นายสิทธิโชค ศรีเจริญ ในฐานะหัวหน้าทีมทนายความคดีการออกสลากแบบพิเศษเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว ของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ค.) ทีมทนายความจะนำร่างคำแถลงการณ์คัดค้านคำร้องของผู้ถูกกล่าวหาในคดีหวย 3 ตัว 2 ตัว ให้ที่ประชุม คตส.พิจารณา หากที่ประชุมเห็นด้วยจะส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาต่อไป
โดยเนื้อหาสาระของคำแถลงการณ์ดังกล่าวจะยืนยันที่มาและการต่ออายุของ คตส.ว่าถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีการนำคำพิพากษาของศาลฎีกา 2 ฉบับ ได้แก่ ฉบับที่ 42/2496 และ 6411/2534 ซึ่งเกี่ยวกับการทำปฏิวัติรัฐประหารในอดีต มายืนยันให้ศาลเห็นว่าประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) มีสถานะเป็นกฎหมาย เนื่องจากเป็นการบริหารงานตามปกติภายหลังการรัฐประหาร ซึ่งผู้ที่ทำรัฐประหารสำเร็จจะมีสิทธิในการออกคำสั่งการบริหารประเทศ ซึ่งถือเป็นความชอบธรรมและเป็นหลักจารีตประเพณีของประเทศไทย
นายสิทธิโชค กล่าวว่า นอกจากนี้ในการดำเนินงานของ คตส.ใต้คำสั่งประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ยังได้รับการรับรองจากรัฐธรรมนูญชั่วคราว ฉบับปี 2549 และเมื่อมีการต่ออายุการทำงานของ คตส.ก็ได้รับการพิจารณาจากที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และผ่านเป็นกฎหมายบังคับใช้ในลักษณะของ พ.ร.บ.แก้ไขประกาศ คปค.ของ คตส. ซึ่งถือเป็นความชอบธรรม ผ่านกระบวนการรับรองทางกฎหมายแล้ว ไม่ถือว่าขัดรัฐธรรมนูญปี 2550 แต่อย่างใด เพราะไม่เช่นนั้นกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารกว่า 100 ฉบับที่ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะไม่ถือว่ามีผลบังคับใช้ได้ และที่สำคัญในประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ยังมีการระบุถึงการตรวจสอบบุคคลต่าง ๆ ได้ ไม่เฉพาะกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง จึงไม่ใช่เรื่องที่ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด
โดยเนื้อหาสาระของคำแถลงการณ์ดังกล่าวจะยืนยันที่มาและการต่ออายุของ คตส.ว่าถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีการนำคำพิพากษาของศาลฎีกา 2 ฉบับ ได้แก่ ฉบับที่ 42/2496 และ 6411/2534 ซึ่งเกี่ยวกับการทำปฏิวัติรัฐประหารในอดีต มายืนยันให้ศาลเห็นว่าประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) มีสถานะเป็นกฎหมาย เนื่องจากเป็นการบริหารงานตามปกติภายหลังการรัฐประหาร ซึ่งผู้ที่ทำรัฐประหารสำเร็จจะมีสิทธิในการออกคำสั่งการบริหารประเทศ ซึ่งถือเป็นความชอบธรรมและเป็นหลักจารีตประเพณีของประเทศไทย
นายสิทธิโชค กล่าวว่า นอกจากนี้ในการดำเนินงานของ คตส.ใต้คำสั่งประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ยังได้รับการรับรองจากรัฐธรรมนูญชั่วคราว ฉบับปี 2549 และเมื่อมีการต่ออายุการทำงานของ คตส.ก็ได้รับการพิจารณาจากที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และผ่านเป็นกฎหมายบังคับใช้ในลักษณะของ พ.ร.บ.แก้ไขประกาศ คปค.ของ คตส. ซึ่งถือเป็นความชอบธรรม ผ่านกระบวนการรับรองทางกฎหมายแล้ว ไม่ถือว่าขัดรัฐธรรมนูญปี 2550 แต่อย่างใด เพราะไม่เช่นนั้นกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารกว่า 100 ฉบับที่ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะไม่ถือว่ามีผลบังคับใช้ได้ และที่สำคัญในประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ยังมีการระบุถึงการตรวจสอบบุคคลต่าง ๆ ได้ ไม่เฉพาะกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง จึงไม่ใช่เรื่องที่ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด