xs
xsm
sm
md
lg

แบงก์แข่งดุบุกสินเชื่อภูมิภาค เจาะกลุ่มธุรกิจคาดยอดโต5%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - แบงก์กรุงเทพชี้การแข่งขันปล่อยสินเชื่อในต่างจังหวัดยังเข้มข้น มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าวงเงินสินเชื่อ 50 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนแนวโน้มการขอสินเชื่อกับธนาคารในสาขาต่างจังหวัดคาดขยายตัว 20% ยันไม่ได้คุมเข้มการปล่อยสินเชื่อ แต่ขึ้นอยู่กับศักยภาพของลูกค้าเอง

นายปิยะ ซอโสตถิกุล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้อำนวยการลูกค้าธุรกิจรายกลางต่างจังหวัด ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า การแข่งขันของการปล่อยสินเชื่อในต่างจังหวัดในปีนี้จะยังคงมีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี 2550 เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อในต่างจังหวัดเป็นกลุ่มที่ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งให้ความสำคัญ

ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าที่ยังเป็นเป้าหมายจะยังเป็นลูกค้าที่ขอใช้วงเงินสินเชื่อตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไปทุกกลุ่มธุรกิจ เช่น กลุ่มธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มธุรกิจโรงแรมที่ตั้งอยู่ในแถบภาคใต้ และกลุ่มธุรกิจสินค้าเกษตร ประเภทโรงรับซื้อยางพารา โรงสีข้าว ที่คาดว่าปีนี้จะโตไม่ต่ำกว่า 15% เนื่องจากผู้ประกอบการธุรกิจหลายราย ได้ย้ายฐานการผลิตจากกรุงเทพไปตั้งอยู่ในต่างจังหวัดและเพิ่มกำลังการผลิตสูงขึ้นเพื่อให้สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่นได้

สำหรับแนวโน้มการขอสินเชื่อกับสาขาของธนาคารที่ตั้งอยู่ตามต่างจังหวัดนั้นคาดว่าจะเติบโตจากปีที่แล้วประมาณ 20% เนื่องจากในปีที่แล้วสภาพเศรษฐกิจมีการชะลอตัวลงตามเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคภายในประเทศลดตามไปด้วย แต่ในปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นจากการที่การเมืองมีความชัดเจนมากขึ้นทั้งนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ หรือ เมกะโปรเจกต์เกี่ยวกับการสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ ประกอบกับภาครัฐได้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าในระบบเศรษฐกิจ เป็นต้น ขณะเดียวกันตัวธนาคารเองก็ได้เน้นการเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในภาคการเกษตรซึ่งพบว่ามีการมาขอสินเชื่อกับธนาคารมากเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม ธนาคารก็ไม่ได้มีการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเป็นพิเศษหรือแตกต่างไปจากเดิมที่เคยทำอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนโยบายการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้านั้นธนาคารก็ได้มีความระมัดระวังมาโดยตลอด ซึ่งจะพิจารณาในตัวลูกค้าที่มาขอสินเชื่อว่ามีประสบการณ์ในการทำงานมากน้อยแค่ไหน ดูว่าเมื่อขอสินเชื่อไปแล้วหลังจากนั้นจะมีความสามารถในการชำระคืนหรือไม่ โดยในปัจจุบันสัดส่วนการอนุมัติสินเชื่อดังกล่าวจะอยู่ที่ 70% ใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนโดยเฉลี่ย เพื่อพิจารณาถึงคุณสมบัติและเอกสารที่นำมาขอสินเชื่อ

ส่วนทางด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในปัจจุบันอยู่ที่ระดับทรงๆ ตัวจากปีก่อน สำหรับแนวโน้มต่อจากนี้ไปจนถึงสิ้นปีคาดว่าน่าจะลดลง เนื่องจากธนาคารมองว่าในปีนี้ธุรกิจต่างๆยังสามารถดำเนินต่อไปได้บวกกับสภาพเศรษฐกิจมีการปรับตัวดีขึ้นส่งผลให้โครงการขายทรัพย์ต่างๆมีมูลค่ามากขึ้น

นอกจากนี้ ในช่วงเดือนธ.ค. 50 ถึงเดือนม.ค.ที่ผ่านมา โรงสีข้าวได้ใช้เงินกู้จากธนาคารเพิ่มขึ้น 20 % ของสินเชื่อปกติ เนื่องจากเป็นช่วงที่ราคาข้าวปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้โรงสีข้าวต้องขอวงเงินพิเศษ มาชำระค่าข้าวที่รับซื้อจากชาวนา โดยในปีนี้โรงสีข้าวบางแห่งได้ชำระคืนหนี้ช้ากว่าปกติ เนื่องจากมีการเก็บสต็อกข้าว อย่างไรก็ตามหากราคาข้าวยังอยู่ในระดับสูงต่อไป จะส่งผลให้สินเชื่อกลุ่มโรงสีในปีนี้จะปรับตัวเพิ่มขึ้น

ส่วนสินเชื่อที่ปล่อยกู้ให้กลับเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรนั้น แนวโน้มในปีนี้จะอยู่ในลักษณะทรงตัว เนื่องจากในปี 50 ที่ผ่านมา ราคาสุกรตกต่ำ ส่งผลให้ธนาคารต้องอนุมัติเงินกู้วงเงินชั่วคราวให้กับเกษตรกร เพื่อนำไปประครองกิจการ แต่ในปีนี้เมื่อราคาหมูปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ราคาอาหารปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนผู้เลี้ยงจากเดิมอยู่ที่กิโลกรัมละ 39 บาท ปรับขึ้นมาเป็น 51-52 บาทต่อกิโลกรัม แต่เมื่อราคาขายหน้าฟาร์มอยู่ที่ 60-70 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้เกษตรกรมีเงินมาชำระคืนหนี้แก่ธนาคาร

ด้านนายอภิชาต เกษมกุลศิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารสินเอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ ACL กล่าวว่า สำหรับการปล่อยสินเชื่อในต่างจังหวัดของธนาคารถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งธนาคารเองก็ยังมุ่งเน้นดูแลฐานลูกค้าเดิมต่อไป ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต ในขณะเดียวกันธนาคารก็จะหันมาให้ความสำคัญกับสาขาที่อยู่ในกรุงเทพมากขึ้น โดยคาดว่าภายในปีนี้จะเปิดสาขาเพิ่มอีก 5 สาขา
กำลังโหลดความคิดเห็น