นายกรัฐมนตรีเมินฝ่ายคัดค้านแก้ รธน. ลั่นแก้ให้ดีไม่ใช่แก้ให้เลว เพื่อประโยชน์ของคนวันข้างหน้า ไม่ใช่แก้เพื่อคนที่นั่งในสภาเวลานี้ ย้ำอีกแก้รัฐธรรมนูญเป็นคนละเรื่องกับการแก้ปัญหาของประชาชน
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังกลับจากเดินทางเยือนประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการ ถึงกรณีที่มีข่าวว่าจะเลือกตั้งหลังแก้รัฐธรรมนูญว่า ได้อธิบายไปแล้วว่าหากแก้แล้วจะมีบทเฉพาะกาลว่าจะใช้รัฐธรรมนูญเมื่อไหร่ เช่น รัฐธรรมนูญปี 40 ประกาศใช้ก็ต่อเมื่อมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ แต่ขณะนั้น นายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออกไป นายชวน หลีกภัย ก็ได้โอกาสเข้ามาบริหารอีก 3 ปี โดยไม่ใช้รัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งเสียดายเพราะถ้าใช้ตั้งแต่ตอนนั้นบ้านเมืองอาจไม่เป็นอย่างนั้น เพราะถ้าพรรคประชาธิปัตย์ใช้รัฐธรรมนูญ 40 ต้องดีแน่ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาใช้รัฐธรรมนูญ 40 ก็เลยเกิดเรื่อง
“ผมนั่งเครื่องบินกลับมา หลับตาคิด ถ้าไม่มีคนชื่อทักษิณมาตั้งพรรคการเมือง บ้างเมืองเราก็คงไม่มีอะไรยุ่งยากวุ่นวาย”
เมื่อถามว่าจะหารือกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อไหร่ นายสมัคร กล่าวว่า ขณะนี้นายบรรหาร ศิลปอาชา ไปประเทศจีน ก็ต้องรอท่านแจ้งกลับมาอีกครั้ง ตนจะเป็นคนเลือกร้านอาหาร เพราะจะเป็นคนจ่ายเงินเอง แต่ไม่กินหูฉลามเพราะไม่ชอบ แต่ความจริงคงไม่ต้องหารืออะไร เพราะพรรคพลังประชาชนเป็นผู้ริเริ่มแก้รัฐธรรมนูญ แต่เราก็ชักชวนมาทั้งหมด ซึ่งเมื่อพรรคจะถูกยุบ ถ้าเรารู้ว่าจะต้องตายล่วงหน้า ทำไมไม่เขียนมรดกให้ลูกหลานที่ยังอยู่ เราก็เปรียบเทียบอย่างนั้นเอง
อยากให้เข้าใจว่า เมื่อรู้ว่าตอนปลายจะเป็นอย่างไร ในขณะที่เรามีสมาชิกมีเสียงเราก็ทำประโยชน์ให้บ้านเมือง ตนเจ็บใจคนที่แสดงความเห็น มันประหลาด ทั้งที่รู้กันอยู่ แม้กระทั่งประชาธิปัตย์เองก็รู้ว่าต้องแก้รัฐธรรมนูญ แต่พอจะเริ่มแก้ก็ออกมาค้าน ปลุกระดมยังกับว่าแก้แล้วบ้านเมืองจะบรรลัยวายวอด
“ใครจะคัดค้านก็ค้านไป แก้รัฐธรรมนูญไม่ถึงกับบรรลัย แก้ให้ดี ไม่ใช่แก้ให้เลว แก้เพื่อประโยชน์ของคนวันข้างหน้า ไม่ใช่แก้เพื่อคนที่นั่งในสภาเวลานี้”
นายสมัคร ย้ำด้วยว่า การแก้รัฐธรรมนูญเป็นคนละเรื่องกับการแก้ปัญหาของประชาชน เพราะรัฐบาลก็แก้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชนอยู่แล้วทุกเรื่อง
นายสมัคร กล่าวต่อว่า จะคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลให้ทราบว่าอะไรเป็นอะไร เพื่อให้หัวหน้าพรรคแต่ละพรรคกรุณาไปบอกผู้เกี่ยวข้อง ไปตกลงกัน เพราะไม่ใช่หมายความว่าพรรคพลังประชาชนเอาอย่างนี้ แล้วทุกพรรคต้องเห็นด้วย ทำอย่างนั้นไม่ได้ ต้องเอาทั้งหมด 6 พรรค แต่ก็มาบางคนบอกว่าไม่อยากร่วมแก้รัฐธรรมนูญด้วย ก็ไม่ต้องร่วม แต่คนที่พูดต้องคิดให้ดีที่ประกาศไม่ร่วม
“ที่คาใจคือ คนที่เขียนบทความต่อว่าผมว่าตะแบง ขณะที่นั่งเครื่องบินมาไม่เคยรู้สึกจะอ้วกเลย แต่เมื่อกี้อยากจะอ้วก มันเขียนกันเหลือเกิน ดูถูกดูแคลน เหมือนไอ้นายกฯ มันหน้าโง่ ไม่รู้จักคิด ไม่รู้จักทำอะไรเลย ผมขอย้ำให้ฟังว่า ผมไม่เคยรู้สึกตัวซีดตัวสั่นอยากเป็นนายกฯ แต่ผมรับหน้าที่มาแล้ว ถวายสัตย์ฯ มาแล้ว ก็มีหน้าที่ต้องบริหารบ้านเมืองนี้ ก็คิดว่าทำได้ เพราะฉะนั้นจะเขียนก็เขียนไป แต่จะอยู่นานแค่ไหนก็แล้วแต่ แต่จะทำงานให้บ้านเมืองนี้”