ตำรวจเตรียมเรียก รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี “จักรภพ เพ็ญแข” สอบปากคำในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ภายหลังกองการต่างประเทศ แปลเอกสารอันเป็นคำปาฐกของ รมต.ฝีปากกล้าเสร็จสมบูรณ์แล้วแต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้
วันนี้ (22 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก. ฐานะรอง โฆษก ตร.กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดี พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ มุ่งกิจการดี กล่าวหานายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ข้อหาดูหมิ่นเบื้องสูงว่า เรื่องนี้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ได้มีคำสั่งที่ 104/2551 ลงวันที่ 28 เม.ย. ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเกี่ยวกับการดูหมิ่นพระมหากษัตริย์โดยมี พล.ต.ต.สมเดช ขาวขำ รอง ผบช.ก.เป็นหัวหน้าชุดสอบสวน ซึ่งได้มีการสืบสวนสอบสวนแล้ว โดยเมื่อวานนี้ พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.ก.ได้เป็นประธานเรียกประชุมคณะกรรมการสอบสวน เพื่อกำหนดแนวทางการทำงานและได้สั่งการคณะทำงานในหลายประเด็น เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จำเป็นต้องรวบรวมพยานหลักฐานพิจารณาตามขั้นตอน เพื่อจะได้ไม่เป็นการนำสถาบันมาเป็นเครื่องมือสำหรับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง พร้อมยืนยันว่าตำรวจจะดำเนินคดีอย่างจริงจังยึดหลักนิติธรรม
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าในการแปลเอกสารที่ พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ ใช้เป็นหลักฐานในการแจ้งความนายจักรภพ พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า ขณะนี้ทางกองการต่างประเทศได้แปลเอกสารดังกล่าวเสร็จแล้ว โดยจะส่งพนักงานสอบสวนในการพิจารณาต่อไป แต่ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้เพราะเป็นรายละเอียดของพนักงานสอบสวนคดีที่จะต้องพิจารณา อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินคดีก็จะต้องยึดการแปลของกองการต่างประเทศเป็นหลัก ส่วนเอกสารแปลอื่นหากมีการยื่นคำร้องจากผู้เสียหาย ผู้ร้องทุกข์ หรือบุคคลอื่นก็อาจต้องรวบรวมมาเพื่อหลักฐานในการสอบสวนดำเนินคดีด้วย แต่หากคดีถึงขั้นพิจารณาในชั้นศาลก็ต้องยึดคำแปลของกองการต่างประเทศเป็นหลักเพราะถือเป็นผู้ชำนาญการ ที่ผ่านมาสื่ออาจจะมองว่ามีการแปลล่าช้าไปบ้างแต่การแปลเอกสารถือเป็นเอกสารสำคัญของคดีต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างเรียบร้อยและตรงไปตรงมา
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องเรียกนายจักรภพมาสอบปากคำด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามขั้นตอนการสอบสวน ซึ่งต้องมีการเรียกนายจักรภพมาสอบสวนเพราะเป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรงกับคดี
“สำหรับขั้นตอนการดำเนินการของคดีลักษณะดังกล่าวนั้นก็เป็นไปตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 330/2550 ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2550 ที่กำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินการไว้ ซึ่งเมื่อพนักงานสอบสวนทำสำนวนสรุปก็จะเสนอมายังคณะกรรมการของ บช.ก.โดยมี ผบช.ก.เป็นประธานเพื่อมีความเห็น จากนั้นก็เสนอคณะกรรมการระดับ ตร.พิจารณาอีกขั้นหนึ่งก่อนเสนอ ผบ.ตร.มีความเห็นคดีต่อไป ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดจะรีบทำให้แล้วเสร็จเพราะเป็นคดีที่สำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจ” รองโฆษก ตร.กล่าว
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวต่อว่า ส่วนคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งความเอาผิดนายโจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซี ก็ดำเนินคดีในลักษณะเดียวกัน ยึดหลักการเดียวกัน และพนักงานสอบสวนกองปราบปรามก็กำลังดำเนินการอยู่ อย่างคดีที่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ยืนยันว่าทำคดีโดยใช้มาตรฐานเดียวกับการทำคดีของนายจักรภพ