xs
xsm
sm
md
lg

"BLISS-IEC"ติดโผแชมป์หุ้นร้อนแรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - โบรกเกอร์ ชี้เกณฑ์เทิร์นโอเวอร์ลิสต์ที่ตลาดหุ้นจะนำมาใช้กระทบหุ้นขนาดเล็ก-หุ้นเก็งกำไร แต่ไม่กระทบภาพรวมตลาดหุ้นไทย ติงเกณฑ์ไม่รัดกุมพอควรหามาตรการอื่นมาเสริม ขณะที่ "BLISS-IEC" ควงคู่ติดโผหุ้นติดเทิร์นโอเวอร์ลิสต์สูงสุดของก.ล.ต. ตั้งแต่ต้นปี 51 โดนไปแล้ว 12 สัปดาห์
หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศใช้เกณฑ์การกำกับดูแลหุ้นที่มีอัตราการซื้อขายหมุนเวียนสูง หรือ Turnover list ประมาณกลางปี 2551 นี้ เพื่อลดความร้อนแรงของหุ้นที่มีการซื้อขายโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานเข้ามารองรับ หรือหุ้นเก็งกำไรลง
ขณะที่การจัดทำหุ้น Turnover list โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นถึงรายชื่อหุ้นที่มีอัตราการซื้อขายหมุนเวียนสูง อันแสดงว่าเป็นหุ้นที่มีการซื้อขายเปลี่ยนมือกันมาก และอาจมีแนวโน้มนำไปสู่ภาวะการซื้อขายที่ผิดปกติ
ผู้จัดการรายวัน ได้สำรวจข้อมูลหุ้นที่ติด Turnover list ของสำนักงานก.ล.ต. ที่จะรายงานเป็นประจำทุกสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 50 - 30 เมษายน 51 ปรากฏว่า หุ้นที่ติด Turnover list มากที่สุด คือ บมจ.บลิส-เทล (BLISS) และบมจ.อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง (IEC) ที่ 12 สัปดาห์เท่ากัน โดย BLISS ติดต่อเนื่องกันเป็นเวลา 12 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ - 30 เมษายน 51 ส่วน IEC ต่อเนื่อง 10 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ - 30 เมษายน 51
อันดับสอง บมจ.อีเอ็มซี (EMC) ที่ 9 สัปดาห์ โดยติดต่อเนื่อง 7 สัปดาห์ (14 มีนาคม - 30 เมษายน 51) อันดับสาม บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) ติด Turnover list จำนวน 8 สัปดาห์ เป็นการติดต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ 2 ครั้ง (28 ธันวาคม 50 - 24 มกราคม 51 และ 8 กุมภาพันธ์ - 6 มีนาคม 51) อันดับสี่ บมจ.เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น (MLINK) ที่ 7 สัปดาห์ ติดต่อเนื่อง 5 สัปดาห์ (28 ธันวาคม 50 - 31 มกราคม 51) และบมจ.เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง (GEN) ที่ 6 สัปดาห์ เป็นการติดต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ (7 มีนาคม - 3 เมษายน 51)
นอกจากนี้ ยังมีบริษัทอื่นๆ เช่น บมจ.ล่ำสูง (ประเทศไทย) (LST) ติด 5 สัปดาห์ บมจ.อกริเพียว โฮลดิ้งส์ (APURE) 4 สัปดาห์ ขณะที่ 5 รายติด 3 สัปดาห์ คือ บมจ.ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น (TCC) บมจ.แนเชอรัล พาร์ค (N-PARK) บมจ.ลานนารีซอร์สเซส (LANNA) บมจ.สามชัย สตีล อินดัสทรี (SAM) และบมจ.อีสเทิร์นไวร์ (EWC)
***กระทบหุ้นเล็ก-เก็งกำไร
นายอภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.บีฟิท กล่าวว่า การที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมประกาศใช้เกณฑ์ Turnover list เพื่อป้องกันการเก็งกำไรในหุ้นที่ราคาปรับขึ้นมาอย่างร้อนแรงโดยไร้เหตุผลรองรับ และเป็นการปกป้องนักลงทุนรายย่อยที่ไม่รู้ข่าวสาร จะทำให้หุ้นขนาดเล็กที่ราคาปรับขึ้นมากๆ ถูกเพ่งเล็ง และถูกตรวจสอบเรื่องการเคลื่อนไหวของราคาที่ผิดปกติ รวมถึงการปั่นหุ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม เกณฑ์ดังกล่าวจะไม่ส่งผลต่อภาพรวมของตลาดหุ้นไทย เนื่องจากหุ้นใน SET 50 มีน้ำหนักกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ค่อนข้างมาก และเป็นหุ้นขนาดใหญ่ค่อนข้างโปร่งใส
"ผมมองว่ามาตรการดังกล่าวยังไม่รัดกุมพอ ทำให้ไม่สามารถจับความผิดปกติได้ง่ายๆ เนื่องจากสูตรการคำนวณจะดูการเคลื่อนไหวของปริมาณการซื้อขายในรอบ 1 สัปดาห์ ซึ่งผู้ที่มีเจตนาเข้ามาเก็งกำไรสามารถทำให้หุ้นไม่ติดอยู่ใน Turnover list ได้ ดังนั้นตลาดหลักทรัพย์ฯ จะต้องหามาตรการอื่นๆ มาใช้ร่วมกันหรือเพิ่มเติมมากกว่านี้"
นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า หากตลาดหลักทรัพย์นำ Turnover list มาใช้ คงส่งผลกระทบกับหุ้นขนาดเล็ก และหุ้นเก็งกำไรที่มี free float ไม่ค่อยมาก ซึ่งคงกระทบกับตลาดหุ้นไม่มาก เพราะการเล่นหุ้นเล็กจะเป็นช่วงที่ตลาดเป็น side way ขณะที่เมื่อตลาดหุ้นเป็นขาขึ้นก็จะกลับมาเล่นหุ้นใหญ่มากกว่าหุ้นเล็ก แต่คงกระทบกับหุ้นเป็นรายตัวตัวทำให้การปรับขึ้นของราคาบางช่วงไม่หวือหวามากนัก
ทั้งนี้ การใช้เกณฑ์ Turnover list จะช่วยให้นักลงทุนรายย่อยระมัดระวังมากขึ้น รวมถึงนักลงทุนรายใหญ่ที่จะเข้าไปเก็งกำไรหุ้นเล็กก็ต้องมีความระมัดระวังมากขึ้นเช่นกันว่าจะถูกตลาดหลักทรัพย์จับตามองมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น