00 หลายคนเชื่อว่าความเคลื่อนไหวในบ้านเมืองทุกวันนี้มีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกันและนับวันจะหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งสังคมยังเข้าใจว่ารัฐบาลยังดูเหมือนเอาหูไปนาเอาตาไปไร่เสียอีก โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่จาบจ้วงสถาบัน และบุคคลระดับสูงที่นับวันผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ดในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา และว่ากันว่ามาหนักหน่วงเอาในช่วง 1-2 ปีนี่เอง
00 ขณะเดียวกันในทางเปิดเผยก็มีกลุ่มคนที่ออกมาเคลื่อนไหวให้เห็นตัวตน ท้าทายสังคมเหมือนจะพยายามสร้างกระแสใหม่ในหมู่เยาวชนคนรุ่นใหม่หรือไม่ กรณีของ นายโชติศักดิ์ อ่อนสูง ที่ไม่ยอมยืนทำความเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนต์ กรณี “เว็บไซต์ไฮ-ทักษิณ” ที่ลงบทความโจมตี “ป๋าเปรม” อย่างสาดเสียเทเสียมาแบบต่อเนื่อง
00 นอกจากนี้ยังมีใบปลิวที่โปรยไปทั่วประเทศโดยเฉพาะตามแหล่งชุมชน ไม่เว้นแม้กระทั่งวัดวาอารามต่างๆในชนบท บังเอิญกับช่วงที่มีการชุมนุมของกลุ่ม นปก.ก็ยังมีการด่า “ป๋า” อย่างหนักหน่วงทำถึงขั้นไปยืนตะโกนด่าถึงหน้าบ้านสี่เสาก็เคยปรากฏให้เห็นมาแล้ว
00 สิ่งที่เกิดขึ้นแม้จะยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นคนกลุ่มเดียว หรือพวกเดียวกัน แต่พอเข้าใจได้ว่ามีส่วนเกี่ยวพันกันบ้างไม่มากก็น้อย
00 แม้กระทั่งเว็บไฮ-ทักษิณที่ก่อนหน้านี้ก็เป็นเว็บที่ออกโรงโจมตี “ป๋าเปรม” อย่างต่อเนื่องและรุนแรง จนกระทั่งจะด้วยสาเหตุที่แท้จริงอะไรไม่ทราบได้ต้องปิดตัวเองลงในที่สุด อาจจะเป็นเพราะชื่อของเว็บไซต์ตรงกับชื่อ “ทักษิณ” หรือเปล่าไม่รู้ และเกรงจะส่งผลกระทบที่ไม่คาดหมายหรือไม่ ก็ไม่ทราบอีกนั่นแหละ
00 แต่ที่น่าสนใจก็คือคนชื่อ ทักษิณ เคยออกมาตำหนิ “ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ” กันจนครึกโครม และต่อมา “หลงจู้เติ้ง” ก็เป็นคนออกมาขยายความ หลังจากจับเข่าถามบนโต๊ะอาหารระหว่างทานหูฉลามเมื่อ 2-3 ปีก่อนก็ได้รับคำตอบจนกระจ่างว่า หมายถึงประธานองคมนตรี ทุกอย่างก็ถึงบางอื้อ
00 อย่างไรก็ดีเชื่อว่าสิ่งที่คนไทยรับไม่ได้ก็คือความ “เลยเถิด” กรณีมีชื่อที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษสะกดคำว่า “ทักษิณ” ปรากฏอยู่บนผืนธงไตรรงค์โชว์หราในระหว่างการแข่งขันฟุตบอลระหว่างทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้กับทีมฟูลแล่มเมื่อสอง-สามวันที่ผ่านมา
00 หลายคนคงรับไม่ได้ เพราะธงไตรรงค์ซึ่งแต่ละสีคือ แดง-ขาว-น้ำเงินเป็นสัญญลักษณ์ที่ทุกคนต้องเคารพเทิดทูน การนำชื่อบุคคลมาใส่เอาไว้ในผืนธงในลักษณะแบบนี้มองในมุมไหนรับรองว่าไม่บังควรแน่นอน
00 อย่างไรก็ดีนาทีนี้ไม่อาจฟันธงได้ว่า “เฮียแม้ว” จะเกี่ยวข้องสั่งการหรือไม่ หรือพวกสาวก “เชลียร์” จนเกินเหตุก็ดี แม้ว่าในวันดังกล่าวได้นั่งชมฟุตบอลในเกมที่พ่ายฟูลแล่ม 2-3 ก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่านับจากนี้ไปสังคมจะเริ่มตั้งคำถามและเริ่มปะติดปะต่อเชื่อมโยงกันมากขึ้น ว่าทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันมีต้นตอมาจากไหน เพราะมัน “บังเอิญที่ไม่บังควร” อย่างยิ่ง !!
00 ขณะเดียวกันในทางเปิดเผยก็มีกลุ่มคนที่ออกมาเคลื่อนไหวให้เห็นตัวตน ท้าทายสังคมเหมือนจะพยายามสร้างกระแสใหม่ในหมู่เยาวชนคนรุ่นใหม่หรือไม่ กรณีของ นายโชติศักดิ์ อ่อนสูง ที่ไม่ยอมยืนทำความเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนต์ กรณี “เว็บไซต์ไฮ-ทักษิณ” ที่ลงบทความโจมตี “ป๋าเปรม” อย่างสาดเสียเทเสียมาแบบต่อเนื่อง
00 นอกจากนี้ยังมีใบปลิวที่โปรยไปทั่วประเทศโดยเฉพาะตามแหล่งชุมชน ไม่เว้นแม้กระทั่งวัดวาอารามต่างๆในชนบท บังเอิญกับช่วงที่มีการชุมนุมของกลุ่ม นปก.ก็ยังมีการด่า “ป๋า” อย่างหนักหน่วงทำถึงขั้นไปยืนตะโกนด่าถึงหน้าบ้านสี่เสาก็เคยปรากฏให้เห็นมาแล้ว
00 สิ่งที่เกิดขึ้นแม้จะยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นคนกลุ่มเดียว หรือพวกเดียวกัน แต่พอเข้าใจได้ว่ามีส่วนเกี่ยวพันกันบ้างไม่มากก็น้อย
00 แม้กระทั่งเว็บไฮ-ทักษิณที่ก่อนหน้านี้ก็เป็นเว็บที่ออกโรงโจมตี “ป๋าเปรม” อย่างต่อเนื่องและรุนแรง จนกระทั่งจะด้วยสาเหตุที่แท้จริงอะไรไม่ทราบได้ต้องปิดตัวเองลงในที่สุด อาจจะเป็นเพราะชื่อของเว็บไซต์ตรงกับชื่อ “ทักษิณ” หรือเปล่าไม่รู้ และเกรงจะส่งผลกระทบที่ไม่คาดหมายหรือไม่ ก็ไม่ทราบอีกนั่นแหละ
00 แต่ที่น่าสนใจก็คือคนชื่อ ทักษิณ เคยออกมาตำหนิ “ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ” กันจนครึกโครม และต่อมา “หลงจู้เติ้ง” ก็เป็นคนออกมาขยายความ หลังจากจับเข่าถามบนโต๊ะอาหารระหว่างทานหูฉลามเมื่อ 2-3 ปีก่อนก็ได้รับคำตอบจนกระจ่างว่า หมายถึงประธานองคมนตรี ทุกอย่างก็ถึงบางอื้อ
00 อย่างไรก็ดีเชื่อว่าสิ่งที่คนไทยรับไม่ได้ก็คือความ “เลยเถิด” กรณีมีชื่อที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษสะกดคำว่า “ทักษิณ” ปรากฏอยู่บนผืนธงไตรรงค์โชว์หราในระหว่างการแข่งขันฟุตบอลระหว่างทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้กับทีมฟูลแล่มเมื่อสอง-สามวันที่ผ่านมา
00 หลายคนคงรับไม่ได้ เพราะธงไตรรงค์ซึ่งแต่ละสีคือ แดง-ขาว-น้ำเงินเป็นสัญญลักษณ์ที่ทุกคนต้องเคารพเทิดทูน การนำชื่อบุคคลมาใส่เอาไว้ในผืนธงในลักษณะแบบนี้มองในมุมไหนรับรองว่าไม่บังควรแน่นอน
00 อย่างไรก็ดีนาทีนี้ไม่อาจฟันธงได้ว่า “เฮียแม้ว” จะเกี่ยวข้องสั่งการหรือไม่ หรือพวกสาวก “เชลียร์” จนเกินเหตุก็ดี แม้ว่าในวันดังกล่าวได้นั่งชมฟุตบอลในเกมที่พ่ายฟูลแล่ม 2-3 ก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่านับจากนี้ไปสังคมจะเริ่มตั้งคำถามและเริ่มปะติดปะต่อเชื่อมโยงกันมากขึ้น ว่าทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันมีต้นตอมาจากไหน เพราะมัน “บังเอิญที่ไม่บังควร” อย่างยิ่ง !!