xs
xsm
sm
md
lg

เปิดโผว่าที่9บอร์ดใหม่อสมทมีชื่อ“ธงทอง-บอสเบียร์สิงห์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ฉบับวันที่ 12-13 -4-51
ผู้จัดการรายวัน – เปิดโผรายชื่อ 9 คน ที่จะเข้ามานั่งเผ้นบอร์ดอสมทชุดใหม่ เผยมีชื่อ “ธงทอง” อดีตบอร์ดยุคมิ่งขวัญติดมาด้วย พร้อมนักธุรกิจหนุ่ม “จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี” จากเบียร์สิงห์

การสรรหาผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่ง คณะกรรมการหรือบอร์ด อสมท ขณะนี้มีความคืบหน้าไปอีกขั้นแล้ว โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวที่ค่อนข้างจะน่าเชื่อถือได้ระบุว่า มีการกำหนดบุคคลทั้ง 9 คนที่จะเข้ามานั่งเป็นบอร์ด อสมท ในส่วนที่ยังขาดอยู่ 9 คนไว้เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะมีการนำเสนอรายชื่อนี้ให้กับบอร์ดอสมท ชุดปัจจุบันพิจารณา
สำหรับรายชื่อที่มีกระแสว่าจะถูกนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการบอร์ดอสมทในสัปดาห์หน้า พิจารณา 9 คน นั้นประกอบด้วย 1.นายธงทอง จันทรางศุ อดีตบอร์ดของอสมท ในยุคที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ , 2. นายนฤนาท พระปัญญา อดีตหัวหน้าสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นประเทศไทย , 3.นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ผู้บริหารของกลุ่มสิงห์คอร์ปอเรชั่น (กลุ่มบุญรอดบริวเวอรี่เดิม) และอดีต สว. , 4.นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตปลัดกระทรวงแรงงาน
5.นายประสาน หวังรัตนปราณี อดีตผู้บริหารของบริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ จำกัด และเคยทำงานที่บัตรอีลิทการ์ด , 6. นายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นอดีตบอร์ดอสมทชุดปัจจุบัน ที่เพิ่งถูกจับฉลากออกตามวาระในครั้งก่อนเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา , 7. นางดนุชา ยินดีพิท ผู้อำนวยการสำนักพัฒนารัฐวิสาหกิจ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) , 8. นายธงไชย เมตะนันท์, 9.นายอิทธิวัฒน์ สงศิริ
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากรายชื่อแล้ว จะพบว่า ค่อนข้างจะหลากหลายวงการพอสมควร แต่ก็ยังมีคนเก่าๆที่เคยเกี่ยวข้องกับอสมทมาก่อนด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะนายธงทอง จันทรางศุ ซึ่งเคยเป็นบอร์ดและเคยเป็นประธานคณะกรรมการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. อสมท
ก่อนหน้านี้ นางวิลาสิณี อดุลยานนท์ (พิพิธกุล) ซึ่งเป็นคณะกรรมการสรรหาบอร์ดอสมท ได้กล่าวไว้ว่า สำหรับคณะกรรมการสรรหาฯ คาดว่าจะเสนอรายชื่อ ผู้ที่จะเข้ามาเป็นบอร์ด คือ 4 คนเดิม ที่ถูกจับฉลากออกไปรอบที่แล้วคือ นายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต นางพรพิมล จุรุพันธ์ นายสหัส ตรีทิพยบุตร และนายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล
ขณะที่การสรรหารายชื่อนั้น นางวิลาสิณีกล่าวว่า มีที่มาได้ 3 แนวทาง คือ 1.คณะกรรมการสรรหาเสนอชื่อ 2.กระทรวงการคลังเสนอชื่อ 3.รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอในฐานะที่เป็นผู้กำกับดูแลอสมท
ทั้งนี้รายชื่อทั้งหมดจะต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ อสมท ในวันที่ 24 เมษายนนี้ เพื่อลงคะแนนโหวตกันต่อไป

ฝากข่าวนี้ให้พี่โยด้วยครับ จะออกจากหน้าจอแล้วครับ

บอร์ดใหม่“อสมท”ยังมืด
“เพ็ญ”ท้าตรวจสอบเอ็นบีที

ผู้จัดการรายวัน – การหาตัวบอร์ดอสมทใหม่ยังไม่ลงตัว ชี้มี 3 แนวทางที่จะเสนอชื่อเข้ามาได้ เผยคราวนี้อาจจะเสนอชื่อมากกว่า 9 คนที่ต้องการให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้น สุดท้ายคงต้องลุ้นผลโหวตคะแนนเสียง คณะกรรมการสรรหาฯเล็งชง 4 บอร์ดเก่าเข้ามา  ด้านจักรภพบอกอยากจะยุ่งแต่ยุ่งไม่ได้ แต่ฝากบอร์ดใหม่ต้องดูเรื่องผลประกอบการด้วย ท้าฝ่ายค้านตรวจสอบช่องเอ็นบีทีต่อเนื่อง  ส่วนวสันต์ยันถ้างบภาครัฐไหลไปช่องเอ็นบีทีไม่กระเทือน

นางวิลาสิณี อดุลยานนท์ (พิพิธกุล) คณะกรรมการสรรหากรรมการหรือ บอร์ด บมจ.อสมท เปิดเผยว่า  การสรรหารายชื่อคณะกรรมการอสมท ที่ว่างลงในขณะนี้จำนวน 9 ตำแหน่ง จะมีที่มาได้จาก 3 ทางคือ 1.รายชื่อที่มาจากการเสนอของกระทรวงการคลัง ในฐานะที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่  2. การเสนอโดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้กำกับดูแล และ 3. การเสนอโดยคณะกรรมการสรรหาบอร์ด อสมท
                โดยขั้นตอนนั้น เมื่อได้รายชื่อที่เสนอมาแล้ว ก็จะเสนอเข้าสู่บอร์ดอสมทเพื่อรับรอง และนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น อสมท ในวันที่ 24 เมษายนนี้ เพื่ออนุมัติ
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา เมื่อมีตำแหน่งที่ว่างลงเท่าใดก็จะมีการเสนอมาตามจำนวนที่เท่ากันนั้น แต่ในครั้งนี้มีแนวคิดกันว่า อาจจะมีการเสนอรายชื่อเข้ามามากกว่าตำแหน่งที่ว่างลง แล้วให้ทางที่ประชุมผู้ถือหุ้นโหวตคะแนนกัน
                ในส่วนของ คณะกรรมการสรรหา จะเสนอรายชื่อ บอร์ดเดิม 4 คนที่ถูกจับฉลากออกไปในครั้งล่าสุดที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ คือ นายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต,    นางพรพิมล จุรุพันธ์,   นายสหัส ตรีทิพยบุตร และนายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล  และจะมีผลในวันที่ 24 เมษายนนี้ ซึ่งคาดว่ารายชื่อผู้ที่ถูกเสนอจะเป็นบอร์ดใหม่นั้นอาจจะทราบได้หลังช่วงเทศกาลสงกรานต์
             ขณะที่นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการไปร่วมพิธีฉลองครบรอบ 31 ปีของ อสมท  เมื่อวานนี้ว่า มีหลายคนที่เสนอตัวเข้ามาหาผมเสนอตัวเป็นบอร์ดอสมท แต่ผมได้ตอบกลับไปว่า ปัจจุบันนี้อสมทไม่ได้เป็นรูปแบบเดิมๆอีกต่อไปแล้วที่ว่า รัฐมนตรีฯจะเป็นผู้เสนอเข้าไปแล้วแต่งตั้งได้เลย เพราะอสมทเวลานี้เป็นบริษัทมหาชนแล้ว  มีคณะกรรมการสรรหาโดยตรง โดยมี นายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และรองประธานกรรมการปฎิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ บมจ.อสมท เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาฯ ซึ่งจะเป็นผู้สรรหาผู้ที่มีคุณสมบัติและทรงคุณวุฒิเข้ามาดำรงตำแหน่ง
                   ทั้งนี้รัฐบาลจะเกี่ยวข้องเพียงแค่ 2 ประเด็นคือ 1.ในส่วนของกระทรวงการคลังที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สามารถเสนอรายชื่อผู้ที่จะเข้ามาเป็นบอร์ดได้  และ 2. ตัวของผมเองที่เป็นผู้กำกับดูแลต้องดูแลกระบวนการทั้งหลายให้เรียบร้อย ผมไม่สามารถเสนอได้ อยากจะยุ่งแต่ก็ยุ่งไม่ได้
                 นายจักรภพกล่าวต่อว่า ยังเป็นห่วงเรื่องผลประกอบการของ อสมท  จึงอยากจะฝากคณะกรรมการอสมทชุดใหม่ที่จะเข้ามาทำงานด้วย พร้อมทั้งให้ดูด้วยว่า ถ้าอะไรที่ดีก็ให้ทำต่อไป เพื่อให้องค์กร อสมท มีความก้าวหน้ามากขึ้น  
               นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของอสมท ไตรมาสแรกปีนี้ คาดว่าน่าจะดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วพอสมควร ซึ่งยังต้องรอการประชุมผู้ถือหุ้นก่อนจึงจะเปิดเผยได้  ที่ผ่านมาเราพยายามทำงานกันเต็มที่ ซึ่งผลประกอบการที่ดีขึ้นนี้มาจากการพัฒนารายการต่างๆที่ดีขึ้น การมีโฆษณาเข้ามามากขึ้น รวมทั้งการปรับค่าโฆษณาด้วย ซึ่งขณะนี้เรามีแชร์เพิ่มขึ้นประมาณ 17-18% ของเม็ดเงินใช้โฆษณาโดยรวม
                     ส่วนประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเกตุว่า การที่ช่อง 11 ปรับเปลี่ยนเป็น ช่องเอ็นบีที จะทำให้งบประมาณโฆษณาของภาครัฐไหลไปที่ช่องเอ็นบีทีมากขึ้น จากเดิมที่งบประมาณโฆษณาของหน่วยงานภาครัฐนั้นจะใช้ช่องโมเดิร์นไนน์เป็นสื่อหลัก
                 นายวสันต์กล่าวว่า คงไม่กระทบเท่าใด เนื่องจากว่า อสมท ได้พยายามปรับสัดส่วนหันมาพึ่งงบประมาณโฆษณาจากภาคเอกชนและเอเจนซี่มากขึ้น เนื่องจากเรามองว่าหากจะแข่งขันกันในวงการสื่อทีวีแล้ว จุดหลักต้องอยู่ที่งบโฆษณาเอกชน ซึ่งในอดีตทางอสมทมีสัดส่วนงบประมาณโฆษณาจากภาครัฐค่อนข้างสูง แต่เดี๋ยวนี้เหลือประมาณ 10% เท่านั้น โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้งบโฆษณาจากภาครัฐไว้ที่ 400 กว่าล้านบาท จากปีที่แล้วที่มีประมาณ 300 กว่าล้านบาท
          นายจักรภพ ยังได้กล่าวถึงกรณีช่องเอ็นบีทีที่มีหลายฝ่ายรวมทั้ง นายอลงกรณ์ พลบุตรท พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะฝ่ายค้าน ตั้งข้อสังเกตุถึงความไม่โปร่งใสในการดำเนินการโดยเฉพาะเรื่องของการเปิดให้บริษัท ดิจิตอล มีเดีย โฮลดิ้ง จำกัด เป็นผู้บริหารงานด้านข่าวและการโฆษณา โดยให้ผลตอบแทนกับกรมประชาสัมพันธ์เพียง 40 ล้านบาทต่อปีเท่านั้น ซึ่งจะทำให้รัฐเสียผลประโยชน์ ด้วยว่า
“ ผมดีใจที่ทุกฝ่ายให้ความสนใจรวมทั้งนายอลงกรณ์ด้วยที่เข้ามาดูแลและตรวจสอบตรงนี้ เพราะไม่มีอะไรที่จะทำให้ชื่อของเอ็นบีทีเราสว่างไสวมากไปกว่าการที่มีฝ่ายค้านมาตรวจสอบ ซึ่งขอให้ตรวจสอบต่อเนื่องด้วย และขอให้เสนอแนะอะไรที่ยังขาดไปด้วย ผมมองว่าไม่ว่าจะเป็น อสมท หรือ ช่องเอ็นบีที  หรือกรมประชาสัมพันธ์  ไม่ใช่เป็นสมบัติส่วนตัวของใคร คนที่มาบริหารก็มาชั่วคราวทั้งสิ้น ผมรอมานานแล้วที่จะมีการตรวจสอบในระบบรัฐสภา”
อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์หน้า ตนจะเรียกผู้จัดรายการของช่อง 11 เดิม ทั้งหมด เพื่อมาประชุมร่วมกันว่า แนวทางจะเป็นอย่างไร เพราะหลายคนกลัวหลุดผัง  หรือใครมีอะไรก็เสนอแนะมาได้ จะรับฟังความคิดเห็นเพื่อนำไปสู่การปรับปรุง  ซึ่งมีมากกว่า 100 รายทั้งเล็กและใหญ่  ซึ่งเราไม่อยากให้เกิดการฟ้องร้องกันขึ้น แต่ถ้ามีเราก้พร้อมที่จะสู้ในชั้นศาล รวมทั้งเรื่องการโฆษณาด้วย ภายหลังจากที่พรบ.การประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ มีผลใช้เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้มีหลายคนยังทำผิดกฎหมายอยู่ทั้งเคเบิ้ล วิทยุชุมชน
กำลังโหลดความคิดเห็น