xs
xsm
sm
md
lg

แฉคนรู้ใบปลิวเพ่นพ่านทำเนียบฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงใบปลิวโจมตีประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษว่า คงไม่ใช่ทำเพื่อดิสเครดิตพรรคพลังประชาชน เพราะตามข่าว นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์เป็นคนออกมาให้สัมภาษณ์เปิดประเด็นว่า พบเอกสาร ซึ่งตนก็บอกว่าไม่เคยเห็น หากนายชวนมีเอกสาร ก็ขอให้ส่งมา จะตรวจสอบให้ ถึงแม้ว่านายชวนไม่ส่งมา ทางเราก็จะตรวจสอบ ในส่วนที่ตนมีหน้าที่ และนี่ไม่ใช่การกระทำของพวกเรา จะเป็นการดิสเครดิตได้อย่างไร แต่ถ้าพรรคประชาธิปัตย์หยิบยกเรื่องนี้มาเป็นประเด็นโยนหินถามทาง พูดแล้วไม่รับผิดชอบ พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องรับผิดชอบ เพราะว่าเราไม่ใช่คนเปิดประเด็น อย่างไรก็ตามการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติที่ทำเนียบรัฐบาลวันนี้ (17 เม.ย.) จะหยิบยกเรื่องดังกล่าวเข้าหารือด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่าว่า ในส่วนของรัฐบาลยืนยันว่าจะตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตรวจสอบ ผมสั่งตรวจสอบแล้วว่าจริงหรือไม่ และอยากเรียกร้องให้คุณชวน ซึ่งเป็นนักกฎหมาย เวลาคนอื่นพูดอะไรคุณชวนก็มักจะอ้างว่าให้เอาหลักฐานมา คราวนี้ก็กลับไปหาคุณชวนบ้าง เอาหลักฐานที่คุณชวนได้เห็นได้พบมา
ต่อข้อถามว่าจากการตรวจสอบแล้วพบเบาะแสอะไรหรือไม่ว่าใบปลิวดังกล่าว มีจริงหรือเป็นการหยิบยกขึ้นมาเลื่อนลอย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ยังไม่พบ มีแต่ไปด่ากันที่สนามหลวง ซึ่งตนก็ไม่กล้าบอกให้นายชวนแสดงความรับผิดชอบ เพราะนายชวน ต้นทุนทางสังคมสูงมาก ประชาชนเชื่อถือ ตนต้นทุนต่ำ ไปบอกให้รับผิดชอบไม่ได้หรอก แต่ว่าพูดเรื่องอย่างนี้ พูดพร่ำเพื่อไม่ได้มันต้องพูดบนพื้นฐาน บนเหตุผล ถ้ามีก็ต้องส่งมา และที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ออกมาพูดเสริมนายชวนว่า นายชวน เพียงแต่ตั้งข้อสังเกตหรือเตือน ซึ่งเรื่องนี้ตั้งข้องสังเกตไม่ได้ ถ้าข้อเท็จจริงใด ไม่มีอยู่จริง เพราะมันเรื่องเสื่อมเสีย ไม่ว่าจะเป็นประธานองคมนตรีหรือท่านองคมนตรี ต่างๆ ท่านเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง
ส่วนจำเป็นต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ได้หรอก ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปแสดง ไม่เกี่ยวกับเรา ต่อข้อถามว่า การนำบุคคลอันเป็นที่เคารพมาเป็นประเด็นทางการเมือง จะเป็นการนำไปสู่การทำรัฐประหารหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มี ไม่เห็นใบปลิวที่ไหนที่กล่าวอ้าง ก็ไปพูดกันเอาเอง
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่าในการตรวจสอบได้ให้เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ซึ่งมีฝ่าย สืบสวนสอบสวนไปดำเนินการ และอาจจะขอร้องตำรวจสันติบาล ให้ช่วยตรวจสอบดูแล โดยจะขอไปทาง ผบ.ตร.ให้ส่งตำรวจสันติบาลมาช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว ซึ่งหากพบว่ามีข้อมูล ก็ต้องดำเนินคดี ตามกฎหมาย แต่ถ้าจะให้เร็วนายชวน ต้องนำข้อมูลหลักฐานมาให้ เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคยังให้ความเคารพการทำงาน ในส่วนขององคมนตรีใช่หรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จะไม่เคารพได้อย่างไร เมื่อเจอก็ไหว้ให้ราบพนาสูญ
“อย่าไปพูดแล้วกลับไป อย่าเตะตะกร้อสวยแล้ว ไม่เข้าห่วง แล้วไปยืนดู คุณชวน ต้องเตะตะกร้อซ้ำให้เข้าห่วงไปเลย จะได้รู้ว่าใครทำผิด รัฐบาลจะไปวิจารณ์ประธานองคมนตรีทำไม ผมก็มีงานทำนะ ไม่ใช่ว่ารัฐบาลไม่มีงานทำ มีงานเยอะ แทบไม่ว่างแล้วจะหาเรื่องใส่ตัวทำไม เป็นไปไม่ได้ที่พวกผมทำ ไม่มี พวกที่ย่ามใจ ที่เคยเอาของพวกนี้มาหากิน จนเกิดเหตุการณ์วุ่นวายจนมีรัฐประหาร กลับบ้านไป ทบทวนใหม่ บอกได้เลย ผิดหวังแล้วต๋อย.. ไม่มีหรอก ถ้าผมอยู่ตรงนี้ ถึงลูกถึงคน และพิสูจน์ทราบได้ ผิดหวังแล้ว ถ้าใครคิดจะเอาเรื่อง ไปหมิ่นเหม่ผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่มีหรอก ผมรู้ว่าประธานองคมนตรีมีศักดิ์ศรีอย่างไร เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย ไม่เหมือนนักการเมืองบางกลุ่มที่หวังผลทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย บางคนทำงานไม่เป็นพอมีตำแหน่ง ออกมาแอ๊คอาท พอสังคมเชื่อก็แอ็คใหญ่”
ผู้สื่อข่าวถามว่าดูเหมือนนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจะตกเป็นเป้าในเรื่องนี้เนื่องจากเป็นอดีตแกนนำ นปก. ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดว่านายจักรภพเป็นผู้ดำเนินการ แต่เคยมีเหตุการณ์เรื่องที่มีการกล่าวหาว่า มีการโจมตีเรื่องนี้สมัยที่มีการชุมนุมที่สนามหลวง แต่ปัจจุบันไม่มี
“ถ้านายชวนรู้ก็ต้องบอกมา ถ้าไม่มีผมบี้ตาย เพราะนายชวนชอบพูดตลอด บอกว่ามีหลักฐานต้องเอามาเสนอ เห็นเรียกร้องลุงหมักยิกยิก สมัยที่มีปฏิวัติ ลุงหมักก็ปราม เรื่องที่คุณชวนพูดได้อ่านถึงรู้ และต้องตรวจสอบ เพียงแต่ไม่เอาให้ถึงที่สุด ถ้าไม่มีคุณชวนต้องรับผิดชอบ”

“ชวน”ยันมีใบปลิ้วถล่ม “ป๋า”จริง
ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่ามีการโจมตีพรรคประชาธิปัตย์และประธานองคมนตรีจริงโดยมีการออกหนังสือเวียนไปยังบุคคลต่างๆ มีเนื้อหาโจมตีคนในพรรคประชาธิปัตย์ คนภาคใต้ และในช่วงหลัง โจมตีองคมนตรีด้วย แต่หนังสือเหล่านี้ไม่บอกว่าใครเป็นคนเขียน ดังนั้นการจะไปแจ้งความจึงเป็นเรื่องยาก เนื่องจากไม่รู้ว่าใครเขียน เพราะหากเรามีหลักฐาน ก็ดำเนินคดีไปแล้ว เหมือนกรณีที่มีคนปราศรัยที่สนามหลวงโจมตีตน ตนก็แจ้งความดำเนินคดี เพราะมีหลักฐานว่าใครเป็นคนพูด
“กรณีใบปลิว คนพวกนี้ ไม่กล้าใส่ชื่อ ผมว่าคนพวกนี้ทำเป็นกระบวนการ ถ้ามันใส่ชื่อ ก็หมิ่นประมาท มันก็รู้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นที่ท้าไปแจ้งความ ถ้ามันใส่ชื่อคนนั้นคนนี้ เราก็สามารถดำเนินคดีได้ ผมยังเคยนำเรื่องนี้หารือหัวหน้าพรรคเหมือนกันว่า เราไม่มีวิธีการดำเนินการกับคนพวกนี้หรือ เพราะคนพวกนี้เวลามันเรียกร้องความสามัคคีก็เรียกได้ แต่วิธีปฏิบัติทำอีกอย่างหนึ่ง นี่คือสิ่งที่ปรากฎตลอดมา เราก็ได้รับอยู่เป็นประจำ ไม่ใช่ปีละครั้ง แต่ปีหนึ่งหลายครั้ง แล้วเวียนมาเรื่อยๆคิดว่าน่าจะมาจากกลุ่มที่มีกำลังพอ มีกำลังคนเอาไว้โทรศัพท์เข้าไปในวิทยุ เอาไว้ส่งข้อความ ในโทรทัศน์ และเอาไว้ออกหนังสือเวียน หรือใบปลิวโจมตีคนอื่น”
นายชวน กล่าวว่า เอกสารที่มีการโจมตีคนในพรรคประชาธิปัตย์เหล่านั้น ตนยังเก็บเอาไว้อยู่ และจากการพูดคุยกับคนในพรรคหลายคนก็ได้รับเช่นกัน หรือบางกรณี มีการส่งไปตามหน่วยราชการ ซึ่งมีคนในหน่วยราชการส่งมาให้ตน ทั้งนี้สันนิฐานว่า คนที่ทำเรื่องเหล่านี้น่าจะเป็นกลุ่มคนที่วางตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อพรรคประชาธิปัตย์ตลอดเวลา
“เราไม่ได้บอกว่าใครทำ แต่ก็มีอาการจากบางคนออกมาไม่พอใจ เพราะฉะนั้นคนเหล่านั้นน่าจะติดตามสืบเสาะดูว่า สิ่งที่ผมพูดไปนั้นกระทบต่อคนไหนบ้าง เราไม่ได้ระบุชื่อ แต่ที่เหนือสิ่งอื่นใด คนที่อยากให้บ้านเมืองสงบจริง ๆ ไม่ควรนำเรื่องเหล่านี้มาเล่นใต้ดิน ผมคิดว่าคนที่ออกมาพูดอาจจะมีความรู้สึกว่า เราพูดถึงเขาหรือไม่ แต่ความจริงเราไม่ได้พูดถึงใครเลย เพราะเราไม่รู้ว่าใครทำ และเราไม่รู้จริงๆ ว่าคนที่ทำคือใคร ก็ไม่สามารถระบุชื่อได้ ถ้าเรารู้ตัว นอกจากจะแจ้งความ หมิ่นประมาทแล้ว เรายังสามารถระบุชื่อให้คนรับรู้พฤติกรรมคนเหล่านั้นได้ เพราะฉะนั้นคนที่ออกมาท้าทาย หรือออกมาพูด ผมไม่แน่ใจว่า คนเหล่านี้จะมีส่วนรู้เห็นหรือไม่”

เหน็บคนที่รู้เรื่องเดินเผ่นพ่านเต็มทำเนียบฯ
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การออกมา เปิดเผยพฤติกรรมของคนบางกลุ่มของนายชวน หลีกภัย จนทำให้คนในพรรคพลังประชาชน และอดีตแกนนำ นปก.ออกมาเรียกร้องให้นายชวนรับผิดชอบต่อการออกมาแฉ ครั้งนี้ว่าทั้งหมดที่นายชวนออกมาพูดเป็นข้อเท็จจริง เพราะนายชวนเอง พรรคประชาธิปัตย์ หรือแต่ละคนได้ประสบกับตัวเอง หรือแม้กระทั่งตนเองที่ทุกครั้งเมื่อมีการให้สัมภาษณ์พูดพาดพิงไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็จะมีใบปลิว มีจดหมายเปิดผนึก ส่งมาบ่อยครั้ง ใช้วาจาที่ไม่เหมาะสมเขียนทำลายพรรคประชาธิปัตย์ มีการส่งไปตามหน่วยงานราชการ ตามห้างร้านแถมยังกำชับให้มีการเผยแพร่อีกด้วย
นายเทพไท กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลกำลังท้าทาย เรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ แสดงหลักฐานทั้งที่ความจริงเราก็ได้ชี้เบาะแสให้แล้ว จากนี้ก็เป็นหน้าที่ของผู้รับผิดชอบที่จะต้องไปดำเนินการ เมื่อมีโจรมาปล้นบ้านก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ ไปติดตามจับโจร ไม่ใช้ให้เจ้าทุกข์หรือผู้เสียหายตามจับโจร มันเป็นเรื่องของ เจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายเทพไท กล่าวว่าแม้พรรคประชาธิปัตย์ จะมีหลักฐานเราก็ไม่มั่นใจในรัฐบาลชุดนี้ว่าจะดำเนินการใดๆเพราะผู้ที่น่าจะรู้เรื่องเหล่านี้ดีเห็นกำลังเดินเผ่นพ่าน ในทำเนียบฯ ห้อมล้อมตัวนายกรัฐมนตรี บางคนเป็นหัวโจก ได้ดิบได้ดีเป็นถึงรัฐมนตรี เป็นรองประธานสภา เป็นรองโฆษก ถ้ารัฐบาลมีความจริงใจในเรื่องนี้จริงก็ไม่ต้อง เรียกหาหลักฐานจากผู้แจ้งความหรอก รัฐบาลมีกลไกอยู่ในมือ ไม่ว่าสันติบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาต ิ หรือแม้แต่สภาความมั่นคง สามารถสืบสวนสอบสวนได้
“นี่กลับปล่อยให้เวปไซด์ไฮทักษิณ ที่มีการตั้งกระทู้ตอบพาดพิงไปถึงองคมนตรี ถึงสถาบันเบื้องสูงบ่อยครั้งซึ่งรัฐบาลก็ไม่ได้ใส่ใจหรือมีท่าทีที่จะดำเนินการกับเวปไซด์นี้ และกรณีหลังสุดที่นายตำรวจคนหนึ่งไปแจ้งความให้ดำเนินคดีกับนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายก ที่ไปพูดต่อผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ถามว่า เรื่องนี้มีความคืบหน้าถึงไหน เอาจริงเอาจังเหมือนคดีอื่นๆ หรือไม่ อย่างเรื่องพิมพ์บัตรปลอมของ กกต.ที่ดูเหมือนว่ารัฐบาลติดตามเรื่องอ่างกระชั้นชิด หรือว่ารัฐบาลนี้เหมือนกับอดีตรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณที่มี 2 มาตรฐาน”

หดหู่มท.1ไร้ฝีมือขอหลักฐานใบปลิว
นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีของ ร.ต.อ.เฉลิม เรียกร้องให้นายชวน นำใบปลิวโจมตีประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ไปแจ้งความดำเนินคดีว่า รู้สึกหดหู่กับการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ เพราะแม้แต่ใบปลิว รมว.มหาดไทยยังต้องถามไถ่ที่มากับนายชวน หลีกภัย ซึ่งหากเป็นเช่นนี้รัฐบาลจะแก้ปัญหาความไม่สงบภาคใต้ได้อย่างไร
“ผมสงสารประชาชน ขนาดใบปลิว ท่าน มท.1 ยังต้องออกตัวถามกับนายชวน แล้วยังงี้ท่านจะหาข่าวการก่อการร้ายได้ยังไง ผมหดหู่จริงๆ หรือท่านจะรู้แค่วันเวลาไปรับ และวันรดน้ำดำหัวนายกฯตู้เอทีเอ็ม เท่านั้นเอง”
สำหรับประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากจะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ก็ควรจะยกเลิกความคิด และอยากให้ทุกฝ่ายได้ระลึกถึงพระราชดำรัส สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร ในพิธีเปิดประชุมรัฐสภา ที่ให้คำนึงถึงประโยชน์อันพึงประสงค์ และความวัฒนาผาสุกของประเทศชาติ และประชาชน เป็นเป้าหมายสูงสุด

“สมชาย”มั่นใจรัฐนาวาไม่พัง
นาย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณี ที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ออกมาระบุว่ารัฐนาวานี้อาจมีปัญหาเพราะมีการแทงกันเองของรัฐบาลว่า ในส่วนของพรรคพลังประชาชนเองไม่มีปัญหาอะไร ไม่มีใครแทงใคร เรียบร้อยดี แต่พรรคอื่นไม่ทราบ และการพูดของ นายเสนาะ ก็ถือเป็นความเห็นที่ต้องการตักเตือนมา ซึ่งก็ดี รัฐบาลก็รับฟังและนำไปปรับปรุงเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ประชาธิปไตยก็อย่างนี้
นายสมชาย กล่าวว่าการออกมาแสดงความเห็นของนายเสนาะ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลคงไม่ปั่นทอนกำลังใจในการทำงาน เราก็พยายามทำงาน ให้ดีที่สุด ให้เข้าตาประชาชนไว้ ถ้าประชาชนเห็นว่าเราทำงานดี ต่อให้เกิดเหตุวุ่นวาย อย่างไร หรือเกิดเหตุให้รัฐบาลต้องล้มไปในอนาคต ประชาชนก็ยังเลือกเราเข้ามาทำงานต่อ เราอย่าไปตกใจกับคำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้น เพราะบางเรื่องยังเป็นเพียงการคาดคะเนเท่านั้น

ปัด”แม้ว”เดินเกมเปลี่ยนตัวนายกฯ
ส่วนความเคลื่อนไหวของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในขณะนี้ ซึ่งทำให้คนมองว่ามีส่วนทำให้อุณหภูมิการเมืองร้อนขึ้นนั้น นายสมชาย กล่าวว่า ไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง และท่านก็สามารถวิพากษ์วิจารณ์การเมืองได้ แต่ท่านไม่ได้เข้ามาเกี่ยวกับอำนาจทางการเมือง ไม่มีส่วนในการโน้มน้าวอะไรในทางการเมือง เราต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน การที่มีบางฝ่ายออกมาระบุว่า การเคลื่อนไหวของพ.ต.ท. ทักษิณ มีแผนบางอย่าง ซึ่งมันไม่เป็นความจริงเลย ก็ขอให้รอดูแล้วกันว่าจริงหรือไม่ การฟังความต้องฟังทุกฝ่าย โดยเฉพาะรัฐบาลที่เป็นจุดศูนย์กลาง ต้องรอบคอบและทำทุกอย่างให้เรียบร้อยในบ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่าฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังวางเกมให้รัฐบาล ชิงยุบสภาก่อนเพื่อต้องการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีจากนายสมัคร สุนทรเวช เป็นคนอื่น นายสมชาย กล่าวว่า ก็เป็นความคิดของฝ่ายค้านซึ่งเราไปห้ามความคิด เขาไม่ได้ แต่ความจริงยังไม่มีอะไร ถือเป็นความเห็นที่แตกต่าง แต่ยังไม่ได้ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย
ผู้สื่อข่าวถามว่ากลัวหรือไม่ว่า รัฐนาวานี้จะไปไม่รอด รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่เห็นมีอะไรที่จะทำให้รัฐบาลนี้ไปไม่รอด เสียงก็มีตั้ง 300 กว่าเสียง ขอแต่ให้รัฐบาลทำงานให้จริงจัง เคารพกฎเกณฑ์กติกา อย่าทำอะไรผิดกฎหมาย ก็เชื่อว่าไม่น่าจะมีอะไร ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 และมาตรา 309 ที่เกรงว่าจะเป็นชนวนให้เกิดปัญหานั้นเห็นว่าการแก้รัฐธรรมนูญนั้น จะแก้อย่างไรอยู่ที่สภา ช่วงนี้ทุกฝ่ายเสนอเขามาได้ เพราะเขารับฟังอยู่แล้ว สภาจะได้หาข้อสรุปที่ดีที่สุด ก่อนที่จะไปถกกันในสภา อย่าไปวิตกอะไรกันมากมาย
กำลังโหลดความคิดเห็น