ผู้จัดการรายวัน - "กฤษดามหานคร"โวยปัญหาการเมืองฉุดแผนร่วมทุนต่างชาติ โดนเลื่อน ผู้บริหารยืนยันไม่กระทบต่อการเติบโตของบริษัท หลังไตรมาส 1 ยอดขายพุ่งจากมาตรการภาษีอสังหาฯของภาครัฐ ทำให้พลิกกลับมาเป็นกำไร แต่ตลอดทั้งปีจะเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป พร้อมเพิ่มความระมัดระวังในการเปิดโครงการ
นายธเนศร์ สิงคาลวณิช กรรมการและ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กฤษดามหานคร (KMC) เปิดเผยว่า ปัญหาทางการเมืองเป็นเหตุให้พันธมิตรรายใหม่ 2 รายของบริษัท ชะลอในการตัดสินใจเข้ามาร่วมทุนออกไป อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวเชื่อจะไม่มีผลกระทบต่อการเติบโตของบริษัทแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นการเติบโตในอัตราที่ไม่มากเท่านั้น ทั้งนี้หากได้พันธมิตรใหม่เข้ามาร่วมทุนด้วยตามแผนจะสามารถช่วยทำให้มีอัตราเติบโตแบบก้าวกระโดดได้
"ในปีนี้บริษัทจึงระมัดระวังในการเปิดโครงการใหม่มากขึ้น โดยการเปิดโครงการส่วนใหญ่เป็นการขยายเฟสใหม่จากโครงการเดิม ซึ่งปีนี้เรามีแผนที่จะเปิด 7-8 โครงการ มูลค่ารวม 2 พันล้านบาท ขณะที่การได้พันธมิตรหรือไม่นั้น ตอนนี้เราไม่รอคอย โดยเราจะพยายามทำตัวเราให้เติบโตให้ได้อย่างมั่นคง หรือค่อยๆก้าวขึ้นบันได" กรรมการผู้จัดการ KMC กล่าว
ส่วนการประชุมผู้ถือหุ้นวานนี้ (16เม.ย.)นายธเนศร์ กล่าวว่า ไม่สามารถเปิดประชุมได้เนื่องจากผู้เข้าประชุมไม่ครบองค์ประชุม จึงต้องเลื่อนวันประชุมออกไป ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันที่ 25 เม.ย.นี้
ด้านนายวิรัตน์ เอี้ยวอักษร กรรมการ KMC กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้จากปีก่อนขาดทุน 656.26 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 1/51 ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยไตรมาส 1/51 บริษัทมียอดขาย 300 ล้านบาท ซึ่งได้รับผลดีจากมาตรการภาษีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ผู้บริโภคกล้าตัดสินใจและกลับมาซื้อบ้านมากขึ้น และเชื่อว่าในไตรมาส 2 ยอดขายจะเติบโตต่อเนื่อง จากไตรมาส 1/51
อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองด้วย เพราะหากไม่มีการปฏิวัติเกิดขึ้น น่าจะทำให้พันธมิตรเกิดความสนใจในการเข้าร่วมทุน ซึ่งขณะนี้ บริษัทได้ให้ที่ปรึกษาทางการเงิน เป็นผู้เจรจา โดยเงื่อนไขคาดว่าจะเหมือนเดิม คือจะนำเงินจากพันธมิตรใหม่เข้ามาประมาณ 1.5 พันล้านบาท ขณะเดียวกันในส่วนต้นทุนการก่อสร้างนั้นที่ผ่านมาได้ปรับเพิ่มขึ้น 20% หลังจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้น แต่บริษัทมีสต็อกสินค้าไว้ประมาณ 20 ล้านบาท จึงสามารถช่วยลดภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
ปัจจุบัน KMC มี งานในมือ 500-600 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ภายในปีนี้ นอกจากนี้บริษัทได้มีการปรับตัวหลังจากที่ผู้บริโภคหันมาสนใจคอนโดมิเนียมมากขึ้น โดยที่ผ่านมา บริษัทได้มีการเปิดคอนโดมเนียม 2-3 โครงการ ที่ติดแนวรถไฟฟ้า และยังมีที่ดินอีก 7-8 ไร่ รอสร้างโครงการคอนโดมิเนียมใหม่
นายธเนศร์ สิงคาลวณิช กรรมการและ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กฤษดามหานคร (KMC) เปิดเผยว่า ปัญหาทางการเมืองเป็นเหตุให้พันธมิตรรายใหม่ 2 รายของบริษัท ชะลอในการตัดสินใจเข้ามาร่วมทุนออกไป อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวเชื่อจะไม่มีผลกระทบต่อการเติบโตของบริษัทแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นการเติบโตในอัตราที่ไม่มากเท่านั้น ทั้งนี้หากได้พันธมิตรใหม่เข้ามาร่วมทุนด้วยตามแผนจะสามารถช่วยทำให้มีอัตราเติบโตแบบก้าวกระโดดได้
"ในปีนี้บริษัทจึงระมัดระวังในการเปิดโครงการใหม่มากขึ้น โดยการเปิดโครงการส่วนใหญ่เป็นการขยายเฟสใหม่จากโครงการเดิม ซึ่งปีนี้เรามีแผนที่จะเปิด 7-8 โครงการ มูลค่ารวม 2 พันล้านบาท ขณะที่การได้พันธมิตรหรือไม่นั้น ตอนนี้เราไม่รอคอย โดยเราจะพยายามทำตัวเราให้เติบโตให้ได้อย่างมั่นคง หรือค่อยๆก้าวขึ้นบันได" กรรมการผู้จัดการ KMC กล่าว
ส่วนการประชุมผู้ถือหุ้นวานนี้ (16เม.ย.)นายธเนศร์ กล่าวว่า ไม่สามารถเปิดประชุมได้เนื่องจากผู้เข้าประชุมไม่ครบองค์ประชุม จึงต้องเลื่อนวันประชุมออกไป ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันที่ 25 เม.ย.นี้
ด้านนายวิรัตน์ เอี้ยวอักษร กรรมการ KMC กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้จากปีก่อนขาดทุน 656.26 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 1/51 ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยไตรมาส 1/51 บริษัทมียอดขาย 300 ล้านบาท ซึ่งได้รับผลดีจากมาตรการภาษีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ผู้บริโภคกล้าตัดสินใจและกลับมาซื้อบ้านมากขึ้น และเชื่อว่าในไตรมาส 2 ยอดขายจะเติบโตต่อเนื่อง จากไตรมาส 1/51
อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองด้วย เพราะหากไม่มีการปฏิวัติเกิดขึ้น น่าจะทำให้พันธมิตรเกิดความสนใจในการเข้าร่วมทุน ซึ่งขณะนี้ บริษัทได้ให้ที่ปรึกษาทางการเงิน เป็นผู้เจรจา โดยเงื่อนไขคาดว่าจะเหมือนเดิม คือจะนำเงินจากพันธมิตรใหม่เข้ามาประมาณ 1.5 พันล้านบาท ขณะเดียวกันในส่วนต้นทุนการก่อสร้างนั้นที่ผ่านมาได้ปรับเพิ่มขึ้น 20% หลังจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้น แต่บริษัทมีสต็อกสินค้าไว้ประมาณ 20 ล้านบาท จึงสามารถช่วยลดภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
ปัจจุบัน KMC มี งานในมือ 500-600 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ภายในปีนี้ นอกจากนี้บริษัทได้มีการปรับตัวหลังจากที่ผู้บริโภคหันมาสนใจคอนโดมิเนียมมากขึ้น โดยที่ผ่านมา บริษัทได้มีการเปิดคอนโดมเนียม 2-3 โครงการ ที่ติดแนวรถไฟฟ้า และยังมีที่ดินอีก 7-8 ไร่ รอสร้างโครงการคอนโดมิเนียมใหม่