ผู้จัดการรายวัน-นายสมเกียรติ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.เอช.เอ็ม.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม “The Breeze” (เดอะบรีส) เปิดเผยว่า บริษัทได้พัฒนาโครงการ The Breeze คอนโดมิเนียมริมชายหาดทะเลหัวหินบนพื้นที่ 5 ไร่ บริเวณเขาตะเกียบในสไตล์ของคนเมืองที่ทันสมัย (Urban Tropical Condominium) มูลค่าโครงการ 710 ล้านบาท ประกอบด้วยอาคารพักอาศัยขนาด 7 ชั้น จำนวน 6 อาคาร ขนาด 1-3 ห้องนอน พื้นที่เริ่มต้นที่ 50-152 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 1.9 ล้านบาท พร้อมสิ่งแวดล้อมต่างๆ มากมาย เช่นสวนขนาดใหญ่ สวนปาล์มกลางน้ำ และธารน้ำเล่นระดับหน้าตึก เป็นต้น พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ส่วนสาเหตุที่เข้ามาลงทุนในเมืองหัวหินนั้น เนื่องจากบริษัทเห็นว่าบ้านพักตากอากาศในเมืองหัวหินเติบโตดีและมีลู่ทางในการซื้อที่ดินในราคาที่ไม่แพง โดยโครงการ The Breeze ถือเป็นโครงการแห่งที่สองในเมืองหัวหินที่พัฒนา ส่วนโครงการแรกคือโครงการลาวัลเล่ย์ บ้านเดี่ยว จำนวน 162 ยูนิต บนพื้นที่ 50 ไร่ ตั้งอยู่ใกล้ๆกับภูเขาหิน-เหล็ก-ไฟ ราคาขายประมาณ 1.7-7 ล้านบาทต่อหลัง เปิดขายตั้งแต่เดือนพ.ย.ปี 2549 ปัจจุบันนี้มียอดขาย 70-80%
สำหรับความคืบหน้าทางการขายโครงการ The Breeze นั้น บริษัทได้แต่งตั้ง บริษัท ทัช พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นตัวแทนในการบริหารงานขายและการตลาดซึ่งตลอดช่วงระยะเวลา 5-6 เดือนของการเปิดขายมียอดขายไปไกลถึง 65% คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในต้นปีหน้าเป็นอย่างช้า มีสัดส่วนระหว่างลูกค้าคนไทย 60% และต่างชาติ 40% โดยลูกค้าต่างชาตินั้นชอบโครงการ The Breeze เพราะอยู่ในทำเลที่มีความเงียบสงบ
อย่างไรก็ตาม หากสัดส่วนของลูกค้าต่างชาติเกินโควตาที่กำหนดไว้บริษัทก็จะปรับในส่วนนั้นเป็นให้เช่าระยะยาว 30 ปี ซึ่งขณะนี้บริษัทได้เซ็นต์สัญญาก่อสร้างกับบริษัท วิศวภัทธ์ จำกัด เป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณเดือนธ.ค.2552 มีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ให้การสนับสนุนสินเชื่อโครงการในอัตราส่วน 60% ของเงินลงทุนซึ่งมาจากสายสัมพันธ์ในธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ โดยโครงการมีราคาขายถูกกว่าประมาณ 40-50% หรือมีราคาขายเริ่มที่ตารางเมตรละ 40,000 กว่าบาท เพราะไม่ได้อยู่ติดหาดแต่ก็ห่างชายหาดเพียง 200 เมตร ซึ่งเมื่อคำนวณดูแล้วโครงการที่ติดหาดทรายก็ต้องติดกฎหมายเรื่องระยะถอยร่นทำให้พื้นที่ตัวอาคารกับพื้นที่ชายหาดห่างกันอยู่ดี
ทั้งนี้ทางกลุ่มตั้งเป้าว่าจะขยายรายได้จากธุรกิจอสังหาฯปีละ 10% โดยจะขยายการลงทุนเข้าไปในจังหวัดที่บริษัทได้เข้าไปวางรากฐานธุรกิจอื่นๆ อยู่ก่อนแล้ว เช่น ราชบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี เป็นต้น แต่จะไม่เข้ามาทำตลาดในกทม.เนื่องจากมีผู้ประกอบการรายใหญ่เป็นจำนวนมากและมีการแข่งขันที่สูง โดยทางกลุ่มมีที่ดินประมาณ 2,000 ไร่กระจายอยู่ตามจังหวัดต่างๆ
อนึ่ง กลุ่มเป็นนักธุรกิจจากจังหวัดกาญจนบุรี ดำเนินธุรกิจตัวแทนจำหน่ายจักรยานยนต์ภายใต้ชื่อกลุ่มโล้วเฮงหมงมอเตอร์ มีร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ 40 สาขาใน 5 จังหวัด (กาญจนบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ราชบุรี และสมุทรสาคร) และเป็นตัวแทนจำหน่ายรถอีซูซุในจังหวัดกาญจนบุรีและราชบุรี ถือเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ในจังหวัดกาญจนบุรี
นอกจากนั้นแล้ว ยังพัฒนาอสังหาริมทรัพย์พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้แบรนด์บ้านพฤกษากาญจน์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการที่ 8 และดำเนินธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ 60 สาขาใน 10 จังหวัดภูมิภาคและธุรกิจอื่นๆ อาทิ ผู้ผลิตและจำหน่ายประตูหน้าต่างอลูมิเนียมแบรนด์ “TRUSTAND” ให้กับผู้ประกอบการบ้านจัดสรร, ธุรกิจฮาร์ดแวร์, ธุรกิจมีเดียและเว็บไซต์
ส่วนสาเหตุที่เข้ามาลงทุนในเมืองหัวหินนั้น เนื่องจากบริษัทเห็นว่าบ้านพักตากอากาศในเมืองหัวหินเติบโตดีและมีลู่ทางในการซื้อที่ดินในราคาที่ไม่แพง โดยโครงการ The Breeze ถือเป็นโครงการแห่งที่สองในเมืองหัวหินที่พัฒนา ส่วนโครงการแรกคือโครงการลาวัลเล่ย์ บ้านเดี่ยว จำนวน 162 ยูนิต บนพื้นที่ 50 ไร่ ตั้งอยู่ใกล้ๆกับภูเขาหิน-เหล็ก-ไฟ ราคาขายประมาณ 1.7-7 ล้านบาทต่อหลัง เปิดขายตั้งแต่เดือนพ.ย.ปี 2549 ปัจจุบันนี้มียอดขาย 70-80%
สำหรับความคืบหน้าทางการขายโครงการ The Breeze นั้น บริษัทได้แต่งตั้ง บริษัท ทัช พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นตัวแทนในการบริหารงานขายและการตลาดซึ่งตลอดช่วงระยะเวลา 5-6 เดือนของการเปิดขายมียอดขายไปไกลถึง 65% คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในต้นปีหน้าเป็นอย่างช้า มีสัดส่วนระหว่างลูกค้าคนไทย 60% และต่างชาติ 40% โดยลูกค้าต่างชาตินั้นชอบโครงการ The Breeze เพราะอยู่ในทำเลที่มีความเงียบสงบ
อย่างไรก็ตาม หากสัดส่วนของลูกค้าต่างชาติเกินโควตาที่กำหนดไว้บริษัทก็จะปรับในส่วนนั้นเป็นให้เช่าระยะยาว 30 ปี ซึ่งขณะนี้บริษัทได้เซ็นต์สัญญาก่อสร้างกับบริษัท วิศวภัทธ์ จำกัด เป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณเดือนธ.ค.2552 มีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ให้การสนับสนุนสินเชื่อโครงการในอัตราส่วน 60% ของเงินลงทุนซึ่งมาจากสายสัมพันธ์ในธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ โดยโครงการมีราคาขายถูกกว่าประมาณ 40-50% หรือมีราคาขายเริ่มที่ตารางเมตรละ 40,000 กว่าบาท เพราะไม่ได้อยู่ติดหาดแต่ก็ห่างชายหาดเพียง 200 เมตร ซึ่งเมื่อคำนวณดูแล้วโครงการที่ติดหาดทรายก็ต้องติดกฎหมายเรื่องระยะถอยร่นทำให้พื้นที่ตัวอาคารกับพื้นที่ชายหาดห่างกันอยู่ดี
ทั้งนี้ทางกลุ่มตั้งเป้าว่าจะขยายรายได้จากธุรกิจอสังหาฯปีละ 10% โดยจะขยายการลงทุนเข้าไปในจังหวัดที่บริษัทได้เข้าไปวางรากฐานธุรกิจอื่นๆ อยู่ก่อนแล้ว เช่น ราชบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี เป็นต้น แต่จะไม่เข้ามาทำตลาดในกทม.เนื่องจากมีผู้ประกอบการรายใหญ่เป็นจำนวนมากและมีการแข่งขันที่สูง โดยทางกลุ่มมีที่ดินประมาณ 2,000 ไร่กระจายอยู่ตามจังหวัดต่างๆ
อนึ่ง กลุ่มเป็นนักธุรกิจจากจังหวัดกาญจนบุรี ดำเนินธุรกิจตัวแทนจำหน่ายจักรยานยนต์ภายใต้ชื่อกลุ่มโล้วเฮงหมงมอเตอร์ มีร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ 40 สาขาใน 5 จังหวัด (กาญจนบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ราชบุรี และสมุทรสาคร) และเป็นตัวแทนจำหน่ายรถอีซูซุในจังหวัดกาญจนบุรีและราชบุรี ถือเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ในจังหวัดกาญจนบุรี
นอกจากนั้นแล้ว ยังพัฒนาอสังหาริมทรัพย์พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้แบรนด์บ้านพฤกษากาญจน์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการที่ 8 และดำเนินธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ 60 สาขาใน 10 จังหวัดภูมิภาคและธุรกิจอื่นๆ อาทิ ผู้ผลิตและจำหน่ายประตูหน้าต่างอลูมิเนียมแบรนด์ “TRUSTAND” ให้กับผู้ประกอบการบ้านจัดสรร, ธุรกิจฮาร์ดแวร์, ธุรกิจมีเดียและเว็บไซต์
