โมเดิร์นฟอร์มฯ เผยแผนธุรกิจปี51 เน้นพัฒนาสินค้าพร้อมเพิ่มช่องทางขายใหม่ๆ แจงยอดขายปี50 ตกเป้า300ล้านบาท เหตุการเมือง-เศรษฐกิจในประเทศผันผวน เชื่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐฯ ช่วยผลักดันภาคอสังหาฯ ส่งผลตลาดเฟอร์นิเจอร์ปี51ขยายตัวตาม พร้อมตั้งเป้าปี51ยอดขายเติบโต15% หรือมียอดขายรวม 3,000 ล้านบาท
นายทักษะบุษยโภคะ ประธานกรรมการบริหารบริษัท โมเดิร์นฟอร์ม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าว ในปี50 บริษัทมียอดขายรวมตำกว่าเป้าที่วางไว้ 300 ล้านบาท เนื่องจากตลาดรวมเฟอร์นิเจอร์ได้รับผลกระทบทางด้านการเมือง และเศรษฐกิจในประเทศที่ทรงตัวทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นตลาดต้นน้ำชะลอการพัฒนาโครงการใหม่ ทำให้ตลาดเฟอร์นิเจอร์ซื้อเป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องได้รับผลกระทบด้วย โดยในปีที่ผ่านมาบริษัท มียอดรายได้รวม 2,700 ล้านบาท แบ่งเป็น เฟอร์นิเจอร์กลุ่มออฟฟิต 40 % เฟอร์นิเจอร์บ้าน 20 % เฟอร์นิเจอร์ครัว 15% อุปกรณ์ตกแต่ง อีก 20 % และสินค้าส่งออกอีก 5 %
อย่างไรก็ตามในปี 51 นี้บริษัทยังคงตั้งเป้าโตของยอดขายไว้ที่ 15% หรือประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากการขายผ่านโครงการ 70 % ส่วนอีก 30 % จะมาจากการขายปลีกและส่งออกต่างประเทศ ทั้งนี้ การที่บริษัทตั้งเป้าอัตราเติบโตที่ 15% เนื่องจากเชื่อว่าในปีนี้ ตลาดรวมเฟอร์นิเจอร์จะมีอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ในส่วนของผู้ประกอบการอสังหาฯ ที่เพิ่มขึ้น
“อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ จะส่งผลให้ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ภายในประเทศตื่นตัว และเติบโตตามสภาพเศรษฐกิจ หลังจากที่มีรัฐบาลใหม่ ซึ่งมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการบริโภคของประชาชน ซึ่งส่งผลดีต่อตลาดอสังหาฯ ทำให้มีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อตลาดเฟอร์นิเจอร์ให้มีการเติบโตตามภาคธุรกิจอสังหาฯด้วย”
สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ บริษัทจะยังคงเน้นการปรับกลยุทธ์ด้านการตลาด แม้ว่าที่ผ่านมาเฟอร์นิเจอร์บางรายการ จะมียอดขายไม่ดีนัก แต่บริษัทก็มีการเร่งพัฒนาตัวสินค้าให้มีความแตกต่าง ตลอดจน เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นข้อได้เปรียบต่อคู่แข่ง นอกจากนี้จะเน้นพัฒนาตัวเฟอร์นิเจอร์สำหรับตลาดบ้าน ให้มากกว่าเดิม เพราะเป็นสินค้าที่ถือว่าเป็นตัวทำยอดขายให้กับบริษัท
นายทักษะบุษยโภคะ ประธานกรรมการบริหารบริษัท โมเดิร์นฟอร์ม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าว ในปี50 บริษัทมียอดขายรวมตำกว่าเป้าที่วางไว้ 300 ล้านบาท เนื่องจากตลาดรวมเฟอร์นิเจอร์ได้รับผลกระทบทางด้านการเมือง และเศรษฐกิจในประเทศที่ทรงตัวทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นตลาดต้นน้ำชะลอการพัฒนาโครงการใหม่ ทำให้ตลาดเฟอร์นิเจอร์ซื้อเป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องได้รับผลกระทบด้วย โดยในปีที่ผ่านมาบริษัท มียอดรายได้รวม 2,700 ล้านบาท แบ่งเป็น เฟอร์นิเจอร์กลุ่มออฟฟิต 40 % เฟอร์นิเจอร์บ้าน 20 % เฟอร์นิเจอร์ครัว 15% อุปกรณ์ตกแต่ง อีก 20 % และสินค้าส่งออกอีก 5 %
อย่างไรก็ตามในปี 51 นี้บริษัทยังคงตั้งเป้าโตของยอดขายไว้ที่ 15% หรือประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากการขายผ่านโครงการ 70 % ส่วนอีก 30 % จะมาจากการขายปลีกและส่งออกต่างประเทศ ทั้งนี้ การที่บริษัทตั้งเป้าอัตราเติบโตที่ 15% เนื่องจากเชื่อว่าในปีนี้ ตลาดรวมเฟอร์นิเจอร์จะมีอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ในส่วนของผู้ประกอบการอสังหาฯ ที่เพิ่มขึ้น
“อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ จะส่งผลให้ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ภายในประเทศตื่นตัว และเติบโตตามสภาพเศรษฐกิจ หลังจากที่มีรัฐบาลใหม่ ซึ่งมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการบริโภคของประชาชน ซึ่งส่งผลดีต่อตลาดอสังหาฯ ทำให้มีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อตลาดเฟอร์นิเจอร์ให้มีการเติบโตตามภาคธุรกิจอสังหาฯด้วย”
สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ บริษัทจะยังคงเน้นการปรับกลยุทธ์ด้านการตลาด แม้ว่าที่ผ่านมาเฟอร์นิเจอร์บางรายการ จะมียอดขายไม่ดีนัก แต่บริษัทก็มีการเร่งพัฒนาตัวสินค้าให้มีความแตกต่าง ตลอดจน เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นข้อได้เปรียบต่อคู่แข่ง นอกจากนี้จะเน้นพัฒนาตัวเฟอร์นิเจอร์สำหรับตลาดบ้าน ให้มากกว่าเดิม เพราะเป็นสินค้าที่ถือว่าเป็นตัวทำยอดขายให้กับบริษัท