต้านสู้ไม่ไหวแน่
อันธพาลการเมืองอาจคิดว่า เขาเปลี่ยนยุทธวิธีหาเป้าหมายใหม่ เช่น ขโมยของล้วงกระเป๋าหรือไปหาพวกต่อต้านที่แตกแถวทำร้ายดีกว่า
เฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิง, คนแก่ เป็นเป้าหมายที่จะทำร้ายได้ง่ายๆ
แน่นอนว่า พวกเขาพบและประสบความสำเร็จบ้าง ส่วนจะขโมยของพวกเดียวกันบ้างหรือไม่นั้นไม่ทราบได้
แต่อันธพาลการเมืองอย่างน้อยก็ได้เงินจากผู้จ้างงานมาหลายพันบาท
เพราะว่าพวกเขาจะต้องมาประท้วงอีกหลายวัน
อีกประการหนึ่ง อันธพาลไม่กลัวตำรวจ เพราะรู้ว่าพวกเขามีเส้นมีสายเคลียร์ได้ ดังนั้นเมื่อเขาเข้าทำร้ายผู้หญิงรายหนึ่ง เขาพบว่าตำรวจเมินเฉย
คนที่เขาทำร้ายเป็นสตรีสูงอายุแล้ว อายุร่วม 50 ปี ถูกอันธพาลตบหน้า โดยตบเธอต่อหน้าตำรวจและตำรวจเห็นๆ ก็ไม่ว่าอะไร
เขาช่วยปาก้อนหินใส่ขบวนอย่างมันมือจนทำให้ฝ่ายต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญหัวแตกไปหลายคน
มันเป็นการลอบกัด เพราะวัยเด็กเขาเคยโดนรังแกโดยสู้เพื่อนๆ ไม่ได้
ดังนั้น วันนี้เขาเอาคืนบ้าง และเขาเอาคืนกับคนที่ช่วยตัวเองไม่ได้ เช่น ผู้หญิงสูงอายุคราวเดียวกับแม่
เขาคิดถึงแม่ที่เคยตีเคยตบเขา
สะใจเขามากที่ได้ตบผู้หญิงคนนั้น เพราะเขานึกถึงหน้าของแม่ เวลาที่เขาใช้สันมือตบเธอ
นี่แหละเป็นการเอาคืนของอันธพาลที่ไม่เคยคิดเรื่องการเมืองอะไรทั้งนั้น.