นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวว่าในวันนี้ (22 พ.ค. ) คตส.จะประชุมนัดพิเศษเพื่อพิจารณาความเรียบร้อยในสำนวนการไต่สวนคดีการจัดซื้อเครื่องมือตรวจจับวัตถุระเบิด ซีทีเอ็กซ์ 9000 และระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า ก่อนที่จะมีการจัดส่งให้อัยการสูงสุด( อสส.) ส่งฟ้องตามกฎหมาย ซึ่งหากไม่ติดขัดปัญหาอะไร จะส่งเรื่องให้ อสส.ได้ในสัปดาห์นี้
ด้านนายสิทธิโชค ศรีเจริญ ในฐานะหัวหน้าทีมทนายความ คดีการออกสลากแบบพิเศษเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว ของ คตส. เปิดเผยว่า ขณะนี้ทีมทนายความได้จัดทำร่างคำแถลงการณ์คัดค้านคำร้องของผู้ถูกกล่าวหาในคดีหวย 3 ตัว 2 ตัว เพื่อส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะ และการต่ออายุการทำงานของ คตส.ว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญปี 2550 หรือไม่ เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะนำเสนอคำแถลงการณ์ฉบับทางการให้กับ คตส. พิจารณาได้อย่างช้าในวันที่ 22 พ.ค. นี้
สำหรับเนื้อหาสาระของคำแถลงการณ์ดังกล่าวจะเป็นการลำดับเหตุการณ์ และความสำคัญในการถือกำเนิดของ คตส. ไปจนถึงการดำเนินงานและการต่ออายุว่าถูกต้องตามกฎหมายอย่างไรบ้าง ซึ่งในส่วนของการออกประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ในการแต่งตั้ง คตส. เข้ามาทำหน้าที่ จะมีการนำคำพิพากษาของศาลฎีกา 2 ฉบับ ได้แก่ ฉบับที่ 42/2496 และ 6411/2534 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำปฏิวัติรัฐประหารในอดีต มายืนยันให้ศาลเห็นว่า ประกาศ คปค. มีสถานะเป็นกฎหมาย เนื่องจากเป็นการบริหารงานตามปกติภายหลังการรัฐประหาร ซึ่งผู้ที่ทำรัฐประหารสำเร็จจะมีสิทธิในการออกคำสางการบริหารประเทศ ซึ่งถือเป็นความชอบธรรมและเป็นหลักจารีตประเพณีของประเทศไทย ในการดำเนินงานของ คตส. ใต้คำสั่งประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ก็ยังได้รับการรับรอง จากรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับปี 2549 ซึ่งถือเป็นการทำงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ต่อมาเมื่อมีการขยายอายุการทำงานของ คตส. จากเดิม 30 ก.ย.50 เป็น 30 มิ.ย. 51 ก็เป็นกระบวนการทำงาน ในเรื่องของการเสนอเรื่องเข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อผ่านเป็นกฎหมายบังคับใช้ในลักษณะของ พ.ร.บ.แก้ไขประกาศ คปค. ของ คตส. ซึ่งถือเป็นความชอบธรรมผ่านกระบวนการรับรองทางกฎหมายแล้ว เพราะไม่เช่นนั้น กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารกว่า 100 ฉบับที่ผ่านการพิจารณาของ สนช. ก็จะไม่ถือว่ามีผลบังคับใช้ได้เลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาอ้างว่าประกาศ คปค.30 ถือเป็นการออกกฎหมายที่ขัดกับรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 29 นายสิทธิโชค ตอบยืนยันว่า การทำงานของ คตส.ไม่เป็นการขัดกฎหมายอย่างแน่นอน เพราะทุกอย่างผ่านการรับรองทางกฎหมายอย่างถูกต้อง และที่สำคัญในประกาศ คปค. 30 ก็ยังมีการระบุถึงการตรวจสอบบุคคลต่างๆได้ ไม่เฉพาะกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด
"อย่างไรก็ตามในคำแถลงการณ์ดังกล่าวทีมทนายมีความเห็นว่า คงจะไม่เสนอขอให้ศาลฎีการรับฟ้องคดีฟ้องหวย 3 ตัว 2 ตัวไปก่อน ที่จะมีคำวินิจฉันของศาลรัฐธรรมนูญออกมา เพราะการยื่นคำร้องครั้งนี้ จะเป็นเพียงการส่งเรื่องให้ศาลฎีกาส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไปพร้อมกับคำร้องของผู้ถูกกล่าวหา เพราะขณะนี้ถือว่าคดีดังกล่าวได้เข้าไปอยู่ในกระบวนการทางศาลแล้ว ส่วนผลจะออกมาอย่างไรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลว่าจะพิจารณาอย่างไร " นายสิทธิโชค กล่าว
ด้านนายสิทธิโชค ศรีเจริญ ในฐานะหัวหน้าทีมทนายความ คดีการออกสลากแบบพิเศษเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว ของ คตส. เปิดเผยว่า ขณะนี้ทีมทนายความได้จัดทำร่างคำแถลงการณ์คัดค้านคำร้องของผู้ถูกกล่าวหาในคดีหวย 3 ตัว 2 ตัว เพื่อส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะ และการต่ออายุการทำงานของ คตส.ว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญปี 2550 หรือไม่ เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะนำเสนอคำแถลงการณ์ฉบับทางการให้กับ คตส. พิจารณาได้อย่างช้าในวันที่ 22 พ.ค. นี้
สำหรับเนื้อหาสาระของคำแถลงการณ์ดังกล่าวจะเป็นการลำดับเหตุการณ์ และความสำคัญในการถือกำเนิดของ คตส. ไปจนถึงการดำเนินงานและการต่ออายุว่าถูกต้องตามกฎหมายอย่างไรบ้าง ซึ่งในส่วนของการออกประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ในการแต่งตั้ง คตส. เข้ามาทำหน้าที่ จะมีการนำคำพิพากษาของศาลฎีกา 2 ฉบับ ได้แก่ ฉบับที่ 42/2496 และ 6411/2534 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำปฏิวัติรัฐประหารในอดีต มายืนยันให้ศาลเห็นว่า ประกาศ คปค. มีสถานะเป็นกฎหมาย เนื่องจากเป็นการบริหารงานตามปกติภายหลังการรัฐประหาร ซึ่งผู้ที่ทำรัฐประหารสำเร็จจะมีสิทธิในการออกคำสางการบริหารประเทศ ซึ่งถือเป็นความชอบธรรมและเป็นหลักจารีตประเพณีของประเทศไทย ในการดำเนินงานของ คตส. ใต้คำสั่งประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ก็ยังได้รับการรับรอง จากรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับปี 2549 ซึ่งถือเป็นการทำงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ต่อมาเมื่อมีการขยายอายุการทำงานของ คตส. จากเดิม 30 ก.ย.50 เป็น 30 มิ.ย. 51 ก็เป็นกระบวนการทำงาน ในเรื่องของการเสนอเรื่องเข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อผ่านเป็นกฎหมายบังคับใช้ในลักษณะของ พ.ร.บ.แก้ไขประกาศ คปค. ของ คตส. ซึ่งถือเป็นความชอบธรรมผ่านกระบวนการรับรองทางกฎหมายแล้ว เพราะไม่เช่นนั้น กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารกว่า 100 ฉบับที่ผ่านการพิจารณาของ สนช. ก็จะไม่ถือว่ามีผลบังคับใช้ได้เลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาอ้างว่าประกาศ คปค.30 ถือเป็นการออกกฎหมายที่ขัดกับรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 29 นายสิทธิโชค ตอบยืนยันว่า การทำงานของ คตส.ไม่เป็นการขัดกฎหมายอย่างแน่นอน เพราะทุกอย่างผ่านการรับรองทางกฎหมายอย่างถูกต้อง และที่สำคัญในประกาศ คปค. 30 ก็ยังมีการระบุถึงการตรวจสอบบุคคลต่างๆได้ ไม่เฉพาะกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด
"อย่างไรก็ตามในคำแถลงการณ์ดังกล่าวทีมทนายมีความเห็นว่า คงจะไม่เสนอขอให้ศาลฎีการรับฟ้องคดีฟ้องหวย 3 ตัว 2 ตัวไปก่อน ที่จะมีคำวินิจฉันของศาลรัฐธรรมนูญออกมา เพราะการยื่นคำร้องครั้งนี้ จะเป็นเพียงการส่งเรื่องให้ศาลฎีกาส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไปพร้อมกับคำร้องของผู้ถูกกล่าวหา เพราะขณะนี้ถือว่าคดีดังกล่าวได้เข้าไปอยู่ในกระบวนการทางศาลแล้ว ส่วนผลจะออกมาอย่างไรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลว่าจะพิจารณาอย่างไร " นายสิทธิโชค กล่าว