"เตีย บัญ" รัฐมนตรีกลาโหมของกัมพูชาระบุชัดเจน "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกทหารยึดอำนาจเตรียมขนเงินลงทุนในเกาะกงของกัมพูชาจริง โดยจะร่วมกับ "พัด สุภาภา" ส.ว.เกาะกง ทั้งธุรกิจกาสิโนและพลังงานขณะที่ "นพดล" ปฏิเสธไม่ทราบเรื่องนี้และไม่มีข้อมูล
พล.อ.เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประเทศกัมพูชา เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวออกมาจากสื่อมวลชนไทยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยจะมาลงทุนใน จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชานั้นเป็นความจริง แต่ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ สำหรับธุรกิจที่สนใจก็คือ การทำธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ที่มีทั้งกาสิโน สถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งจะทำให้เกาะกง (พื้นที่เป็นเกาะ) โดยจะเช่าเกาะทั้งหมดแล้วลงทุนในการพัฒนา ขณะที่ธุรกิจพลังงานและน้ำมันนั้นยังไม่ได้มีการพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ รัฐบาลซึ่งจะต้องหารือกับสมเด็จฮุนเซน ก่อน
"ผมเพียงได้ข่าวในวงในเท่านั้น แต่ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่ได้เจรจาหารืออย่างเป็นทางการก็แค่เจรจาเพื่อลงทุนเท่านั้น โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะเป็นผู้ที่ทางสมเด็จฮุน เซน ไว้วางใจและต้องการที่จะให้มาเป็นที่ปรึกษาในการพัฒนา จ.เกาะกง ที่รัฐบาลมุ่งให้เกาะกงเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ และผมเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของเกาะกงจะเติบโตตามที่รัฐบาลได้วางเป้าหมายไว้ ขณะเดียวกันทางด้านนายพัด สุภาภา ก็อยู่ในระหว่างการหารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่ในการร่วมลงทุนด้วยกัน"
พล.อ.เตีย บัญ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องธุรกิจน้ำมันและก๊าซเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งชาวกัมพูชา ยังคงต้องซื้อน้ำมันในราคาที่แพงและทำให้ค่าครองชีพสูง แต่ทุกคนก็ต้องเผชิญปัญหานี้ต่อไปตราบใดที่กัมพูชายังไม่สามารถขุดน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมาใช้ได้ในระยะอันใกล้
ด้านนายพัด สุภาภา หรือ ลี ยง พัด สมาชิกวุฒิสภาเกาะกง และเจ้าของกาสิโนเกาะกง เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างเป็นทางการว่าจะลงทุนในรูปแบบใด และอย่างไร แต่คาดว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะร่วมมือกันได้คงต้องใช้เวลาในการพูดคุยกันอีกระยะกว่าจะลงตัว ซึ่งธุรกิจที่จะลงทุนมีทั้งกาสิโน และเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ส่วนธุรกิจพลังงานยังไม่ได้พูดคุยอะไร
ขณะที่นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ปฏิเสธว่าไม่ทราบในเรื่องนี้ ไม่รู้ว่ามาลงทุนธุรกิจอะไรและยังไม่มีนักธุรกิจหรือภาคเอกชนรายใดมาทำธุรกิจ
"ผมไม่มีข้อมูลในเรื่องนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มาลงทุนอะไร เรื่องนี้ต้องขออภัย ผู้สื่อข่าวทุกคนเพราะไม่มีข้อมูลในเรื่องนี้เลย" นายนพดล กล่าว
ทั้งนี้ พล.อ.เตีย บัญ เปิดเผยถึงเรื่องนี้ในระหว่างที่สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา พร้อมด้วยตัวเขา และนายพัด สุภาภา, นายยุทธ ภูทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกง ร่วมกับนายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีของไทย นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และหัวหน้าส่วนราชการของ จ.ตราด ร่วมพิธีเปิดทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 48 และสะพาน 4 แห่งที่รัฐบาลไทยให้งบประมาณสนับสนุนกว่า 1,000 ล้านบาท
อนึ่ง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ กล่าวในรายการ "ยามเฝ้าแผ่นดิน" ทาง ASTV เมื่อวันที่ 9 พ.ค.โดยเปิดเผยถึงเงื่อนงำของอดีตนักการเมืองใหญ่คนหนึ่งของไทยเตรียมยกดินแดนเขาพระวิหารให้กัมพูชาและสิทธิสัมปทานขุดก๊าซบนพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-เขมรตอนหนึ่งว่า ขณะนี้มีนักลงทุนจากหลายประเทศพยายามที่จะเข้าไปรับสัมปทานพื้นที่ในครึ่งของกัมพูชาและมีข่าวที่น่าสนใจใน นสพ.โพสต์ทูเดย์ วันที่ 9 พ.ค.51 นี้ ระบุว่า แหล่งข่าวทางทหารกำลังจับตาอดีตนักการเมืองคนสำคัญที่กำลังเข้าไปลงทุนด้านพลังงานตรงพื้นที่ทับซ้อนในส่วนของกัมพูชา มีความพยายามจะใช้กรณีเขาพระวิหารต่อรองการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล โดยมีความพยายามขอให้ฝ่ายไทยยกเขาพระวิหารให้กัมพูชาเสีย
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ตนไม่สบายใจต่อนายสมัคร และนายนพดล 2 เรื่อง เรื่องแรก กรณีที่ไม่มีนโยบายที่ชัดเจนต่อกรณีเขาพระวิหาร ทำไมต้องให้กัมพูชายื่นขอเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียว ทำไมไม่ขอมีส่วนร่วม การที่นายสมัคร และนายนพดล ยอมให้กัมพูชายื่นฝ่ายเดียว ทำให้น่าสงสัยว่าจะอยู่ในกระบวนการสมรู้ร่วมคิดยกเขาพระวิหาร แลกสัมปทานขุดก๊าซบนทีพื้นที่ทับซ้อนหรือไม่ และเรื่องนี้ ยังอาจโยงไปถึงกรณีการย้าย นายวีระชัย พลาศัย อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ไปเป็นเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง ซึ่งนายวีระชัย เคยเป็นคนดูแลเรื่องเขตแดน รวมทั้งกรณีเขาพระวิการ ทำให้อดคิดไม่ได้ ที่ถูกย้ายเพราะเป็นก้างขวางคอ กัมพูชา ในการยึดเขาพระหารหรือไม่
"ผมไม่เคยคิดว่าวิกฤตของชาตินั้นจะรุนแรงมากมายถึงขนาดนี้ มันไม่ใช่เรื่องความเศร้า มันเป็นเวรกรรมของประเทศหรือเปล่า นี่เรากำลังจะสูญเสียอธิปไตยของแผ่นดินไทย โดยการที่เราไม่ใส่ใจ คุณสมัคร คุณนพดล คุณต้องทำอะไรอย่างใดอย่างหนึ่ง แสดงเจตนารมณ์ของคุณออกมา ด้วยการให้กระทรวงการต่างประเทศให้เป็นนโยบายออกมาว่าจะต้องส่งตัวแทนไทย ส่งข้อมูล เข้าร่วมยื่นเสนอขอเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกร่วมกับประเทศกัมพูชา ถ้าคุณยังปฏิเสธที่จะทำเช่นนี้อยู่ก็แสดงว่าข้อกล่าวหาที่เขากล่าวหาว่ามีความพยายามที่นายกฯ ฮุน เซน พร้อมที่จะให้สัมปทานประทานบัตรการขุดเจาะแก๊สให้กับอดีตนักการเมืองคนหนึ่ง แต่ต้องพ่วงเขาพระวิหารให้เขมรด้วย" นายสนธิ กล่าวทิ้งท้าย
พล.อ.เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประเทศกัมพูชา เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวออกมาจากสื่อมวลชนไทยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยจะมาลงทุนใน จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชานั้นเป็นความจริง แต่ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ สำหรับธุรกิจที่สนใจก็คือ การทำธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ที่มีทั้งกาสิโน สถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งจะทำให้เกาะกง (พื้นที่เป็นเกาะ) โดยจะเช่าเกาะทั้งหมดแล้วลงทุนในการพัฒนา ขณะที่ธุรกิจพลังงานและน้ำมันนั้นยังไม่ได้มีการพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ รัฐบาลซึ่งจะต้องหารือกับสมเด็จฮุนเซน ก่อน
"ผมเพียงได้ข่าวในวงในเท่านั้น แต่ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่ได้เจรจาหารืออย่างเป็นทางการก็แค่เจรจาเพื่อลงทุนเท่านั้น โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะเป็นผู้ที่ทางสมเด็จฮุน เซน ไว้วางใจและต้องการที่จะให้มาเป็นที่ปรึกษาในการพัฒนา จ.เกาะกง ที่รัฐบาลมุ่งให้เกาะกงเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ และผมเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของเกาะกงจะเติบโตตามที่รัฐบาลได้วางเป้าหมายไว้ ขณะเดียวกันทางด้านนายพัด สุภาภา ก็อยู่ในระหว่างการหารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่ในการร่วมลงทุนด้วยกัน"
พล.อ.เตีย บัญ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องธุรกิจน้ำมันและก๊าซเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งชาวกัมพูชา ยังคงต้องซื้อน้ำมันในราคาที่แพงและทำให้ค่าครองชีพสูง แต่ทุกคนก็ต้องเผชิญปัญหานี้ต่อไปตราบใดที่กัมพูชายังไม่สามารถขุดน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมาใช้ได้ในระยะอันใกล้
ด้านนายพัด สุภาภา หรือ ลี ยง พัด สมาชิกวุฒิสภาเกาะกง และเจ้าของกาสิโนเกาะกง เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างเป็นทางการว่าจะลงทุนในรูปแบบใด และอย่างไร แต่คาดว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะร่วมมือกันได้คงต้องใช้เวลาในการพูดคุยกันอีกระยะกว่าจะลงตัว ซึ่งธุรกิจที่จะลงทุนมีทั้งกาสิโน และเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ส่วนธุรกิจพลังงานยังไม่ได้พูดคุยอะไร
ขณะที่นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ปฏิเสธว่าไม่ทราบในเรื่องนี้ ไม่รู้ว่ามาลงทุนธุรกิจอะไรและยังไม่มีนักธุรกิจหรือภาคเอกชนรายใดมาทำธุรกิจ
"ผมไม่มีข้อมูลในเรื่องนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มาลงทุนอะไร เรื่องนี้ต้องขออภัย ผู้สื่อข่าวทุกคนเพราะไม่มีข้อมูลในเรื่องนี้เลย" นายนพดล กล่าว
ทั้งนี้ พล.อ.เตีย บัญ เปิดเผยถึงเรื่องนี้ในระหว่างที่สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา พร้อมด้วยตัวเขา และนายพัด สุภาภา, นายยุทธ ภูทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกง ร่วมกับนายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีของไทย นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และหัวหน้าส่วนราชการของ จ.ตราด ร่วมพิธีเปิดทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 48 และสะพาน 4 แห่งที่รัฐบาลไทยให้งบประมาณสนับสนุนกว่า 1,000 ล้านบาท
อนึ่ง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ กล่าวในรายการ "ยามเฝ้าแผ่นดิน" ทาง ASTV เมื่อวันที่ 9 พ.ค.โดยเปิดเผยถึงเงื่อนงำของอดีตนักการเมืองใหญ่คนหนึ่งของไทยเตรียมยกดินแดนเขาพระวิหารให้กัมพูชาและสิทธิสัมปทานขุดก๊าซบนพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-เขมรตอนหนึ่งว่า ขณะนี้มีนักลงทุนจากหลายประเทศพยายามที่จะเข้าไปรับสัมปทานพื้นที่ในครึ่งของกัมพูชาและมีข่าวที่น่าสนใจใน นสพ.โพสต์ทูเดย์ วันที่ 9 พ.ค.51 นี้ ระบุว่า แหล่งข่าวทางทหารกำลังจับตาอดีตนักการเมืองคนสำคัญที่กำลังเข้าไปลงทุนด้านพลังงานตรงพื้นที่ทับซ้อนในส่วนของกัมพูชา มีความพยายามจะใช้กรณีเขาพระวิหารต่อรองการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล โดยมีความพยายามขอให้ฝ่ายไทยยกเขาพระวิหารให้กัมพูชาเสีย
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ตนไม่สบายใจต่อนายสมัคร และนายนพดล 2 เรื่อง เรื่องแรก กรณีที่ไม่มีนโยบายที่ชัดเจนต่อกรณีเขาพระวิหาร ทำไมต้องให้กัมพูชายื่นขอเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียว ทำไมไม่ขอมีส่วนร่วม การที่นายสมัคร และนายนพดล ยอมให้กัมพูชายื่นฝ่ายเดียว ทำให้น่าสงสัยว่าจะอยู่ในกระบวนการสมรู้ร่วมคิดยกเขาพระวิหาร แลกสัมปทานขุดก๊าซบนทีพื้นที่ทับซ้อนหรือไม่ และเรื่องนี้ ยังอาจโยงไปถึงกรณีการย้าย นายวีระชัย พลาศัย อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ไปเป็นเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง ซึ่งนายวีระชัย เคยเป็นคนดูแลเรื่องเขตแดน รวมทั้งกรณีเขาพระวิการ ทำให้อดคิดไม่ได้ ที่ถูกย้ายเพราะเป็นก้างขวางคอ กัมพูชา ในการยึดเขาพระหารหรือไม่
"ผมไม่เคยคิดว่าวิกฤตของชาตินั้นจะรุนแรงมากมายถึงขนาดนี้ มันไม่ใช่เรื่องความเศร้า มันเป็นเวรกรรมของประเทศหรือเปล่า นี่เรากำลังจะสูญเสียอธิปไตยของแผ่นดินไทย โดยการที่เราไม่ใส่ใจ คุณสมัคร คุณนพดล คุณต้องทำอะไรอย่างใดอย่างหนึ่ง แสดงเจตนารมณ์ของคุณออกมา ด้วยการให้กระทรวงการต่างประเทศให้เป็นนโยบายออกมาว่าจะต้องส่งตัวแทนไทย ส่งข้อมูล เข้าร่วมยื่นเสนอขอเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกร่วมกับประเทศกัมพูชา ถ้าคุณยังปฏิเสธที่จะทำเช่นนี้อยู่ก็แสดงว่าข้อกล่าวหาที่เขากล่าวหาว่ามีความพยายามที่นายกฯ ฮุน เซน พร้อมที่จะให้สัมปทานประทานบัตรการขุดเจาะแก๊สให้กับอดีตนักการเมืองคนหนึ่ง แต่ต้องพ่วงเขาพระวิหารให้เขมรด้วย" นายสนธิ กล่าวทิ้งท้าย