xs
xsm
sm
md
lg

กำเริบเสิบสาน

เผยแพร่:   โดย: สุวิชชา เพียราษฎร์

การประชุมผู้ถือหุ้นบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมาเป็นอีกหนึ่งกรณีที่สะท้อนพฤติกรรมการทำงานของคนที่ชื่อ จักรภพ เพ็ญแข!

ในวันนั้น ผู้ถือหุ้นรายย่อยกลุ่มหนึ่งอดรนทนไม่ไหวจนต้องลุกขึ้นอภิปรายอย่างรุนแรง ภายหลังจากที่ตัวแทนของกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ได้เสนอวาระจรให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหาร 5 คน ในส่วนที่ออกไปก่อนจะหมดวาระ โดยผู้ถือหุ้นรายย่อยชี้ประเด็นให้เห็นว่า ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะรวบรัดตัดตอนไปเสียหมด ตั้งแต่เอกสารที่แจกในปรากฏหลักเกณฑ์การสรรหาซึ่งไม่ระบุที่ไปที่มา ไม่มีการลงนาม ขณะที่ในจำนวนรายชื่อบุคคล 5 คนอันประกอบไปด้วย นายธงทอง จันทรางศุ, นายนฤนารถ พระปัญญา, นายปราโมทย์ โชคศิริกุลชัย, นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ และนายประสาน หวังรัตนปราณี ก็มีสองคนที่น่าเชื่อได้ว่าเป็นใบสั่งมาจาก นายจักรภพ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

นายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ บิดาของ นายจารุวงศ์ เรืองสุวรรณ เลขานุการของนายจักรภพ และปราโมทย์ โชคศิริกุลชัย นักธุรกิจที่ไม่เคยมีประวัติการทำงานเกี่ยวพันกับด้านสื่อสารมวลชนมาก่อน คือ 2 รายดังกล่าว

“นายจักรภพเป็นเจ้าของ อสมท หรืออย่างไร จึงต้องส่งบุคคลใกล้ชิดมาดูแลผู้ถือหุ้นรายย่อยของ อสมท” คือหนึ่งในคำถามที่ถูกฝากไปถึงนายจักรภพ?

ขณะที่บางคนถอดรหัสปฏิบัติการสอดไส้แต่งตั้งบอร์ดครั้งนี้ของ อสมท ว่าเป็นความพยายามของนายจักรภพที่จะเอาการเมืองเข้ามาแทรกแซง อสมท เช่นเดียวกับการเอาการเมืองเข้าไปครอบช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์หรือเอ็นบีทีจนประสบความสำเร็จในปัจจุบัน

“ที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย แต่จริงๆ แล้วคือเผด็จการที่ต้องการให้สื่อเชียร์รัฐบาลอย่างเดียว เหมือนในยุค 4 ปีก่อน สิ่งที่กลัวตามมา หลังการตั้งบอร์ดชุดนี้ คือการปลดกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ ซึ่งแม้ที่ผ่านมาจะทำงานดี แต่หากไม่ถูกใจการเมืองก็คงต้องโบกมือลา” หนึ่งในผู้ถือหุ้นรายย่อยกล่าวไว้อย่างน่าคิด

สุดท้ายในการประชุมผู้ถือหุ้นวันนั้นบอร์ด อสมท ก็ต้องถอนวาระนี้ออกไป

สำหรับตัวนายจักรภพนั้นถูกครหาว่าใช้อำนาจแทรกแซงสื่อมาตลอดตั้งแต่เข้ามาอยู่ในอำนาจ หรือในช่วง 2 เดือนเศษที่ผ่านมา โดยหากใครที่ติดตามผลงานของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีผู้นี้ก็จะทราบว่าเขามีพัฒนาการของการใช้อำนาจแบบไม่เกรงกลัวผู้ใดมากขึ้นเรื่อยๆ!!!

นายจักรภพ เริ่มสำแดงเดชตั้งแต่สั่งปลดอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ นายปราโมช รัฐวินิจ ให้พ้นตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้มีการเปลี่ยนแปลงช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ไปสู่เอ็นบีทีที่เขาต้องการ ซึ่งนั่นก็เป็นที่มาของข้อกล่าวหา ‘ฮั้วประมูล’ ที่ฝ่ายค้านเริ่มดำเนินการตามกระบวนการตรวจสอบแล้ว

จากนั้นได้เกิดกรณีที่รายการ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีต ส.ว.กทม. และนักวิชาการผู้มีชื่อเสียง ถูก ‘ปากที่มองไม่เห็น’ ของผู้มีอำนาจเหนือกรมประชาสัมพันธ์ใช้วิธีโทรศัพท์ไปกดดันเอกชนเจ้าของคลื่นความคิด ‘วิสดอม เรดิโอ’ ที่รับสัมปทานจากกรมประชาสัมพันธ์ให้ปลด ดร.เจิมศักดิ์ ออกจากรายการ ภายหลังที่รัฐบาลถูก ดร.เจิมศักดิ์ วิพากษ์วิจารณ์กรณีข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ

ต่อมาไม่นานนายจักรภพก็สั่งให้กรมประชาฯ ยึดคลื่นวิทยุในเครือกรมประชาฯ คืน 5 สถานีทั้งๆ ที่สัญญาสัมปทานยังไม่หมด โดยอ้างว่ากรมประชาฯ จะเอาคลื่นกลับมาดำเนินการเอง เพื่อไม่ให้คลื่นเหล่านี้หลุดมือกรมประชาฯ ไป หาก กสทช. ดำเนินการจัดสรรคลื่น

กระนั้น การจะหยุดพฤติกรรมลุแก่อำนาจไว้เพียงเท่านี้ก็คงไม่ใช่ “นายจักรภพ นักสู้ผู้เกลียดระบอบศักดินาแห่ง นปก.” เพราะเขายังตกเป็นข่าวอีกครั้งเมื่อออกเดินสายพบปะบรรดา “วิทยุชุมชน” ที่มีอยู่ทั่วประเทศซึ่งในขณะนี้ทั่วประเทศมีอยู่ประมาณ 4,000-6,000 สถานี โดยในครั้งนี้นายจักรภพถูกข้อครหาที่ว่า “ข่มขู่แกมบังคับให้วิทยุชุมชนเหล่านี้เข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายของรัฐบาล โดยอ้างว่าเพื่อแลกกับการไม่ต้องถูกตำรวจจับ”

พฤติกรรมการแทรกแซงสื่อของนายจักรภพ แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 และ 268 ซึ่งอาจส่งผลให้เขาต้องพ้นตำแหน่งรัฐมนตรี เช่นเดียวกับในกรณีที่หากการดำเนินการตรวจสอบเรื่องฮั้วประมูลเอ็นบีทีมีมูลก็จะเป็นอีกประเด็นที่จะทำให้เขาตกเก้าอี้ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาสะทกสะท้าน

นายจักรภพวันนี้ก็ยังกระทำตัวเป็นสายล่อฟ้าของรัฐบาลชุดนี้ต่อไป และ เชื่อว่าจะมีอีกหลายกรณีที่เกิดจากพฤติกรรมลุแก่อำนาจของเขา

หากนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและอดีตแกนนำ นปก. ผู้นี้เรียก การจัดเสวนาอย่างสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ และอยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมาว่า เป็นพฤติกรรมของกลุ่มคนที่ ‘ชักจะกำเริบเสิบสานไปกันใหญ่’

พฤติกรรมของนายจักรภพตั้งแต่ได้รับการปูนบำเหน็จจาก ‘นายใหญ่’ ให้ได้ขึ้นชั้นเป็นรัฐมนตรีในช่วง 2 เดือนเศษที่ผ่านมา ก็ไม่ทราบว่าจะเรียกว่าอะไรดี?

ท่านผู้อ่านสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพิ่มเติมได้ที่ เอ็มบล็อก http://mblog.manager.co.th/suwitcha67 หรือ E-mail suwitcha@manager.co.th
กำลังโหลดความคิดเห็น