xs
xsm
sm
md
lg

ชท.ซัดพฤติกรรมขายชาติทักษิณดึงซาอุฯลงทุนทำนา-พงษ์เทพอ้างแค่ซื้อข้าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวในเรื่องนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หารือกับนายประภัตร โดธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทย เพื่อนำนักลงทุนจากประเทศซาอุดิอารเบีย มาเช่าพื้นที่ประเทศไทยเพื่อทำนาโดยว่า จ้างชาวนาไร่ละ 5,000 บาทเพื่อทำนาว่า การทำนาที่จ.สุพรรณบุรี ไม่จำเป็นให้คนต่างชาติมาช่วยทำเพราะคนสุพรรณฯและคนไทยมีความสามารถมีศักยภาพที่จะทำนาเองได้อยู่แล้วซึ่งทำได้ดีด้วย และอาชีพทำนาก็เป็นอาชีพที่มีกฏหมายให้ไว้เฉพาะคนไทย
ส่วนได้พูดคุยกับนายประภัตร ถึงแนวคิดนี้แล้วหรือยัง นายบรรหาร กล่าวว่า ขอไม่ตอบในเรื่องนี้และไม่จำเป็นต้องให้นโยบายกับนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์ เพราะเขารู้แล้วว่าควรจะต้องทำอะไร
ด้าน นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ว่า เรื่องนี้กระทรวงเกษตรฯไม่เห็นด้วย และจะคัดค้านอย่างเต็มที่ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าความคิดนี้เป็นความคิดของใคร แต่แนวคิดนี้คือ แนวคิดของการขายชาติ เกษตรเป็นวัฒนธรรมที่ผูกติดกับวิถีชีวิตของผู้คนในสังคม ทุกครั้งที่ประเทศชาติได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ มีแต่ภาคการเกษตรเท่านั้นที่ช่วยรักษาชาติ ฉะนั้นวันนี้ถ้ามองไม่เห็นความสำคัญภาคการเกษตร ก็อย่าชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน กระทรวงเกษตรฯ ขอปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง
“มีกฎหมายคุ้มครองอาชีพให้กับคนไทยหนึ่งในนั้นคือคุ้มครองอาชีพ การเกษตร อย่าไปมองในเรื่องของธุรกิจ อย่ามองในเรื่องของผลประโยชน์ ถ้ามองในเรื่องของธุรกิจและผลประโยชน์ ความเป็นชาติก็จะพินาจสลายอย่างแน่นอน”
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า อยากให้ทุกคนที่คิดเรื่องนี้น้อมนำเอาพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาใส่เกล้าใส่กระหม่อมว่า ควรจะรักษาชาวนา อย่างไร จะดูแลเกษตรกรอย่างไร อย่าคิดเอาผลประโยชน์ส่วนตัวมาเป็นที่ตั้ง ยิ่งได้มองเห็นรูปแบบในการคิดแล้ว บอกได้เลยว่าวิธีคิดอย่างนี้คือ การทำลายล้างชาวนา ทำลายล้างเกษตรกรให้หมดไปจากแผ่นดิน
“มีอย่างที่ใหนมารวบร่วมนักวิชาการ รวบร่วมเกษตรกรแล้วไปรับจ้างปลูกข้าว ไร่หนึ่ง 5,000 บาท ไม่คิดถึงหัวอกเกษตรกรที่ไม่มีนาทำเหรอครับ เกษตรกรวันนี้ 62% ในภาคกลางเช่าที่ทำนา ถ้าวิธีคิดอย่างนี้ออกมาต่อไปเจ้าของที่นา ก็ไล่เกษตรกรหมด เจ้าของที่ดินก็จ้างเข้ามาทำนาไร่ละ 5,000 บาท ผลผลิตได้เป็นกอบเป็นกำแล้วชาวนาจะอยู่ที่ใหน ใครจะรักษาชาวนา”
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า กระทรวงเกษตรฯ ปฎิเสธเรื่องนี้อย่างสิ้นเชิง และก็จะต่อต้านจนถึงที่สุด วีธีคิดอย่างอื่นมีเยอะ เช่นการชวนชาวต่างชาติมาลงทุน ภาคอุตสาหกรรมภาคอื่นๆ มีอีกเยอะ อย่ามาทำลายทางภาคการเกษตรเลย
นายสมศักดิ์ กล่าวว่าการจะให้ต่างชาติเข้ามาทำการเกษตรต้องแกัไขกฎหมายให้ยกเลิกการสงวนอาชีพให้คนไทย หากแก้กฎหมายแบบนี้จริงตนอยากจะดูเเหมือนกันว่าถ้าเข้าสู่สภาฯ ผู้แทนฯคนไหนจะยกมือสนับสนุน ตนก็อยากจะดูเหมือนกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่านายประภัตร โพธสุธน ออกมาพูดอย่างนี้มีนัยอะไรหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ตนไม่มองว่าใครจะเป็นคนพูด มองในหลักการว่าหลักการอย่างนี้ ปฏิเสธ และรับไม่ได้ ทำไมเมื่อก่อนนี้ผลผลิตทางการเกษตรไม่ดีถึงไม่มาคิด และวันนี้ประเทศที่จะมาเป็นประเทศมหาเศรษฐีทางน้ำมัน รู้ว่าวิกฤตโลกกำลังเกิดจากการขาดอาหาร ทำไมถึงคิดช้าจัง ทำไมถึงพึ่งมาคิดตอนนี้ละมันเป็นการส่งนัยมากกว่า
นายนิพิฐฏ์ อินทรสมบัติ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณมองทุกอย่างเป็นธุรกิจไปหมดมองประชาชนเป็นผู้บริโภค ไม่ได้มองว่าเป็นพลเมือง
“ผมคิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณ กำลังใช้ประเทศไทย เป็นแหล่งในการสร้างความ ร่ำรวย และพยามยามแสดงบทบาททางการเมืองอีกทางหนึ่ง ไม่ให้ตัวเองตกกระแส โดยพยายามหาพื้นที่ในการผลิตอาหาร เพื่อเป็นวัตถุดับในการสร้างอำนาจ ใช้วิกฤติให้เป็นประโยชน์ทุกเรื่อง โดยเฉพาะเห็นว่าต่างชาตินั้นสายป่านจะยาวกว่า ทั้งในแง่ของทุนและเทคโนโลยี่สามารถทำผลิตผลให้มีคุณภาพได้มากกว่า แต่ผมคิดว่ พ.ต.ท.ทักษิณน่าจะคิดถึงชาวนาไทยให้มาก โดยนำทุนที่มีอยู่นั้นมาทุ่มเท ให้ชาวนาไทย มากกว่าที่จะนำคนต่างชาติมาทำเรื่องนี้ อาจเป็นไปได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เล็งเห็นแล้วว่า ในอนาคตวิกฤติโลกมีอยู่ 2 เรื่อง คือ วิกฤติพลังงาน และวิกฤติอาหาร คนที่เข้าใจวิกฤติดังกล่าวและสามารถฉวยโอกาสวิกฤตินี้ได้ ก็สามารถที่จะกุมอำนาจในโลกและสร้างความร่ำรวยได้”
นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธีชีววิถี หรือไบโอไทย กล่าวเครือข่ายเกษตรกรทั่วประเทศจะประชุมกันในวันที่ 1 มิ.ย.ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อเคลื่อนไหวคัดค้านให้ถีงที่สุด โดยจะมีแกนนำหลักจาก 5 องค์กรเข้าร่วม ประกอบด้วย เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีและศึกษาผลกระทบต่อประชาชน หรือเอฟทีเอวอซ เครือข่ายหนี้สินชาวนา เครือข่ายปฏิรูปที่ดินและสภาเครือข่ายองค์กรประชาชน ร่วมตัวกัน 400-500 คน
นายวิฑุรย์ กล่าวว่า การหารือครั้งนี้จะพูดกันถึงผลกระทบใน 2 ประเด็นหลักที่เกิดกับประเทศไทยหลังเกิดวิกฤตอาหารโลกและวิกฤติราคาน้ำมัน คือ 1. กลุ่มทุนต่างชาติที่รวมหัวกับกลุ่มทุนในประเทศมาแย่งที่ดินทำกินและแย่งพื้นที่ทำเกษตรกรรมของคนไทย ซึ่งจะกลายเป็นวิกฤติที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ภายใน 2 - 3 ปีนี้ โดยเกิดจากปัญหาการแย่งชิงทรัพยากรที่ดิน ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐาน เป็นหัวใจหลักการผลิตของประเทศ ให้ไปตกอยู่กับกลุ่มทุนรายใหญ่ชาวต่างชาติ และกลุ่มทุนในประเทศ รวมถึงกลุ่มทุนท้องถิ่น เทียบเคียงได้กับกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ กับนายประภัตร ที่จะพยายามเข้าไปแย่งพื้นที่ทำการเกษตร ซึ่งขณะนี้การตั้งบริษัทเข้าไปดำเนินการกับที่ดินแล้วจ้างทำนา ซึ่งได้ลุกลามเข้าไปหลายจังหวัดแล้ว มีทั้ง จ.พิจิตร พิษณุโลก มหาสารคาม บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี และนครสวรรค์ ร่วมทั้งจังหวัดสุพรรณบุรีบางพื้นที่ด้วย
“แม้จะมีกฎหมายสงวนอาชีพทำนาไว้ให้กับคนไทย แต่ก็กลัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะใช้ำนาจเหนือรัฐบาลชุดนี้ผลักดันให้รัฐบาลยอมรับการลงทุนจากต่างชาติ โดยใช้กฎหมายส่งเสริมการลงทุนมาเป็นเครื่องมือ และใช้บริษัทนอมินีที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นอย่างนายประภัตร เป็นผู้จดทะเบียนแทน ซึ่งเรื่องนี้ผใมเห็นว่า มีความเป็นไปได้สูง เพราะรัฐบาลชุดนี้พยายามจะปรับความสัมพันธ์กับซาอุฯให้กลับมาอยู่ในระดับปกติ ซึ่งก็คงจะใช้การร่วมทุนดังกล่าวเป็นเครื่องมือในการพัฒนาความสัมพันธ์กับซาอุ และที่ผ่านมาได้เคยมีบริษัทญี่ปุ่น มาลงทุนปลูกข้างพันธุ์ลุกผสมที่ จ.สุโขทัย โดยให้นักการเมืองท้องถิ่นเป็นผู้จัดจัดตั้งบริษัท บังหน้าแทน”
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า 2. การลงทุนของทุนข้ามชาติโดยผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ ร่วมกับทุนในประเทศและสมรู้ร่วมคิดกับรัฐบาลเพื่อให้เป็นแนวนโยบายของประเทศ ที่จะใช้เทคโนโลยีนั้น เช่น พันธุ์ข้าวลูกผสม ซึ่งขณะนี้ ได้มีการใช้แพร่หลายในหลายจังหวัด และให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.) หักกับเกษตรกร ที่เป็นลูกหนี้ของ ธกส.ให้หักค่าพันธุ์ข้าว ไร่ละ 1,600 บาท ซึ่งเป็นการลงทุนที่ชาวนา เสี่ยงร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่บริษัทดังกล่าวได้กำไรร้อยเปอร์เซ็นต์
ร่วมทั้งปัญหาเกษตรกรไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเองอีกเกือบ 2 ล้านครอบครัว ซึ่งเป็นปัญหาที่รุนแรงและใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญ แต่ไม่เคยมีรัฐบาลหรือหน่วยงานรัฐแก้ไขอย่างจริงจัง เพราะฉะนั้นการที่ประเทศไทยจะล้าหลังกว่าเวียตนาม ไต้หวันและจีน อย่างแน่นอน เพราะประเทศเหล่านี้มีโครงสร้างที่จัดสรรที่ดินให้เกษตรกรอย่างชัดเจน และมีการแบ่งโซนที่ดินเพื่อเกษตรกรรมและเพื่อเศรษฐกิจอย่างชัดเจน และมีกฎหมายคุ้มครองที่เข้มงวด
ด้านนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกประจำตัวพ.ตท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ทางซาอุฯไม่ได้คิดจะมาทำนาในเมืองไทย แต่ชวนเขามาซื้อข้าวของไทย ซึ่งเป็นประโยขน์ต่อประเทศและชาวนา ไม่ได้ชวนมาทำนาเพียงแต่พาไปดูชาวนาเขาทำนากันอย่างไรให้เห็นระบบการผลิตของเรา พวกนั้นเขาคงไม่มาทำนาในบ้านเรา เขามีอย่างอื่นทำเยอะแยะ
“ไม่มีที่ไหนทำนาบนทะเลทรายหรอก และเขาก็ไม่ได้มาทำนาในเมืองไทย ให้เขาได้เห็นขั้นตอนเพื่อที่จะได้ซื้อข้าวไทย นี่คือเจตนา เพราะการซื้อข้าวไทย เท่ากับเป็นประโยชน์กับชาวนาไทย ทำให้ข้าวราคาดี อย่าไปมองคนในแง่ร้ายมากนัก”
นายพงศ์เทพ กล่าวว่า เข้าใจว่านายสมศักดิ์ ไปฟังจากสื่อ และสื่อไปพูดกันคนละเรื่อง ก็ยังแปลกใจว่าเป็นเรื่องนั้นไปได้ และเรื่องนี้เป็นเรื่องของธุรกิจ ไม่ได้เป็นการทำลายวัฒนธรรม ไม่จำเป็นที่พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องทำความเข้าใจกับนายสมศักดิ์ เพราะในเมื่อตนพูดแล้วเชื่อว่านายสมศักดิ์คงเข้าใจ ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีผลกระทบใดทั้งสิ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น