ผู้จัดการรายวัน - สรรหา ผอ.สสว.คนใหม่ ป่วนหนัก ผู้บริหารในระดับกระทรวงยังไม่สามารถตั้งคณะกรรมการสรรหาได้ ติดคนเก่าทำหนังสือขอต่ออายุตัวเองอีก 4 ปี ขณะเดียวกัน คนอยากเป็นกันมาก วิ่งเต้นใช้เงินเสนอฝ่ายการเมืองหลายสิบล้านบาท อีกทั้งมีการใช้อำนาจการเมืองระดับสูงเข้ามาบีบ จนผู้รับผิดชอบขยับตัวไม่ออกกลัวพลาด
กรณีที่ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ผอ. สสว.) คนปัจจุบัน คือ นางจิตราภรณ์ เตชาชาญ จะครบวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี ในวันที่ 8 มิ.ย. 51 นี้ แต่ทางการกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้ดูแลและรับผิดชอบการสรรหาผู้อำนวยการ สสว.คนใหม่ ยังไม่มีการดำเนินการในเรื่องนี้ แหล่งข่าวระดับสูงในกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เรื่องยังมีความสับสนในการดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมาย ตาม พรบ.ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ปี พ.ศ. 2543 กำหนดให้มีข้อบังคับว่าด้วยการคัดเลือก ผ.อ. สสว. ซึ่งมีกระบวนการคัดเลือกและการแต่งตั้งผู้อำนวยการ ในหมวดที่ 4 เป็นแนวทางการดำเนินการ
แหล่งข่าวเปิดเผยต่อไปว่า ปัญหาประการหนึ่งที่ทางกระทรวงอุตสาหกรรมยังดำเนินการในเรื่องนี้ไม่ได้ เนื่องจากยังไม่สามารถตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการ สสว.คนใหม่ได้ตามข้อบังคับ ข้อที่ 15 หมวดที่ 4 เรื่องนี้ตามขั้นตอนปฏิบัติ ผู้อำนวยการคนปัจจุบันจะทำเรื่องเสนอผู้รักษาการผู้อำนวยการขึ้นมาสู่การพิจารณาของบอร์ดบริหาร เพื่อให้บอร์ดบริหารมอบหมายให้ผู้รักษาการ ผ.อ. สสว.เสนอเรื่องการแต่งตัวกรรมการสรรหา ซึ่งมีจำนวน 5 คน ขึ้นมาให้บอร์ดบริหารอนุมัติ ต่อจากนั้นจะได้ดำเนินการให้เสร็จภายใน 45 วัน
ส่วนปัญหาประการที่สองนั้นแหล่งข่าวกล่าวว่า แม้จะยังไม่ได้ประกาศรับสมัคร แต่มีการวิ่งเต้นแย่งกันเพื่อเป็นผู้อำนวยการ สสว.คนใหม่ บางคนทุ่มเงินมากกว่าหลักสี่สิบล้าน เพื่อให้คนฝ่ายการเมืองสนับสนุนตัวเอง บางคนใช้เส้นสายของอดีตนายกฯเข้าพบผู้บริหารระดับสูงในทำเนียบรัฐบาล ขอให้มีการแต่งตั้งตนเอง เรื่องนี้ทำให้ประธานบอร์ดบริหารไม่กล้าขยับตัว กลัวว่าจะเกิดการผิดพลาดขึ้น และจะมีผลต่ออนาคตในการรับราชการต่อไปได้
แหล่งข่าวบอกอีกว่า เพื่อหนีปัญหาในเรื่องนี้ ประธานบอร์ดบริหาร คือ นายดำริ สุโขธนัง รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เดินทางไปราชการที่ประเทศอาร์เจนตินาประมาณหนึ่งสัปดาห์ โดยประเด็นของเรื่องทั้งหมดที่ทำให้ผู้รับผิดชอบในการสรรหาผู้อำนวยการ สสว. คนใหม่ ปวดหัวและไม่กล้าทำอะไรเลย เพราะติดอยู่ที่ประเด็นผู้อำนวยการคนปัจจุบัน ได้ทำบันทึกข้อความ เรื่อง ขอปฏิบัติงานผู้อำนวยการ สสว.ต่ออีกว่าระหนึ่ง มาถึงประธานบอร์ดบริหาร สสว. หนังสือดังกล่าวลงวันที่ 2 พ.ค. 51มีหมายเลขออกจาก สสว. ที่ อก 5200/0958 “ท่านดำริได้รับหนังสือแล้วถึงกับบ่นแบบคนหัวเสียว่า ผ.อ. สสว.ทำอย่างนี้ไม่สวยเลย”
แหล่งข่าวบอกอีกว่า ประธานบอร์ดบริหารได้นำเรื่องนี้ไปหารือกับปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดบริหารตามกฏหมาย ว่าจะดำเนินการอย่างไรดี และอยากขอลาออกจากตำแหน่ง คืนความรับผิดชอบให้กับท่านปลัดไป แต่ท่านปลัดขอให้ท่านดำอยู่ในตำแหน่งประธานบอร์ดบริหาร ต่อไป
ต่อข้อถามที่ว่า แค่เรื่องขอต่ออายุของคุณจิตราภรณ์ ทำไมถึงไม่มีใครอยากเกี่ยวข้องด้วย แหล่งข่าวชี้แจงว่า เรื่องนี้มีปัญหาทางกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องหลายประเด็น ทำให้พิจารณาดำเนินการยากพอสมควร ประเด็นแรกคือ ยังไม่มีการตีความว่า มาตรา 23 และมาตรา 25 พรบ.ส่งเสริมฯ ระบุว่า บอร์ดบริหารสามารถต่อสัญญาจ้างผู้อำนวยการ สสว.ได้อีกสมัยนั้น สามารถต่อได้โดยไม่ต้องมีการประกาศให้มีการสรรหาหรือไม่ และที่สำคัญในข้อบังคับการสรรหาข้อ 8 หมวดที่ 1 เรื่องคุณสมบัติผู้อำนวยการ กำหนดอายุผู้สมัครเป็น ผ.อ. สสว. ไว้ใน (1) ดังนี้ “อายุระหว่าง 35-55 ปี นับถึงวันปิดรับสมัครคัดเลือก” ประเด็นทางกฎหมายเหล่านี้ทำให้ยุ่งยากในการพิจารณาต่ออายุคุณจิตราภรณ์
“คุณจิตราภรณ์อายุเกิด 55 ปีแล้ว แต่ที่สำคัญบอร์ดบริหารชุดนี้ ได้ตั้งกรรมการสอบสวนการปฏิบัติงานผิดพลาดหลายเรื่องกับคุณจิตราภรณ์ ตามหนังสือเรื่อง การตรวจสอบประเมินผลสำนักงาน สสว. ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ส่งมาถึงประธานกรรมการบริหาร สสว. ลงวันที่ 27 ก.พ. 51 มีประเด็นที่ต้องสอบสวนดำเนินการถึง 7 ประเด็น 30 เรื่องสำคัญด้วยกัน” แหล่งข่าวบอกถึงสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประธานบอร์ดบริหารอยากลาออกจากตำแหน่ง แต่ลาออกไม่สำเร็จเลยต้องบินไปราชการที่ประเทศอาร์เจนตินานานนับสัปดาห์
ทั้งนี้ หนังสือขอต่ออายุตัวเองของนางจิตราภรณ์ เตชาชาญ ผู้อำนวยการ สสว. มีเนื่อหาพอสรุปได้ดังนี้ “ตามที่สัญญาจ้างผู้บริหาร ฉบับลงวันที่ 9 มิถุนายน 2547 ระหว่างสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กับข้าพเจ้า นางจิตราภรณ์ เตชาชาญ ซึ่งมีกำหนดระยะเวลา 4 ปี จะหมดอายุในวันที่ 8 มิถุนายน 2551 บัดนี้ สัญญาจ้างผู้บริหารของข้าฯ ในวาระแรก จะหมดอายุลง ข้าฯ จึงเรียนมายังท่าน เพื่อแสดงเจตนาในการขอปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้อำนวยการ สสว. ต่ออีกวาระหนึ่ง ซึ่งตาม พรบ.ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2543 ตามมาตรา 23 และมาตรา 25 กำหนดให้คณะกรรมการบริหารฯ มีอำนาจพิจารณาต่ออายุสัญญาจ้างผู้อำนวยการอีกวาระหนึ่งได้”
ในหนังสือดังกล่าวนางจิตราภรณ์ได้ขอให้ประธานบอร์ดบริหารดำเนินการ 2 เรื่อง คือ ข้อที่ 1 คณะกรรมการบริหารฯ ประชุมเพื่อพิจารณาการต่ออายุสัญญาและแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการในวาระที่ 2 ข้อที่ 2 คณะกรรมการส่งเสริมฯ ประชุมเพื่อให้ความเห็นชอบตามที่คณะกรรมการบริหารฯ เสนอ และได้มีการลงท้ายหนังสือว่า “จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา หากเห็นชอบได้โปรดกำนดวันเวลา ประชุมคณะกรรมการบริหารต่อไปด้วย จักขอบคุณยิ่ง”
แหล่งข่าวเผยว่า ประธานบอร์ดบริหารรู้สึกว่า ตนเองถูกบีบบังคับจากหนังสือดังกล่าว เพราะมีการเสนอให้ดำเนินการตามความต้องการของผู้อำนวยการ สสว. แต่เพียงฝ่ายเดียว โดยไม่ยอมให้เรื่องนี้เป็นดุลพินิจของประธานบอร์ดฯ เพราะตามกฎหมายแล้วประธานบอร์ดบริหารเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง มิใช่ผู้ปฏิบัติตาม
กรณีที่ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ผอ. สสว.) คนปัจจุบัน คือ นางจิตราภรณ์ เตชาชาญ จะครบวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี ในวันที่ 8 มิ.ย. 51 นี้ แต่ทางการกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้ดูแลและรับผิดชอบการสรรหาผู้อำนวยการ สสว.คนใหม่ ยังไม่มีการดำเนินการในเรื่องนี้ แหล่งข่าวระดับสูงในกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เรื่องยังมีความสับสนในการดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมาย ตาม พรบ.ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ปี พ.ศ. 2543 กำหนดให้มีข้อบังคับว่าด้วยการคัดเลือก ผ.อ. สสว. ซึ่งมีกระบวนการคัดเลือกและการแต่งตั้งผู้อำนวยการ ในหมวดที่ 4 เป็นแนวทางการดำเนินการ
แหล่งข่าวเปิดเผยต่อไปว่า ปัญหาประการหนึ่งที่ทางกระทรวงอุตสาหกรรมยังดำเนินการในเรื่องนี้ไม่ได้ เนื่องจากยังไม่สามารถตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการ สสว.คนใหม่ได้ตามข้อบังคับ ข้อที่ 15 หมวดที่ 4 เรื่องนี้ตามขั้นตอนปฏิบัติ ผู้อำนวยการคนปัจจุบันจะทำเรื่องเสนอผู้รักษาการผู้อำนวยการขึ้นมาสู่การพิจารณาของบอร์ดบริหาร เพื่อให้บอร์ดบริหารมอบหมายให้ผู้รักษาการ ผ.อ. สสว.เสนอเรื่องการแต่งตัวกรรมการสรรหา ซึ่งมีจำนวน 5 คน ขึ้นมาให้บอร์ดบริหารอนุมัติ ต่อจากนั้นจะได้ดำเนินการให้เสร็จภายใน 45 วัน
ส่วนปัญหาประการที่สองนั้นแหล่งข่าวกล่าวว่า แม้จะยังไม่ได้ประกาศรับสมัคร แต่มีการวิ่งเต้นแย่งกันเพื่อเป็นผู้อำนวยการ สสว.คนใหม่ บางคนทุ่มเงินมากกว่าหลักสี่สิบล้าน เพื่อให้คนฝ่ายการเมืองสนับสนุนตัวเอง บางคนใช้เส้นสายของอดีตนายกฯเข้าพบผู้บริหารระดับสูงในทำเนียบรัฐบาล ขอให้มีการแต่งตั้งตนเอง เรื่องนี้ทำให้ประธานบอร์ดบริหารไม่กล้าขยับตัว กลัวว่าจะเกิดการผิดพลาดขึ้น และจะมีผลต่ออนาคตในการรับราชการต่อไปได้
แหล่งข่าวบอกอีกว่า เพื่อหนีปัญหาในเรื่องนี้ ประธานบอร์ดบริหาร คือ นายดำริ สุโขธนัง รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เดินทางไปราชการที่ประเทศอาร์เจนตินาประมาณหนึ่งสัปดาห์ โดยประเด็นของเรื่องทั้งหมดที่ทำให้ผู้รับผิดชอบในการสรรหาผู้อำนวยการ สสว. คนใหม่ ปวดหัวและไม่กล้าทำอะไรเลย เพราะติดอยู่ที่ประเด็นผู้อำนวยการคนปัจจุบัน ได้ทำบันทึกข้อความ เรื่อง ขอปฏิบัติงานผู้อำนวยการ สสว.ต่ออีกว่าระหนึ่ง มาถึงประธานบอร์ดบริหาร สสว. หนังสือดังกล่าวลงวันที่ 2 พ.ค. 51มีหมายเลขออกจาก สสว. ที่ อก 5200/0958 “ท่านดำริได้รับหนังสือแล้วถึงกับบ่นแบบคนหัวเสียว่า ผ.อ. สสว.ทำอย่างนี้ไม่สวยเลย”
แหล่งข่าวบอกอีกว่า ประธานบอร์ดบริหารได้นำเรื่องนี้ไปหารือกับปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดบริหารตามกฏหมาย ว่าจะดำเนินการอย่างไรดี และอยากขอลาออกจากตำแหน่ง คืนความรับผิดชอบให้กับท่านปลัดไป แต่ท่านปลัดขอให้ท่านดำอยู่ในตำแหน่งประธานบอร์ดบริหาร ต่อไป
ต่อข้อถามที่ว่า แค่เรื่องขอต่ออายุของคุณจิตราภรณ์ ทำไมถึงไม่มีใครอยากเกี่ยวข้องด้วย แหล่งข่าวชี้แจงว่า เรื่องนี้มีปัญหาทางกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องหลายประเด็น ทำให้พิจารณาดำเนินการยากพอสมควร ประเด็นแรกคือ ยังไม่มีการตีความว่า มาตรา 23 และมาตรา 25 พรบ.ส่งเสริมฯ ระบุว่า บอร์ดบริหารสามารถต่อสัญญาจ้างผู้อำนวยการ สสว.ได้อีกสมัยนั้น สามารถต่อได้โดยไม่ต้องมีการประกาศให้มีการสรรหาหรือไม่ และที่สำคัญในข้อบังคับการสรรหาข้อ 8 หมวดที่ 1 เรื่องคุณสมบัติผู้อำนวยการ กำหนดอายุผู้สมัครเป็น ผ.อ. สสว. ไว้ใน (1) ดังนี้ “อายุระหว่าง 35-55 ปี นับถึงวันปิดรับสมัครคัดเลือก” ประเด็นทางกฎหมายเหล่านี้ทำให้ยุ่งยากในการพิจารณาต่ออายุคุณจิตราภรณ์
“คุณจิตราภรณ์อายุเกิด 55 ปีแล้ว แต่ที่สำคัญบอร์ดบริหารชุดนี้ ได้ตั้งกรรมการสอบสวนการปฏิบัติงานผิดพลาดหลายเรื่องกับคุณจิตราภรณ์ ตามหนังสือเรื่อง การตรวจสอบประเมินผลสำนักงาน สสว. ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ส่งมาถึงประธานกรรมการบริหาร สสว. ลงวันที่ 27 ก.พ. 51 มีประเด็นที่ต้องสอบสวนดำเนินการถึง 7 ประเด็น 30 เรื่องสำคัญด้วยกัน” แหล่งข่าวบอกถึงสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประธานบอร์ดบริหารอยากลาออกจากตำแหน่ง แต่ลาออกไม่สำเร็จเลยต้องบินไปราชการที่ประเทศอาร์เจนตินานานนับสัปดาห์
ทั้งนี้ หนังสือขอต่ออายุตัวเองของนางจิตราภรณ์ เตชาชาญ ผู้อำนวยการ สสว. มีเนื่อหาพอสรุปได้ดังนี้ “ตามที่สัญญาจ้างผู้บริหาร ฉบับลงวันที่ 9 มิถุนายน 2547 ระหว่างสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กับข้าพเจ้า นางจิตราภรณ์ เตชาชาญ ซึ่งมีกำหนดระยะเวลา 4 ปี จะหมดอายุในวันที่ 8 มิถุนายน 2551 บัดนี้ สัญญาจ้างผู้บริหารของข้าฯ ในวาระแรก จะหมดอายุลง ข้าฯ จึงเรียนมายังท่าน เพื่อแสดงเจตนาในการขอปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้อำนวยการ สสว. ต่ออีกวาระหนึ่ง ซึ่งตาม พรบ.ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2543 ตามมาตรา 23 และมาตรา 25 กำหนดให้คณะกรรมการบริหารฯ มีอำนาจพิจารณาต่ออายุสัญญาจ้างผู้อำนวยการอีกวาระหนึ่งได้”
ในหนังสือดังกล่าวนางจิตราภรณ์ได้ขอให้ประธานบอร์ดบริหารดำเนินการ 2 เรื่อง คือ ข้อที่ 1 คณะกรรมการบริหารฯ ประชุมเพื่อพิจารณาการต่ออายุสัญญาและแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการในวาระที่ 2 ข้อที่ 2 คณะกรรมการส่งเสริมฯ ประชุมเพื่อให้ความเห็นชอบตามที่คณะกรรมการบริหารฯ เสนอ และได้มีการลงท้ายหนังสือว่า “จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา หากเห็นชอบได้โปรดกำนดวันเวลา ประชุมคณะกรรมการบริหารต่อไปด้วย จักขอบคุณยิ่ง”
แหล่งข่าวเผยว่า ประธานบอร์ดบริหารรู้สึกว่า ตนเองถูกบีบบังคับจากหนังสือดังกล่าว เพราะมีการเสนอให้ดำเนินการตามความต้องการของผู้อำนวยการ สสว. แต่เพียงฝ่ายเดียว โดยไม่ยอมให้เรื่องนี้เป็นดุลพินิจของประธานบอร์ดฯ เพราะตามกฎหมายแล้วประธานบอร์ดบริหารเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง มิใช่ผู้ปฏิบัติตาม