ประชุมผู้ถือหุ้น อสมท ตึงเครียด! รายย่อยแฉ "เจ๊เพ็ญ" แอบส่งคนฮุบ

ประชุมบอร์ด อสมท ตึงเครียด! หลังผู้ถือหุ้นรายย่อยพบเงื่อนงำ "คลัง" ผู้ถือหุ้นใหญ่ แอบสอดไส้ 5 รายชื่อเด็กนักการเมืองขาโจ๋ที่เคยบุกพังบ้านป๋า เข้าชิงอำนาจบริหาร โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ปธ.บอร์ด หวั่นเกิดเหตุวุ่นวาย สั่งตีกลับโผรายชื่ออัปยศ พร้อมระบุ ให้ส่งกลับเข้ามาใหม่ แล้วใช้มติบอร์ด อนุมัติได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านที่ประชุมผู้ถือหุ้น

วันนี้ (24 เม.ย.) บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้มีการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2551 ขึ้น ซึ่งบรรยากาศในที่ประชุมค่อนข้างเครียด มีการถกเถียงและเสนอแนะในวาวะการประชุมอยู่หลายวาระ จากการประชุมที่มีทั้งหมด 9 วาระ โดยเฉพาะในวาระสุดท้ายนี้ เป็นการนำเสนอวาระอื่นๆที่ทางผู้ถือหุ้นต้องการนำเสนอ โดยจะต้องมีจำนวนเสียงมากกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด จึงจะสามารถนำเสนอวาระได้

ทั้งนี้จากการที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ซึ่งมีจำนวนกว่า 452,134,022 หุ้น หรือคิดเป็น 65.80% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ได้ขอเสนอ 5 รายชื่อกรรมการและกรรมการอิสระใหม่ที่ทางผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการสรรหาฯแล้ว เพื่อมาดำรงตำแหน่งและทำหน้าที่แทนกรรมการ 5 คนเดิมที่ได้ลาออกไป ให้ทางประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งนี้ ร่วมพิจารณาเห็นชอบด้วย

ปรากฏว่าผู้ถือหุ้นรายย่อยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการเสนอ 5 รายชื่อนี้ในวาระที่ 9 เนื่องจากมองว่าไม่มีความโปร่งใส เพราะไม่ทราบถึงที่มาว่ามีการพิจารณาคัดเลือกกันเวลาใด คุณสมบัติของทั้ง 5 ท่านเป็นมาอย่างไร บวกกับควรที่จะต้องมีการแจ้งให้ทางผู้ถือหุ้นทราบล่วงหน้าก่อน 1 เดือนด้วย ขณะที่ตัวแทนจากกระทรวงการคลังยังยืนยันที่จะขอเสนอ 5 รายชื่อในวาระที่ 9 นี้ จึงทำให้ต้องมีการเบรกการประชุม และเริ่มประชุมกันใหม่

โดยในที่สุดทางนายวิทยาธร ท่อแก้ว ประธานการประชุม สามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2551 และโฆษกคณะกรรมการบอร์ด อสมท ได้ใช้อำนาจทั้งในฐานะประธานขอนำ 5 รายชื่อนี้กลับ โดยมีจึงทำให้วาระที่ 9 ของการเสนอรายชื่อคณะกรรมการบอร์ดใหม่ 5 ท่านจบลง

แต่ทั้งนี้นายวิทยาธร ท่อแก้ว ประธานการประชุม สามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2551 และโฆษกคณะกรรมการบอร์ด อสมท กล่าวว่า ถึงแม้จะนำมาเอา 5 รายชื่อนี้กลับไป แต่เนื่องจากทั้ง 5 ท่านเป็นผู้ที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการสรรหาแล้ว ในวันที่ 30 เม.ย.นี้จะนำทั้ง 5 รายชื่อเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบอร์ด อสมท ให้พิจารณาเห็นชอบร่วมกัน หมายความว่าไม่จำเป็นต้องผ่านที่ประชุมผู้ถือหุ้น ทางคณะกรรมการบอร์ดก็สามารถพิจาณาให้ดำรงตำแหน่งได้ หากมีคุณสมบัติครบตามที่กำหนดไว้

สำหรับรายชื่อทั้ง 5 คณะกรรมการใหม่นี้ ประกอบด้วย 1.นายธงทอง จันทรางศุ กรรมการ แทน นายประกิจ ประจนปัจจนึก ซึ่งประวัติการทำงานที่ผ่านมา เคยเป็นผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา กระทรวงยุติธรรม, โฆษกกระทรวงยุติธรรม, กรรมการกฤษฎีกา, กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญและโฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และกรรมการบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยปัจจุบันรับราชการ ตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม

2.นายนฤนารถ พระปัญญา กรรมการอิสระ แทน นายพงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร ซึ่งประวัติการทำงานที่ผ่านมา เคยเป็นผู้อำนวยการผลิตข่าวประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำนักข่าว ซี.เอ็น.เอ็น. ปัจจุบันเป็นนักวิชาการอิสระ 3.นายปราโมทย์ โชคศิริกุลชัย กรรมการอิสระ แทน นายบุญปลูก ชายเกตุ ประวัติการทำงานที่ผ่านมา เคยเป็นนายกสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ปัจจุบันเป็นนักธุรกิจ ที่ปรึกษาทางด้านการตลาดทางด้านสื่อและบันเทิงทั้งในประเทศและต่างประเทศ

4.นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ กรรมการอิสระ แทน นางสาวรสนา โตสิตระกูล โดยที่ผ่านมาเคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม, ปลัดกระทรวงแรงงาน, รองปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และรองปลัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งปัจจุบันเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ นอกจากนี้ยังเป็นบิดาของนายจารุวงศ์ เรืองสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจักรภพ เพ็ญแข

5.นายประสาน หวังรัตนปราณี กรรมการอิสระ แทนนายชาญชัย สุนทรมัฎฐ์ โดยประวัติการทำงานที่ผ่านมา เคยดำรงตำแหน่งรองประธานบริษัท สำนักงานกฏหมายนานาชาติ จำกัด, สมาชิกสมัชชาแห่งชาติ, รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ไทยแลนด์ พรีวิเลจคาร์ด จำกัด, กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ จำกัด โดยปัจจุบันเป็นนักวิชาการอิสระ

สำหรับการประชุมในวาระที่ 6. ที่มีการนำเสนอรายชื่อคณะกรรมการบอร์ด 4 คน ปรากฏว่าได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุม เนื่องจากผู้ถือหุ้นรายย่อยมองว่ามีการนำเสนอที่มีความโปร่งใสกว่า ซึ่งทั้ง 4 คน คือ 1. นายนัที เปรมรัศมี โดยอาชีพปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เข้ามาดำรงดำแหน่งกรรมการ แทน นายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต 2.นางดนุชา ยินดีพิธ ปัจจุบันรับราชการ ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เข้ามาเป็นกรรมการ แทนนางพรพิมล จุรุพันธุ์

3.นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ปัจจุบันเป็นนักวิชาการ นักบริหารและนักเศรษฐศาสตร์ เป็นกรรมการอิสระ แทนนายสหัส ตรีทิพยบุตร และ 4.นายพงษ์ชัย อมตานนท์ ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นกรรมการอิสระ แทน นายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล

อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่ยอมรับและขู่จะวอล์กเอ๊าต์ คือเดินออกจากห้องประชุม นายวิทยาธรในฐานะคณะกรรมการสรรหาจึงขอถอนรายชื่อคณะกรรมการบริหาร อสมท ชุดดังกล่าวออกจากที่ประชุมฯ ทำให้วาระดังกล่าวไม่มีการพิจารณา ทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยต่างแสดงความยินดี เพราะก่อนหน้านี้มีการเสนอให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยมีสิทธิส่งรายชื่อเข้าไปรับการสรรหาด้วย ซึ่งที่ประชุมก็รับในหลักการ

**แฉ "เจ๊เพ็ญ" เหิมเกริมหนัก ใช้อำนาจยึดทุกสื่อ

แหล่งข่าวจากนักลงทุนรายย่อย อสมท เปิดเผยสาเหตุที่ต้องลงมติคัดค้านรายชื่อของกระทรวงการคลัง เนื่องจากมีข่าวว่า นักการเมืองที่มีอำนาจคุมสื่อในรัฐบาล ซึ่งได้ดิบได้ดีมาจากผลงานการนำคนไปบุกบ้านท่านประธานองคมนตรี มีเป้าหมายที่ต้องการเข้ามายึดอำนาจ อสมท เพื่อใช้เป็นกระบอกเสียง และแสวงหาผลประโยชน์ หลังประสบความสำเร็จในการยึดช่อง 11 และเปลี่ยนเป็น เอ็บีที ทีวี พร้อมนำคนของตนเองเข้ามาทำงาน และตั้งบริษัทเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากรายการ และเม็ดเงินโฆษณา ผู้ถือหุ้นรายย่อยจึงลงมติคัดค้าน เพื่อให้มีการทบทวนให้ชัดเจนก่อน

นายพิเชียร อำนาจวรประเสริฐ สื่อมวลชนอิสระ และผู้ถือหุ้นรายย่อย กล่วถึงกระบวนการแต่งตั้งบอร์ด อสมท ครั้งนี้ ยอมรับว่ายังน่าเป็นห่วง เพราะรายชื่อจริงที่ออกมาสอดคล้องกับโผที่หลุดมาก่อนหน้านี้ นั่นหมายถึงการเมืองเข้าแทรกแซง อสมท เช่นเดียวกับการเมืองที่เข้าไปครอบเอ็นบีที ทำให้สื่อขาดความเป็นอิสระ ที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย แต่จริงๆ แล้วคือเผด็จการที่ต้องการให้สื่อเชียร์รัฐบาลอย่างเดียว เหมือนในยุค 4 ปีก่อน

"สิ่งที่กลัวตามมา หลังการตั้งบอร์ดชุดนี้ คือการปลดกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ ซึ่งแม้ที่ผ่านมาจะทำงานดี แต่หากไม่ถูกใจการเมืองก็คงต้องโบกมือลา"

ดังนั้น ชัยชนะของผู้ถือหุ้นรายย่อยบริษัท อสมท ในการค้านบอร์ดวาระจรทั้ง 5 คน ในการประชุมครั้งนี้ จึงเป็นเพียงการทำได้แค่ให้กลุ่มการเมืองสะดุด ในการเข้าครอบงำ อสมท กลับสู่แดนสนธยาเท่านั้นเอง