xs
xsm
sm
md
lg

บีบลดค่ากลั่นชะลอขึ้นดีเซลขีดเส้น26พ.ค.ต้องให้คำตอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“พูนภิรมย์” ดิ้นหาช่องแก้วิกฤติน้ำมัน สั่ง 4 โรงกลั่นดูแลบริหารค่าการกลั่น หวังนำมาดูแลราคาดีเซล ขีดเส้นให้คำตอบเช้าวันจันทร์ เพื่อรายงานครม.เศรษฐกิจ ขณะที่โรงกลั่นไออาร์พีซีเมิน เหตุถ้าช่วยแล้วขาดทุนบอร์ดคงไม่อนุมัติ ด้านโรงกลั่นแฉถูกบีบให้ช่วยในรูปเงินบริจาค ไม่ใช่ปรับลดค่าการกลั่น จับตาขึ้นก๊าซหุงต้มขนส่ง-อุตฯก.ค. หลัง 3 เดือนรถหันใช้กระฉูด ขณะที่คลังเตรียมชง ครม.เศรษฐกิจเร่ง E85 ด้านปตท.-บางจากฯจูงมือขึ้นราคาน้ำมันวันนี้ โดยขยับขึ้นเบนซิน 50 สตางค์/ลิตร และดีเซล 70 สตางค์/ลิตร ขณะที่ราคาน้ำมันดิบโลกผันผวนหนัก ดิ่งแล้วดีดขึ้นใหม่ ทะลุ 135 เหรียญต่อบาเรล ตามแรงเก็งกำไรอย่างบ้าคลั่ง

พล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับ 4 โรงกลั่นในเครือปตท.ได้แก่ บมจ.อะโรเมติกส์ และการกลั่น(โรงกลั่นพีทีทีเออาร์) , บมจ.ไออาร์พีซี ,บมจ. ไทยออยล์ และโรงกลั่นบางจากวานนี้(22 พ.ค.) ว่า ได้ขอความร่วมมือจาก 4 โรงกลั่นในการกลับไปพิจารณาลดค่าการกลั่นน้ำมันดีเซลลง เพื่อช่วยเหลือบรรเทาวิกฤติราคาน้ำมันแพง โดยขอให้โรงกลั่นทั้งหมดให้คำตอบช่วงเช้าของวันที่ 26 พ.ค. ก่อนที่จะนำไปหารือในการประชุม ครม.เศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในช่วงเย็นของวันเดียวกัน

"ที่ผ่านมาเราก็ได้พยายามติดตามปัญหาอย่างใกล้ชิด ซึ่งค่าการกลั่นก็ได้นำมาดู ล่าสุดก็เห็นว่าส่วนต่างของราคาน้ำมันดิบกับราคาดีเซลสำเร็จรูปเดือนพ.ค.นั้นสูงขึ้นพอสมควร มาอยู่ที่ 36 เหรียญต่อบาร์เรล ก็น่าจะลดส่วนนี้ลงมาได้ แต่ทั้งหมดนี้จะทำได้มากน้อยเพียงใดก็ขอรอคำตอบวันที่ 26 พ.ค.อีกครั้ง ซึ่งอาจจะเป็นทั้งข่าวดีและไม่ดีก็ได้ เราไม่ได้บังคับ และถ้าได้จะนำมาใช้ในลักษณะลดราคาหรือจะช่วยเป็นรายสาขาก็ต้องดูอีกครั้ง"

นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานยังเตรียมรายงานครม.เศรษฐกิจพิเศษ เกี่ยวกับความคืบหน้าแนวทางลดผลกระทบราคาน้ำมันแพง โดยเฉพาะการส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติในรถยนต์หรือ NGV ที่ภายในก.ค.นี้ จะมีความพร้อมมากขึ้นในแง่ของการจัดหาปริมาณก๊าซและปั๊ม พร้อมกับจะขอประสานกับคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมในการผ่อนผันการสร้างท่อก๊าซและสถานีบริการ NGV เพื่อเร่งการก่อสร้างให้เร็วขึ้น รวมไปถึงมาตรการส่งเสริมพลังงานทดแทนต่างๆ

อนุมัติแผนชดเชยค่าก๊าซหุงต้ม ปตท.

สำหรับการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) วานนี้(23 พ.ค. )ว่า ได้เห็นชอบกรอบการชดเชยการนำเข้าก๊าซหุงต้มให้แก่ บมจ.ปตท. ซึ่งเริ่มนำเข้าในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา 20,000 ตัน วงเงินชดเชย 320 ล้านบาท โดยจะได้รับการชดเชยต่อเมื่อกระทรวงพลังงานปรับโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้มเป็น 2 ราคา ระหว่างภาคขนส่ง-อุตสาหกรรม สูงกว่าภาคครัวเรือน ซึ่งกระทรวงพลังงานยืนยันหลักการดังกล่าวที่จะดำเนินการในเดือน ก.ค. เพื่อนำเงินดังกล่าวมาชดเชยให้ รวมทั้งชดเชยแก่โรงกลั่นน้ำมันกรณีที่ยกเลิกการนำก๊าซหุงต้มไปใช้ในกระบวนการผลิตแทนน้ำมันเตา

นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ส่วนต่างน้ำมันดิบกับดีเซลสิงคโปร์เฉลี่ยปี 49-50 จะอยู่ประมาณ 20 เหรียญต่อบาร์เรล แต่ช่วงที่ดีเซลขึ้นมาในขณะนี้ทำให้สูงผิดปกติเฉลี่ย เม.ย.อยู่ที่ 35 เหรียญต่อบาร์เรล พ.ค.เฉลี่ยที่ 36 เหรียญต่อบาร์เรล แต่หากพิจารณาภาพรวมค่าการกลั่นทั้งหมดแล้วจะอยู่ประมาณ 5 -6 เหรียญต่อบาร์เรลก็ถือว่าภาพรวมไม่ได้สูงมากนัก มีเพียงเฉพาะดีเซลเท่านั้น

โรงกลั่นแฉให้เงินในรูปบริจาค

รายงานข่าวจากโรงกลั่น แจ้งว่า มาตรการช่วยเหลือดังกล่าวเป็นรูปของเงินบริจาค ไม่ใช่การปรับลดค่าการกลั่น เพราะคงทำไม่ได้คงผิดหลักการค้าเสรี ซึ่งช่วงนี้ดีเซลราคาจะแพงมากหากเทียบกับราคาน้ำมันดิบ และการนำมาช่วยคงไม่สามารถช่วยได้ทั้งหมด คงนำมาช่วยเหลือเฉพาะประมง ค่าโดยสาร ซึ่งแม้ว่าจะช่วยไม่ได้มากก็ถือว่าช่วยแล้ว

ชี้อาจลดได้ 1-1.50 บ./ลิตร

นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำกล่าวว่า หากรัฐจะดำเนินการก็อาจเป็นไปได้ส่วนของโรงกลั่นที่มีศักยภาพ ซึ่งจากที่ราคาดีเซลตลาดโลกสูงกว่าน้ำมันดิบมากนั้น มีบางวันค่าการกลั่นดีเซลสูงถึง 32 เหรียญ ต่อบาร์เรล แต่หากมองค่าการกลั่นรวมทุกผลิตภัณฑ์เฉลี่ย 5-6 เหรียญต่อบาร์เรลขณะนี้ ก็ถือว่าเป็นอัตราที่ไม่ได้สูงมากนัก ดังนั้นหากทำตามแนวคิดรัฐที่จะดูเฉพาะดีเซลโรงกลั่นอาจลดค่าการกลั่นให้มาเช่น 4-5 เหรียญต่อบาร์เรล หรือคิดเป็นเงิน 1-1.50 บาทต่อลิตร แล้วนำมาช่วยค้าปลีก ดีเซลที่ล่าสุดติดลบ 2-2.50 บาทต่อลิตร เพื่อชะลอการปรับขึ้นดีเซลระยะหนึ่ง
 
ไออาร์พีซีเมิน

แหล่งข่าวจากบริษัทไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า บริษัทคงจะต้องนำประเด็นดังกล่าวไปหารือในคณะกรรมการบริหารหรือบอร์ดก่อนเพราะอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รัฐบาลไม่สามารถสั่งการได้หากผู้ถือหุ้นไม่อนุมัติเพราะต้องดูว่าทำแล้วขาดทุนหรือไม่หากขาดทุนก็คงไม่สามารถรับได้ เพราะต้องยอมรับว่าบริษัทผลิตน้ำมันใสเพียง 30-40% แถมกำมะถันสูงไม่ได้ขายในปั๊มน้ำมัน ส่วนใหญ่เป็นน้ำมันหนักที่ทำกำไรได้น้อยอยู่แล้ว

3 เดือนรถยนต์ใช้ก๊าซหุงต้มกระฉูด

นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.) กล่าวว่า แม้ว่ารัฐจะส่งสัญญาณขึ้นราคาก๊าซหุงต้มส่วนของภาคขนส่งและอุตสาหกรรมให้สูงกว่าภาคครัวเรือนภายในก.ค.นี้แต่ยอมรับว่าการใช้ก๊าซหุงต้มยังไม่ได้ลดมากนักในส่วนของรถยนต์เนื่องจากน้ำมันได้ปรับสูงขึ้นมาก โดยพบว่าไตรมาสแรกปีนี้ความต้องการใช้ก๊าซหุงต้มขยายตัว 8% โดยแบ่งเป็นการขยายตัวการใช้รถยนต์ 11% ครัวเรือน 7% อุตสาหกรรม 16.7% ปิโตรเคมีทรงตัว ขณะที่สัดส่วนการใช้ทั้งหมดอยู่ที่ 3.2 แสนตันแบ่งเป็นการใช้ครัวเรือน 51% ใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี 17% รถยนต์ 16% และภาคอุตสาหกรรม 16%

แหล่งข่าวกล่าวว่า ขณะนี้กบง.ได้เห็นชอบสูตรราคาก๊าซหุงต้มใหม่ที่จะแยกเป็น 2 ราคาแล้วโดยมีแนวโน้มว่าจะมีการปรับขึ้นก๊าซหุงต้มภาคขนส่งและครัวเรือนอย่างน้อย 6-7 บาทต่อกก.แต่การปรับขึ้นจะเป็นการทอยอยหรือไม่ทางรมว.พลังงานจะตัดสินใจอีกครั้ง

ปตท.ขึ้นน้ำมันชี้สัปดาห์หน้าจ่ออีกรอบ

นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมันบมจ.ปตท. กล่าวว่า ปตท.ต้องปรับราคาน้ำมันขายปลีกเบนซิน 50 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้เบนซิน 95 ปตท.เป็น 39.59 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 เป็น35.59 บาทต่อลิตร เบนซิน 91 เป็น 38.49 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 เป็น 34.29 บาทต่อลิตร และดีเซล 70 สตางค์ต่อลิตรทำให้ราคาใหม่เป็น 36.64 บาทต่อลิตร

“ที่ผ่านมาปตท.ได้แบกภาระเนื่องจากล่าสุดค่าการตลาดดีเซลติดลบถึง 3.80 บาทต่อลิตรซึ่งหากรวมกับค่าการตลาดที่ควรได้รับเท่ากับขาดทุนถึง 5 บาทต่อลิตร ขณะที่เบนซินค่าการตลาดบวกเพียง 14 สตางค์ต่อลิตรทั้งที่ควรจะได้รับ 1.50 บาทต่อลิตร ซึ่งหากพิจารณาเช่นนี้แล้วยอมรับว่าสัปดาห์หน้าอาจต้องปรับขึ้นอีก อย่างไรก็ตามถ้ารัฐนำค่าการกลั่นมาช่วยก็จะดีมากเพราะค้าปลีกขาดทุน”นายชัยวัฒน์ กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า บริษัทน้ำมันบางจากฯได้ประกาศปรับขึ้นราคาขายเบนซิน 50 สตางค์/ลิตร และดีเซล 70 สตางค์/ลิตรมีผลวันนี้ ส่งผลให้ราคาขายเบนซินเท่ากับผู้ค้าทุกราย แต่ดีเซลจะสูงกว่าปตท. มีราคาขายอยู่ที่ 37.14 บาท/ลิตร

พิษน้ำมันแพงปั๊มเชียงรายเรียงคิวปิด

นายโกวิท ศุภมงคล ประธานชมรมผู้ค้าน้ำมันจังหวัดเชียงราย กล่าวถึงราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงต่อเนื่องมาโดยตลอดว่า สภาพดังกล่าวทำให้ขณะนี้เจ้าของปั๊มน้ำมันต่างๆต้องทนกับภาระการลงทุนที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากต้นทุนการซื้อน้ำมันสูง ต้องโอนเงินจ่ายสดค่าน้ำมันก่อนส่งมาจากคลังน้ำมัน จ.ลำปาง แต่ค่าการตลาดยังไม่มีการเพิ่มให้ ยังได้เท่าเดิมกับราคาน้ำมันเมื่อหลายปีก่อนคือ ลิตรละ 42 สตางค์ ซึ่งไม่คุ้มค่าการลงทุน

ขณะนี้มีปั๊มน้ำมันทยอยปิดตัวไปต่อเนื่อง เพราะทำไปก็ไม่คุ้ม ซึ่งอดีตตนมีปั๊มน้ำมัน 2 แห่งก็ปิดตัวลงเหลือแค่แห่งเดียว ตนเชื่อว่าหากแนวโน้มราคาน้ำมันยังสูงต่อไปอีกก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะทำให้ปั๊มน้ำมันที่มีอยู่ในจังหวัดเชียงราย เหลือไม่เกิน 100 แห่ง จากอดีตมีมากกว่า 150 แห่ง

คลังชง ครม.เศรษฐกิจเร่ง E85

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า ในการประชุมครม.เศรษฐกิจวันที่ 26 พ.ค. นี้ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมด้วยนั้น จะมีการวางมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปัญหาน้ำมันแพง โดยจะหารือใน 2 ประเด็นหลัก คือ ลดการพึ่งพาพลังงานน้ำมันเพื่อแก้ปัญหาผลกระทบจากราคาน้ำมัน และการสร้างรายได้ให้ประชาชนเพิ่มขึ้น โดยจะหาข้อสรุปและนำมาตรการที่ได้เสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 27 พ.ค.

อย่างไรก็ตาม มาตรการที่มีข้อสรุปเบื้องต้นแล้ว คือ การเร่งรัดให้มีรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน E85 ให้เร็วขึ้นในไตรมาสที่ 3/51 จากก่อนหน้าที่คาดว่าจะมีการใช้ในอีก 2-3 ปี เพราะขณะนี้สถานการณ์ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยน้ำมัน E85 ถูกกว่าเบนซิน 95 มากกว่าลิตรละ 10 บาท ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงานลงได้

"ในช่วงแรกอาจให้นำเข้ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน E85 ก่อน หลังจากนั้นจะเร่งผลักดันให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน E85 ส่วนรถยนต์ที่จะหันมาใช้ก๊าซ NGV นั้นถือเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ใช้รถอยู่แล้ว"

น้ำมันดิบโลกดิ่งแล้วดีดขึ้นใหม่

สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบของโลกอยู่ในภาวะผันผวนรุนแรง โดยเมื่อวันพฤหัสบดี(22) หลังจากระหว่างวันทำนิวไฮ ทะลุระดับ 135 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้ว ก็มีแรงเทขายทำกำไรกันหนัก จนลงมาปิดที่ระดับ 130 ดอลลาร์เศษๆ แล้วพอวานนี้ (23) ก็ดีดกลับขยับขึ้นใหม่ไปอยู่เฉียดๆ 133 ดอลลาร์

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของตลาดไนเม็กซ์แห่งนิวยอร์ก ซึ่งทะยานขึ้นทำสถติสูงสุดที่ 135.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในการซื้อขายระหว่างวันช่วงหนึ่งของวันพฤหัสบดี ได้ดิ่งลงมาปิดที่ 130.81 ดอลลาร์ ต่ำกว่าราคาปิดวันพุธอยู่ 2.36 ดอลลาร์ ส่วนสัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนต์ ของตลาดลอนดอน ในการซื้อขายระหว่างวันก็ทำนิวไฮที่ 135.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก่อนถอยมาปิดที่ 130.15 ดอลลาร์ ลดลงกว่าปิดวันพุธ 2.19 ดอลลาร์

มาถึงเมื่อวานนี้ ราคาน้ำมันดิบก็ดีดตัวกลับขึ้นไปใหม่ โดยในเวลาเที่ยงเศษที่ลอนดอนวานนี้ ไลต์สวีตครูดอยู่ที่ 132.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ก็อยู่ที่ 132.99 ดอลลาร์

เชน โอลิเวอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์แห่ง เอเอ็มพี แคปิตอล อินเวสเตอร์ส ในนครซิดนีย์ ให้ความเห็นว่า "จากการทะยานขึ้นของราคาน้ำมันที่กำลังเริ่มดูเหมือนกับการเก็งกำไรอย่างบ้าคลั่งมากขึ้นทุกทีเช่นนี้ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการไต่ขึ้นไปอีกในระยะสั้น เนื่องจากเงินทุนเก็งกำไรมากขึ้นๆ กำลังถูกดูดเข้าสู่กระแสน้ำวนที่สร้างขึ้นจากราคาที่ทะยานขึ้นไปเรื่อยๆ"

เขากล่าวต่อไปว่า ราคาน้ำมันที่ระดับ 150 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล "เวลานี้เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในการซื้อขายอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้านี้" ยิ่งเมื่อการผลิตน้ำมันอยู่ในสภาพที่ไล่ตามไม่ทันความต้องการใช้อยู่เช่นนี้ ราคาน้ำมันที่ระดับ 300 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล "ก็ไม่ใช่สิ่งที่ไม่พึงคาดหมายเลยภายในกรอบเวลา 5 ปี"

ก่อนหน้านั้นในวันพฤหัสบดี อับดาลา เอ บาดรี เลขาธิการโอเปก กล่าวว่า กลุ่มประเทศโอเปกซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันมากกว่าหนึ่งในสามของโลก มีความกังวลใจกับราคาที่ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์แทบทุกวันอย่างที่เป็นอยู่

"พวกเราไม่สบายใจกับการทะยานขึ้นนี้เลย" เอล บาดรีกล่าวในขณะที่เดินทางเยือนเอกวาดอร์ "ความผันผวนในตลาดไม่มีอันใดเกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานแม้แต่น้อย ไม่เกี่ยวกับความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลกอีกด้วย"

เอล บาดรีชี้ว่าปัจจัยประการหนึ่งก็คือค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ร่วงลงต่อเนื่อง มีส่วนทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นด้วย "ราคาเมื่อวันก่อนอยู่ในระดับ 130 ดอลลาร์แต่วันนี้โดดขึ้นไปถึง 135 ตลาดคลั่งไปแล้วจริง ๆ" เขากล่าว

เอล บาดรี เสริมด้วยว่า ในอดีตเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับปริมาณน้ำมัน ทางกลุ่มก็เรียกประชุมอย่างไม่ลังเลและพยายามแก้ไขปัญหา แต่ตอนนี้เราเชื่อว่าราคาน้ำมันไม่เกี่ยวกับปริมาณในตลาด เพราะมีน้ำมันในตลาดอย่างพอเพียง รวมทั้งในคลังสำรองก็ไม่ได้ขาดแคลนแต่อย่างใด เขาเน้นว่าปัญหาใหญ่ตอนนี้ก็คือการเก็งกำไร
กำลังโหลดความคิดเห็น