ไชน่านิวส์ – ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลสารสนเทศจีนชี้ว่า ด้วยอัตราการเติบโตของการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ในปัจจุบัน จะดันให้จีนแซงหน้าญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ขึ้นเป็นประเทศผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2010 ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อปี 2005 ถึง 10 ปี
ขณะนี้โรงงานผู้ผลิตรถยนต์ในจีนต่างทยอยกันประกาศแผนงานและเป้าหมายการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ออกมา โดยบริษัทรถยนต์ต่างๆจากทั่วโลกส่วนใหญ่ต่างตั้งเป้าว่าจะเพิ่มยอดขายในจีนมากกว่า 20%
จากสถิติพบว่า ในปี 2007 ตลาดรถยนต์แดนมังกรได้กลายเป็นเป้าหมายหลักในการเพิ่มยอดขายของบริษัทรถยนต์ข้ามชาติหลายแห่ง โดยในปี 2008 บริษัทร่วมทุนในตลาดจีนต่างปรับเพิ่มยอดการจำหน่ายของตนขึ้นเป็นจำนวนมาก โดย 11 บริษัทร่วมทุนใหญ่เฉลี่ยปรับเป้าหมายยอดขายของตนเพิ่มขึ้นถึง 29.66% ในขณะที่บริษัทรถยนต์ของจีนเองได้ปรับเป้าหมายการจำหน่ายเพิ่มมากกว่า โดย 7 บริษัทหลักในประเทศจีนได้ปรับเป้ายอดจำหน่ายขึ้นเฉลี่ยมากกว่า 37.5% ทำให้จีนกำลังไล่ตามการเป็นประเทศที่ผลิตและจำหน่ายรถยนต์มากที่สุดในโลกขึ้นทุกที
นายสีว์ฉางหมิง ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลสารสนเทศแห่งชาติจีน ได้วิเคราะห์ว่า ปัจจุบันสหรัฐฯมียอดการผลิตและจำหน่ายรถยนต์มากกว่าจีนราว 1.7 เท่าตัว ดังนั้นหากจีนยังมีอัตราการเติบโตเช่นนี้ต่อไป คาดว่าจีนน่าจะแซงหน้าสหรัฐฯได้ในเวลา 2 ปี จนขึ้นมาเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเมื่อมองจากปริมาณการผลิต บรรดาประเทศผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่ๆของโลกนั้น มีเพียงสหรัฐฯและญี่ปุ่นที่มียอดการผลิตเกิน 10 ล้านคัน ส่วนยอดการผลิตรถยนต์ของจีนได้แซงหน้าเยอรมนีขึ้นมาอยู่ในอันดับ 3 ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน และแม้ว่าในปัจจุบันอันดับจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ก็กำลังเบียดที่ 2 ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และน่าจะไล่กวดอันดับหนึ่งได้ใน 2 ปี การคาดการณ์ดังกล่าวนั้น ทำให้จีนขยับตำแหน่งเร็วกว่าที่เคยมีการประเมินไว้เมื่อปี 2005 ว่าจีนจะเป็นอันดับหนึ่งในปี 2020 ถึง 10 ปี
นายสีว์กั๋วเจิน รองประธานบริษัทฟอร์ด ประจำประเทศจีนได้เปิดเผยว่า “เนื่องจากยอดขายในตลาดอเมริกาเหนือลดลงอย่างฮวบฮาบ ทำให้ยอดขายของฟอร์ดทั่วโลกมีอัตราเติบโตติดลบในปีที่ผ่านมา ทว่าสำหรับตลาดจีน ยอดจำหน่ายของฟอร์ดกลับเพิ่มขึ้น 30% ในขณะที่โตโยต้า ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลกนั้น สามารถขายรถยนต์ได้มากกว่าเจเนอรอล มอเตอร์เพียง 3,500 คัน ซึ่งการที่โตโยต้ายังสามารถรักษาตำแหน่งแชมป์ไว้ได้อย่างฉิวเฉียดนั้น มีนักวิเคราะห์มองว่าเป็นเพราะยอดขายของโตโยต้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในจีนช่วยไว้
ด้านนายฟ่านอันเต๋อ ผู้รับผิดชอบในภูมิภาคจีนของบริษัทโฟล์ค สวาเกนได้เคยระบุว่า “ในปี 2008 โฟล์ค สวาเกนจะยังเกินหน้าขยายการลงทุนและถ่ายทอดเทคโนโลยีในจีนต่อไป และคาดว่าในปีนี้ โฟล์ค จะสามารถมียอดขายในจีนทะลุ 1,000,000 คัน”
ทั้งนี้ เฉิงเหมยเหว่ย ประธานบริษัทฟอร์ด ประจำประเทศจีนได้เคยทำนายไว้ว่า ในอีก 15 ปีข้างหน้า อัตราการเพิ่มขึ้นของรถยนต์ทั่วโลกจะมาจากจีน 50% ในขณะที่โตโยต้าได้ประกาศว่า ใน 3-5 ปีข้างหน้า เตรียมที่จะทุ่มเงินลงทุนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกจำนวน 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีจุดสำคัญอยู่ที่ประเทศจีน เนื่องจากจีนมีอัตราการเติบโตรวดเร็วที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็นตลาดใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
