xs
xsm
sm
md
lg

กองFIFยุโรปส่งสัญญาณฟื้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - บลจ. มั่นใจกองทุนเอฟไอเอฟยุโรป ได้อานิสงส์เศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลังสดใส หลังมีสัญญาณฟื้นตัวจากพิษเศรษฐกิจสหรัฐ "ไอเอ็นจี" มองได้ปัจจัยหนุนจากการบริโภคภายในประเทศที่สูง และผลกระทบจากราคาน้ำมันพุ่งมีน้อย ด้าน "ไทยพาณิชย์" ประเมินเศรษฐกิจกลุ่มประเทศยุโรปปีนี้ เติบโต 2-3% ขณะที่ "แมนูไลฟ์" ยังมั่นใจธุรกิจแบงก์ เหตุปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง รวมถึงออกผลิตภัณฑ์ใหม่มากขึ้น ประสานเสียง ระยะยาวกลุ่มยุโรปน่าลงทุน

นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด -กองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มยุโรปว่า จากผลจากสภาพทางเศรษฐกิจของโลกที่เริ่มถดถอยในช่วงที่ผ่านมา ขณะนี้สภาพเศรษฐกิจของโลกที่ถดถอยดังกล่าวเริ่มถึงจุดอิ่มตัวแล้วและจะไม่ถดถอยลงไปมากกว่านี้ ในขณะเดียวกัน เรื่องของอัตราดอกเบี้ยเอง ก็อยู่ในระดับที่ไม่สามรถปรับขึ้นและไม่ปรับลดลงได้เพื่อเป็นการรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น โดยเงินเฟ้อของประเทศในกลุ่มยุโรปนั้น คาดว่าน่าจะอยู่ในระดับ 3.3 % ต่อไปตามภาวะของราคานํ้ามันโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งราคาของสินค้าเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน

ทั้งนี้ เศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มยุโรป จะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับนี้ไปจนถึงในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ โดยในช่วงไตรมาสที่ 4ต่อเนื่องไปจนถึงในช่วงไตรมาสที่ 1 ในปี 2552 เศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มยุโรปจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยที่กลุ่มประเทศในโซนยุโรปตะวันออกจะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงกว่า ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นไปพร้อมๆกับเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากในช่วงปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากัญหาวิกฤติสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ หรือ ซับไพร์ม

ส่วนปัจจัยที่ส่งเสริมให้เศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มยุโรปปรับตัวดีขึ้นนั้น มีปัจจัยมาจากเรื่องของการใช้จ่ายภายในประเทศที่มากขึ้น ในขณะเดียวกันเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มยุโรปนั้น ไม่ค่อยประสบกับปัญหาเรื่องของราคานํ้ามันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้ เพราะบรรดาประเทศในกลุ่มยุโรปเหล่านี้ สามารถรับมือกับปัญหาราคานํ้ามันที่สูงขึ้นได้ดีกว่าประเทศอื่นทั่วโลก ทั้งในเรื่องของภาษีนํ้ามันที่สูงมาก รวมทั้งการมีระบบดูแลสิ่งแวดล้อมที่ดี ส่งผลให้ประชาชนไม่ค่อยได้ใช้รถยนต์มากเหมือนกับประเทศอื่น โดยที่ประชาชนหันมาใช้ยถจักรยานกันมากขึ้น

นายจุมพลกล่าวว่า ในระยะะยาวแล้วเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มยุโรปน่าจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะยาว โดยแนะนำกับนักลงทุนว่าควรทยอยลงทุนอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับกับการลงทุนในกลุ่มประเทศ บริค (BRIC) และคาดว่า กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ยูโร ไฮดิวิเดนด์ ซึ่งกองทุนที่ลงทุนในหุ้นของกลุ่มประเทศยุโรป มีโอกาสสูงที่จะเติบโตอดย่างต่อเนื่อง โดยผลตอบแทนตลอดทั้งปีนี้น่าจะอยู่ที่ระดับ 5%

สำหรับ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ยูโร ไฮดิวิเดนด์ (ING Thai Euro High Dividend Fund) มีนโยบายการลงทุนในกองทุน ING (L) Invest Euro High Dividend ซึ่งจดทะเบียนในประเทศลักซัมเบอร์ก โดยกองทุนนี้บริหารจัดการโดย ING Investment Management สำนักงานใหญ่ ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยจะลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศที่เป็นสมาชิกของ ECU และเน้นลงทุนในบริษัทที่มีการจ่ายเงินปันผลสูง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่เหมาะสมและกระจายการลงทุนในหลักทรัพย์ในต่างประเทศ โดยมีมูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท นอกจากนี้ กองทุนดังกล่าวมีผลการดำเนินการตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (30 เมษายน 2551) อยู่ที่ -6.82%

นายวิชชุ จันทาทับ ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนตราสารทุน บลจ. ไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า แม้ในช่วงปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจของประเทศกลุ่มยุโรป ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกาบ้างแต่ไม่มาก เพราะได้รับผลดีจากเรื่องของการส่งออก ขณะที่ ตลาดหุ้นนั้น ประเทศในกลุ่มยุโรปได้รับผลกระทบบ้างจากปัญหาเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกา แต่เมื่อผ่านไปช่วงระยะหนึ่งเริ่มมีสัญญาณออกมาให้เห็นว่า ตลาดหุ้นรวมถึงเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยุโรปเริ่มกลับมาดีขึ้น

ทั้งนี้ หากเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มกลับมาฟื้นตัวหลังจากที่ชะลอตัวลงไป น่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยุโรปน่าจะกลับมาเติบโตเช่นกัน โดยคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจของทั้งประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศในกลุ่มยุโรปน่าจะกลับมาฟื้นตัว โดยเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มยุโรปในปีนี้น่าจะเติบโตในระดับ 2-3%

ในส่วนของอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งถือเป็นเศรษฐกิจหลัของกลุ่มประเทศยุโรปมีแนวโน้มที่ดี เพราะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาซับไพร์มจากสหรัฐมาก แต่จะได้รับผลกระทบบ้างจากเรื่องของแรงเทขายของตลาด ซึ่งสอดคล้องกับ กองทุนของ บลจ. ไทยพาณิชย์คือ กองทุน ไทยพาณิชย์ แพลทตินัม ยูโร ฟันด์ ที่ลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาซับไพร์ม โดยคาดว่าในปีนี้กองทุนดังกล่าวจะได้รับผลตอบแทนที่ดี และยังแนะนำนังลงทุนด้วยว่า นักลงทุนควรมองการลงทุนในประเทศยุโรปเป็นการลงทุนในระยะยาว

สำหรับกองทุนเปิด ไทยพาณิชย์ แพลทตินัม ยูโร ฟันด์ เป็นกองทุนประเภท กองทุนรวมหน่วยลงทุน ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน มีนโยบายลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหน่วยลงทุนของกองทุนรวมในต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท โดยกองทุนดังกล่าวมีผลการดำเนินการตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน อยู่ที่ -9.42%

นางสาวเบญจรงค์ เตชะมวลไววิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาดและการขาย บลจ. แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยุโรป น่าจะกลับมาสดใส โดยตลาดหุ้นปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะเดียวกันที่กลุ่มธนาคาร มีแนวโน้มที่ดีเช่นกัน เพราะมีการปรับตัวให้เข้ากับสภาวะของโลกมากขึ้น รวมถึงมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องส่งผลให้ธุรกิจของกลุ่มธนาคารน่าจะดีขึ้น นอกจากนี้ ในส่วนของประชนชนนั้น กลุ่มประชาชนชั้นกลาง เริ่มมีเงินมากขึ้น ทำให้แนวโน้มการบริโภคและใช้จ่ายจึงมีมากขึ้น

สำหรับ บลจ. แมนูไลฟ์ นั้นมีกองทุนที่ลงทุนในกลุ่มประเทศยุโรปคือ กองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อีเมอร์จิ้ง อีสเทอร์น ยุโรป เอฟไอเอฟ ที่มีนโยบายลงทุนใน Manulife Global Fund Emerging Eastern Europe Fund (Share Class A) ซึ่งเป็นกองทุนหลัก โดยกองทุนหลักจัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2540 เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนและซื้อขายในภูมิภาคยุโรปตอนกลางและตะวันออก ในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศรัสเซีย โปแลนด์ ตุรกี ฮังการี และ สาธารณรัฐเชค ที่มีศักยภาพในการทำกำไรในระยะยาว กองทุนนี้บริหารจัดการโดย Charlemagne Capital (UK) Limited โดยที่กองทุนหลักมีผลการดำเนินการทั้งปี 2550 อยู่ที่ 30.99%

ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้รายงานการเคลื่อนไหวของเงินยูโรว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินยูโรปรับตัวในทิศทางที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ ในช่วงต้นสัปดาห์ เงินยูโรปรับตัวในทิศทางที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของเงินยูโร เมื่อเทียบกับเงินเยนท่ามกลางการกลับเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม เงินยูโรต้องลดช่วงบวกทั้งหมดลงในช่วงต่อมา หลังจากเงินดอลลาร์ได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ (ยอดค้าปลีกและราคาสินค้านำเข้าเดือน เม.ย.) ที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาดและทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อมั่นมากขึ้น ว่าเฟดอาจจะใกล้ยุติวัฏจักรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้แล้ว

ทั้งนี้ เงินยูโรเผชิญแรงเทขายหลังจาก นายฌองคล็อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวเตือนเกี่ยวกับแนวโน้มที่อ่อนแอของเศรษฐกิจยุโรป แม้ว่าตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 1/2551 จะออกมาแข็งแกร่งเกินคาดก็ตาม

นอกจากนี้ เงินยูโรยังถูกกดดันจากข่าวที่ระบุว่า บริษัทเครดิต อกริโคลของฝรั่งเศสออกหุ้นใหม่เพื่อระดมทุน หลังรายงานการปรับลดมูลค่าทางบัญชีที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยประเภทซับไพร์มของสหรัฐ ซึ่งสะท้อนว่า ยูโรโซนอาจได้รับผลกระทบจากปัญหาในสหรัฐ
กำลังโหลดความคิดเห็น