แพทย์ผิวหนังระบุคนไทยเครียดมาก ยังผลให้โรคผิวหนังพุ่ง ทั้งสิว เริม งูสวัด ผมร่วง แผลเป็น รอยย่น ลมพิษ สะเก็ดเงิน แนะออกกำลังกาย พักผ่อน นั่งสมาธิลดเครียด
นพ.ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์อเมริกันบอร์ดสาขาโรคผิวหนัง บรรณาธิการตำราโรคผิวหนังในเวชปฏิบัติปัจจุบัน กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยเป็นโรคเครียดกันมาก เป็นที่ทราบกันว่าความเครียดส่งผลเสียต่อร่างกายหลายอย่าง เช่น ทำให้ลืมง่าย หงุดหงิด ติดยาเสพติด เหนื่อยง่าย ปัสสาวะบ่อย นอนไม่หลับ ความเครียดยังทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง แผลในกระเพาะอาหาร หืด ต่อมธัยรอยด์เป็นพิษ และโรคจิตโรคประสาท
นอกจากนั้น พบว่าความเครียดทำให้เกิดโรคผิวหนังหลายอย่าง มีงานวิจัยแสดงว่าผู้ป่วยโรคผิวหนังอย่างน้อยร้อยละ 30 มีปัญหาทางจิตใจ ปัจจุบันจึงมีตั้งสาขาวิชาใหม่คือ จิตวิทยาโรคผิวหนัง (Psycho dermatology) ที่เน้นศึกษาผลกระทบของสภาพจิตใจต่อผิวหนัง พบว่าเมื่อเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนแห่งความเครียด คือ คอร์ติซอล ทำให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น เกิดอาการผิวมัน สิว และโรคเริมกำเริบ งูสวัด แผลหายช้า และมะเร็งผิวหนังสูงขึ้น
“ความเครียดยังกระตุ้นให้เกิดโรคผิวหนังอีกหลายโรค เช่น โรคเซ็บเดิมซึ่งมีอาการเป็นผื่นแดงตามหน้าผาก แก้ม คิ้ว แนวไรผม ความเครียดทำให้เกิดโรคผิวหนังภูมิแพ้ โรคสิว ทั้งสิวอักเสบธรรมดา และสิวแปลกๆ เช่น สิวหน้าแดง สิวแกะเกา ที่เกิดจากการบีบและแกะสิวผิวอย่างมาก จนเมื่อตรวจดูผิวหนังแล้วไม่พบรอยสิว พบแต่รอยถลอก แผล และแผลเป็น ทำให้ผมร่วง ทั้งร่วงทั่วศีรษะ ร่วงเป็นหย่อม ร่วงจากการดึง ความเครียดยังทำให้เป็นด่างขาว ลมพิษ โรคสะเก็ดเงิน คันหนังศีรษะ คันผิวหนังและเกาจนเป็นตุ่มนูนหรือเป็นปื้นหนาแข็งเหมือนเปลือกไม้ รู้สึกว่ามีแมลงไต่ หรือพยาธิไช” แพทย์ผิวหนังระบุ
ในแง่ความงามนอกจากความเครียดจะทำให้เป็นสิวแล้ว นพ.ประวิตร ยังเพิ่มเติมว่า ความเครียดทำให้เป็นฝ้าได้ บางคนเวลาเครียดจะกัดเล็บ ซึ่งนอกจากมีผลเสียต่อบุคลิกภาพแล้ว ยังอาจทำให้เกิดการถ่ายทอดเชื้อโรคจากเล็บเข้าสู่ปาก ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือความเครียดทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าเกร็งตัว เกิดเป็นรอยย่นลึกที่ใบหน้า เช่น หน้าผาก และหัวคิ้ว เพื่อลดความเครียด ควรทำจิตใจให้แจ่มใสเสมอ ออกกำลังกาย ร่างกายจะหลั่งสารความสุขที่เรียกว่าเอ็นโดฟิน สารนี้มีฤทธิ์คลายปวดและทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย พักผ่อนให้เพียงพอ และฝึกสมาธิ