xs
xsm
sm
md
lg

กองทัพส่งอนุพงษ์ถกสมัครฟันจักรภพ-ทักษิณแย้มเจ๊เพ็ญจะแจงอนาคตเอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

(22พ.ค.) เวลา 09.20 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.และคณะ ได้ออกเดินทางโดยเครื่องบินสายการบินไทย เที่ยวบินที่ ทีจี-620 เพื่อเดินทาง ไปเยือนสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 22-23 พ.ค.นี้ โดยก่อนการเดินทาง นายสมัคร ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ยกเลิกการเดินทางเยือนฟิลิปปินส์ในครั้งนี้ และมีกระแสข่าวการลาออก
ด้านนายธีรพล นพรัมภา เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวการกดดันให้นายจักรภพ ลาออกจากตำแหน่งว่า ต้องถามนายจักรภพ อย่างไรก็ตามตนพูดคุยกับนายจักรภพ เป็นประจำ แต่คุยเรื่องอื่น
ส่วนที่มีรายงานข่าวว่าเลขาธิการนายกรรัฐมนตรีเป็นผู้แนะนำให้นายจักรภพ ลาออกนั้น นายธีรพล กล่าวว่าไม่ใช่ ไม่มี เรื่องนี้ต้องถามนายจักรภพ
เมื่อถามย้ำว่ามีรายงานข่าวว่าเป็นผู้แนะนำให้นายจักรภพลาออก นายธีรพล กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ใช่ ไม่มี เรื่องนี้ต้องถามนายจักรภพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการเดินทางไปเยือนฟิลิปปินส์ ครั้งนี้เดิมนายจักรภพ จะเป็นหนึ่งในผู้ร่วมคณะ แต่ได้ยกเลิกการเดินทางหลังจากมีกระแสข่าวกดดีนให้ลาออก จากปัญหาคำบรรยายที่ถูกระบุว่ามีทัศนคติที่อันตรายต่อสถาบัน

มอบผบ.ทบ.คุยนายกฯฟันจักรภพ
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากที่ ผบ.เหล่าทัพ ประกอบด้วย พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สูงสุด พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.ร.อ. สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร.และ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทร. ประชุมหารือถึงกรณีที่ นาย จักรภพ เพ็ญแข กล่าวพาดพิงสถาบันเบื้องสูง เมื่อวันอังคารที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยที่ประชุม ผบ.เหล่าทัพ ได้มอบหมายให้ พล.อ.อนุพงษ์ เป็นผู้ประสานกับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เพื่อให้ดำเนินการกับ นายจักรภพ เพราะขณะนี้กองทัพรู้สึกไม่พอใจต่อคำพูดและการกระทำของนายจักรภพ
รายงานแจ้งว่า พล.อ.อนุพงษ์ ได้เดินทางเข้าพบ นายสมัคร ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อหารือถึงประเด็นดังกล่าว โดยใช้เวลา พูดคุย 20 นาที ซึ่งการพูดคุยครั้งนี้ นายสมัคร ได้หยิบเอกสารแปลคำปาฐกถาของ นายจักรภพ ให้กับ พล.อ. อนุพงษ์ อ่านในรายละเอียด ซึ่งจากการพบปะระหว่างนายสมัคร กับพล.อ.อนุพงษ์ ทำให้นายสมัครชวน พล.อ.อนุพงษ์ ร่วมเดินทางไปปฏิบัติราชการที่ฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ 22-23 พ.ค.นี้ ทั้งที่ พล.อ.อนุพงษ์ ไม่มีกำหนดการ ที่จะเดินทางร่วมกับคณะของนายสมัครแต่อย่างใด ทั้งนี้เดิมนายจักรภพ จะร่วมเดินทางไปด้วย แต่ในที่สุดก็ไม่เดินทางไปกับคณะ

ลือหึ่งทั้งวันทหารเคลื่อนพลปฎิวัติ
รายงานข่าวแจ้งว่า การเดินทางร่วมคณะกับนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.อนุพงษ์ ในครั้งนี้ ท่ามกลางกระแสข่าวลือการปฏิวัติรัฐประหารที่มีอย่างงต่อเนื่องตั้งช่วง กลางดึกของคืนวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีกระแสข่าวว่าทางหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองกองทัพเรือ และหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) ของกองทัพบก มีการเคลื่อนย้ายกำลังเข้ามาในกรุงเทพฯ ขณะเดียวกันในช่วงบ่าย วานนี้ (22 พ.ค.) ก็มีข่าวลืออีกครั้งว่า มีกำลังทหารจาก จ.สระบุรี จำนวนหนึ่งเข้าไปยังสถานีโมเดิร์นไนท์ทีวี (ช่อง 9) แต่จากการสอบถามไปยังสถานี ได้รับการยืนยันจ ว่าไม่มีกำลังทหารเข้ามาแต่อย่างใด ซึ่งตลอดทั้งวันที่ที่ 22 พ.ค. มีประชาชน และข้าราชการจำนวนมาก ต่างโทรศัพท์ไปสอบถามถึงประเด็นดังกล่าวด้วยเช่นกัน
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับกระแสข่าวลือดังกล่าวน่าจะมาจากนายทหารบางคน ที่ต้องการจะออกมาปรามเรื่องที่การเมืองจาบจ้วงสถาบัน รวมถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีเป้าหมายเพื่อยุบองค์กรตรวจสอบการทุจริตที่ คมช.ตั้งขึ้น
อย่างไรก็ตามทางรัฐบาลได้สั่งให้หน่วยทหารต่างๆ ทั้งหน่วยบัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ(ศรภ.) หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน(อย.) คอยจับตามองการเคลื่อนไหวของกำลังพลในหน่วย อย่างเข้มมงวด เนื่องจากครั้งที่แล้วเกิดความผิดพลาดในการดูแลกำลังพล จนทำให้มีการเคลื่อนกำลังออกมาปฏิวัติ
ทั้งนี้หน่วยข่าวประเมินว่า การจะปฏิวัติครั้งนี้น่าจะเป็นไปได้ยากกว่าครั้งที่แล้ว เพราะครั้งนี้ไม่มีเหตุผลจะทำอย่างครั้งที่แล้ว ซึ่งหากจะอ้างเรื่องงสถาบันก็ควรจะให้คนที่ถูกกล่าวหาถูกลงโทษไปมากกว่าจะมาทำการปฏิวัติ นอกจากนี้การจะปฏิวัติไม่ควรจะนำเบื้องสูงมาอ้างเพื่อเป็นเหตุผลในการปฏิวัติ แต่หากจะมีการปฏิวัติจริง กำลังทหารน่าจะมาจากกองทัพภาคที่ 1 มากกว่าจะมาจากหน่วยอื่น

เจ๊เพ็ญจะพูดถึงอนาคตการเมืองเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (22 พ.ค. 51) ตลอดทั้งวัน นายจักรภพ เพ็ญแข ยังคงเก็บตัวเงียบไม่เดินทางมาทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลเหมือนทุกวัน ผู้สื่อข่าวพยาม ติดต่อทางโทรศัพท์มือถือ แต่นายจักรภพ ก็ไม่รับสาย
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการเข้าพบของนายจักรภพ เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมาไม่ได้คุยกันถึงถึงอนาคตทางการเมืองกับนายจักรภพ แต่คิดว่า นายจักรภพคงจะพูดกับสังคมเร็ว ๆนี้ เรื่องการเมืองอย่าให้ผมพูดเลยพอแล้ว
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าปัญหาของนายจักรภพ เป็นเรื่องส่วนบุคคล และเกิดขึ้นก่อนที่จะตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนว่าถูกผิดหรือไม่ อย่างไร แต่ยอมรับว่าเรื่องนี้สะเทือนเสถียรภาพรัฐบาลบ้าง แต่เชื่อว่าข้อเท็จจริงต้องจบเพราะเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ใช่เป็นเรื่องรัฐบาล ส่วนการปรับคณะรัฐมนตรีขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณาตัดสินใจ

จักรภพนัดแถลง26พ.ค.
นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็น 1 ในอดีตแกนนำนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ(นปก.) ด้วยกันกับนายจักรภพ กล่าวว่า นายจักรภพยังอยู่ในประเทศ และในวันที่ 26 พ.ค.เวลา 14.00 น. จะแถลงข่าวเกี่ยวกับคำบรรยายที่เป็นปัญหา พร้อมกับเอกสารคำแปลที่ถูกต้องเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ตามที่มีข้อกล่าวหาว่า นายจักรภพ ได้พูดกระทบสถาบันในการบรรยายพิเศษเป็นภาษาอังกฤษแก่สมาคมผู้สื่อข่าว เศรษฐกิจต่างประเทศและสถานที่ต่างๆ และจะนำส่งให้ศาลพิจารณาด้วย
“ท่านจักรภพจะปฏิเสธความรับผิดชอบมิได้ในเรื่องนี้ ฉะนั้นก่อนถึงวันและเวลาดังกล่าว จึงขอใช้เวลารวบรวมความชัดเจน ความถูกต้อง ในการแปลเอกสาร เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน”
ส่วนข่าวลือที่ว่า นายจักรภพอาจตัดสินใจลาออกนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องดังกล่าว เพราะต้องการแสดงความบริสุทธิ์ ใจในการแถลงข่าว แสดงเอกสาร ชี้แจงและตอบทุกคำถามกับสื่อมวลชน เพราะข้อกล่าวหานี้มีความสำคัญและละเอียดอ่อนยิ่ง ไม่จำเพาะผู้ที่เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลเท่านั้น แม้แต่ปุถุชนคนไทย ก็ไม่มีใครแบกรับข้อกล่าวหานี้ได้ ฉะนั้นนายจักรภพก็ขอโอกาสจากสังคมในการแสดงความบริสุทธิ์ใจ เปิดเผยคำแปลบทบรรยายนั้นในคราวเดียว
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีกระแสข่าวว่าผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชาชน และในรัฐบาล ล๊อบบี้ให้นายจักรภพ ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อไม่ให้เรื่องนี้กระทบกระเทือนสถานะของรัฐบาล นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนสอบถามเรื่องนี้กับนายจักรภพ แต่นายจักรภพยืนยันว่า ไม่มีการไปคุยกับผู้ใหญ่คนไหนที่จะกดดันให้ตัดสินใจทางการเมือง ขอเรียนว่านายจักรภพ เป็นคนไทยใต้ร่วพระบารมี ที่ต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจในเรื่องนี้ ก็น่าจะมีพื้นที่และเวลาและโอกาสให้นายจักรภพชี้แจง หากกระบวนการทางกฎหมายพิสูจน์ว่า นายจักรภพผิดจริง คนไทยก็ยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้ แต่ผู้ที่ตัดสินเรื่องนี้ ก็ควรจะเป็นฝ่ายกฎหมายและศาล เรามิอาจตัดสินความจงรักภักดีของคนใดคนหนึ่ง ได้ด้วยข้อกล่าวหาของฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง หากนายจักรภพผ่านกระบวการยุติธรรมและชี้ว่าผิดจริงก็ต้องรับโทษตามกฎหมายถึงขั้นสูงสุดโดยไม่มีข้อยกเว้น

จับตาอาจประกาศไขก๊อก26พ.ค.
“ในความเห็นส่วนตัว ผมแน่ใจว่าท่านจักรภพพิจารณาตัวเองมาตลอด จนวินาทีนี้ และเห็นว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องแถลงข่าวทุกแง่มุมด้วยตัวเอง หากเรื่องนี้ชี้แจงแล้ว กฎหมายบอกว่าผิด นายจักรภพจะปฏิเสธความรับผิดชอบมิได้ จึวขอโอกาสให้ท่านจักรภพในฐานะคนไทยใช้พื้นที่ยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง ข้อกล่าวหานี้ไม่ได้ส่งผลเพียงว่ารัฐมนตีต้องพ้นจากตำแหน่งเท่านั้นแต่ส่งผลถึงทั้งชีวิตและวงศ์ตระกูลของผู้ถูกกล่าวหา ฉะนั้นควรให้เวลาและเปิดกว้างในเรื่องนี้ด้วย”
แหล่งข่าวเปิดเผยว่าให้จับตาการแถลงข่าวของนายจักรภพ เพ็ญแข ในวันที่ 26 พ.ค.นี้ หลังจากแถลงเกี่ยวกับคำบรรยายที่ถูกระบุว่ามีทัศนคติที่อันตรายต่อสถาบันกับสังคม พร้อมนำเอกสารที่แปลแจกจ่ายแล้วอาจจะประกาศลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในวันดังกล่าว

ตร.เตรียมเรียกตัว"เจ๊เพ็ญ"สอบ
พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก. ฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าววถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีที่ พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ มุ่งกิจการดี กล่าวหานายจักรภพ เพ็ญแข ข้อหาดูหมิ่นเบื้องสูงว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค. พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.ก.ได้ประชุมคณะกรรมการสอบสวน เพื่อกำหนดแนวทางการทำงานและได้สั่งการคณะทำงานในหลายประเด็น เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จำเป็นต้องรวบรวมพยานหลักฐานพิจารณาตามขั้นตอน เพื่อจะได้ไม่เป็นการนำสถาบันมาเป็นเครื่องมือสำหรับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง พร้อมยืนยันว่าตำรวจจะดำเนินคดีอย่างจริงจังยึดหลักนิติธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องเรียกนายจักรภพ มาสอบปากคำด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามขั้นตอนการสอบสวน ซึ่งต้องมีการเรียกนายจักรภพมาสอบสวนเพราะเป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรงกับคดี

สันติบาลตื่นรับข้อมูลหมิ่นเบื้องสูง
พล.ต.ท.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ (ผบช.ส.) กล่าวถึงการดำเนินคดีกับนายจักรภพ เพ็ญแข ว่าตำรวจสันติบาลได้รับข้อมูลส่วนหนึ่งจากประชาชนและสื่อสิ่งพิมพ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานก่อนจะรวบรวมข้อมูลเสนอไปยัง ตร.เพื่อประกอบสำนวนของบช.ก.
“เรื่องนี้เคยมีประชาชนร้องเรียนผ่านยังเว็บไซต์ของสันติบาล แต่เรื่องยังไม่เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการเนื่องจากกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน รอคำแปลจากหน่วยงานเป็นกลาง คือกระทรวงต่างประเทศ และกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะเดียวกันในส่วนคำแปลของนายจักรภพเอง หากมีการเผยแพร่มาก็จะนำมาพิจารณาด้วย ทั้งนี้ หากประชาชนจะร้องเรียน หรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีหมิ่น สถาบัน เรื่องความมั่นคง หรือยาเสพติดสามารถ ได้แจ้งได้ที่ www.sbpolice.go.th หรืออีเมล sb@sbpolice.go.th”

นปก.จัดงานเสริมบารมีวีระวันนี้
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ในฐานะอดีตแกนนำ นปก.เปิดเผยว่าในวันนี้ (23 พ.ค.) ตนพร้อมนาย จักรภพ เพ็ญแข และนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ พร้อมครอบครัว “มุสิกพงศ์” จะร่วมการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์เนื่องในวันคล้ายเกิดครบรอบ 60 ปีหรือแซยิดของนายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตแกนนำ นปก.โดยจะใช้ชื่องานว่า “คือเรื่องราวของชาวระโหนด มีไผ่ นา โหนด มีไข่มุกดำ” ที่ อิมเพค อารีน่า เมืองทองธานี ฮอลล์ 9 เวลา17.30น.ซึ่งจะมีกิจกรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านภาคใต้ นอกจากนี้จะมีการจัดเวทีให้เสวนาการเมืองและวิเคราะห์การเมือง จะมีการพูดถึงประเด็นที่นายจักรภพถูกกล่าวหาว่าพาดพิงหมิ่นสถาบันด้วยคาดว่าจะมีประชาชนร่วมงานจำนวนมาก
นอกจากนี้ ในส่วนของนักการเมืองระดับแกนนำ คาดว่าจะมาร่วมงานกันมาก ทางคณะผู้จัดงานยังได้เชิญนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาร่วมงานด้วย
นายจตุพร กล่าวว่าการจัดงานครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการฟื้น นปก.เพราะสถานการณ์กำลังเดินหน้าไปด้วยดีหลังจากนายกรัฐมนตรีประกาศให้ทำประชามติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
กำลังโหลดความคิดเห็น