xs
xsm
sm
md
lg

จิ๋วจี้รัฐแก้ปากท้องปชช.อย่ามัวไปยุ่งรัฐธรรมนูญ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า จะไปห่วงอะไร เราก็แก้รัฐธรรมนูญกันมาแล้ว 18 ฉบับ ถ้าแก้อีกสัก 1 ฉบับจะเป็นอะไรไป เมื่อถามว่าคิดว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะทำให้เกิดความวุ่นวาย ทางการเมืองหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า สถานการณ์ก็เหมือนเดิมๆ ที่ผ่านมา 70 กว่าปี สมัยปี 2540 ก็มีธงเขียว ธงเหลือง พอมาปี 2550 ก็มีเสื้อเหลือง เสื้อแดง มาถึงวันนี้ก็อาจจะมีผ้าห่มเขียว ผ้าห่มเหลืองอีก แต่ก็คงไม่มีอะไร
ส่วนที่มีหลายฝ่ายเป็นห่วงว่าในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้อาจจะเกิดวิกฤติทางการเมืองนั้นพล.อ.ชวลิต กล่าวว่า อย่าไปห่วงเลย ที่ผ่านมาก็มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มันฉีกรัฐธรรมนูญ แล้วมันก็ร่างรัฐธรรมนูญ มันผ่านมากี่หนแล้ว เรามีรัฐธรรมนูญมาแล้วถึง 18 ฉบับ จนวันนี้เขาก็ศึกษากันไปทั่วโลกว่าประเทศไทยทำไมมีรัฐธรรมนูญมากนัก เพราะฉะนั้นถ้าจะมีอีกฉบับก็คงไม่มีอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะที่เป็นอดีตผู้นำทหาร ผ่านการเกิดรัฐประหารมา หลายครั้ง คิดว่าสิ่งที่ผ่านมาให้บทเรียนอะไรกับนักการเมืองบ้าง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ตนขอไม่ออกความเห็น เดี๋ยวจะถูกด่าได้ อยู่เฉย ๆ ดีกว่า
ส่วนจะให้บทเรียนและแง่คิดกับนักการเมืองอย่างไรบ้างเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ก็บอกแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับมันมากนัก มันยุ่งกันมานานแล้วเรื่องรัฐธรรมนูญ ทำเรื่องที่ประชาชนต้องการดีกว่า วันนี้เขาอยากให้ แก้ไขปัญหาความยากจน ไม่มีกิน ข้าวยากหมากแพง วันนี้ไปยุ่งกับรัฐธรรมนูญมากไป มันมีอยู่ดีๆ แล้วก็ไม่พอใจ เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกอยู่นั่น เดี๋ยวก็ต้องเปลี่ยนกันอีก ลองมาทายกันดีกว่าว่าต้องมีอีกกี่ฉบับ
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองอย่างไรที่มีการทำนายว่าการเมืองเดือนพฤษภาคมจะร้อนแรง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านๆ มา สถานการณ์ก็ร้อนแรง อยู่เพียงชั่วครู่ แล้วก็เย็นลง ไม่มีอะไรหรอกประเทศไทย เพราะไม่อย่างนั้นก็คงแตกแยกกันไปแล้ว เพราะเราแก้ไขรัฐธรรมนูญมาหลายฉบับแล้ว

“แม้ว”แสร้งให้ลดทิฐิเพื่อบ้านเมือง
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวอวยพรเนื่องใน เทศกาลสงกรานต์ก่อนออกเดินทางไปจ.เชียงใหม่ว่า ฝากส่งความสุขให้คนไทยทุกคน จะสุขจะทุกข์ก็อยู่ที่เรา แต่คนไทยเป็นคนโชคดีที่อยู่ใต้ร่มพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ขอให้คนไทยรักกันมากๆ หันหน้าเข้าหากัน ลดทิฐิเพื่อบ้านเมืองจะได้เจริญ และคนที่ทุกข์ยากอยู่วันนี้จะได้สบาย เพราะถ้าเศรษฐกิจดี ความน่าเชื่อถือของประเทศดีก็จะมีความสุขกันทุกคน เพราะถ้ามานั่งทะเลาะกัน ก็จะทุกข์ทั้งคู่
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนไปรดน้ำขอพร เนื่องในเทศกาลสงกรานต์กันมากเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ว่า เป็นธรรมชาติของวัฒนธรรมไทย คนเคยทำงานด้วยกัน เคยรักนับถือกัน เมื่อเป็นประเพณีวันสงกรานต์ ก็ไปมาหาสู่กัน และสงกรานต์ปีที่แล้วตนอยู่ประเทศไหนก็ไม่รู้ ส่วนปีนี้ก็จะไปทำบุญและไหว้กระดูกพ่อแม่และถ้ามีเวลาก็จะไปกับลูก ๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่ ส.ส.จะเดินทางไปร่วมรดน้ำที่ จ.เชียงใหม่ถือเป็น การแสดงพลังอะไรหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวติดตลกว่า วันนี้ตนไม่มีพลังอะไรเลย อ่อนแอจะตาย ไม่ได้ออกกำลังเลยในช่วงนี้ ตีกอล์ฟก็ไม่ถึง 220 หลาแล้ว เริ่มตกตามอายุ

เหน็บใครเกลียดระวังเป็นโรคหัวใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนขณะนี้ยังตกเป็นเป้าถูกโจมตีทางการเมือง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่เป็นไร “คนจะเกลียดผม ผมก็เป็นห่วงเขา กลัวเดี๋ยวจะเป็นโรคหัวใจ เป็นอะไรต่ออะไร เพราะอายุก็มากแล้ว เพราะผมเองก็ปล่อยวางหมดแล้ว อย่างที่ผมเคยบอกโกรธกัน ไม่ชอบหน้ากัน แต่พอเจอหน้ากัน ถามว่ายิงไหมก็ไม่ยิง เพราะกลัวติดคุกทั้งคู่ แต่ที่แน่ๆ คือเป็นโรคหัวใจ ดีไม่ดีเส้นเลือดในสมองแตกอีก เพราะฉะนั้นก็ต้องปล่อยวาง คิดแต่เรื่องดีๆ ให้ตัวเอง และให้บ้านเมือง”
ส่วนที่มองว่าในช่วงเดือน พ.ค.อาจจะเกิดวิกฤติทางการเมืองขึ้นมาอีกนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่มีหรอก อย่าไปแช่งกัน มองในแง่ดีไว้ พระท่านบอกไว้ว่า “ตถตา” ซึ่งแปลว่ามันเป็นเช่นนั้นเอง การเมืองไทยก็เป็นเช่นนั้นเอง ไม่มีอะไร แต่สิ่ง สำคัญคือนักการเมือง สื่อมวลชน ควรมองโลกในแง่ดีมาก ๆ ต้องเห็นใจคนที่เขาทุกข์ วันนี้มีคนส่วนหนึ่งที่ทุกข์ ซึ่งเกิดจากภาวะเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม เพราะฉะนั้นถ้าเราคิดดี หันหน้าเข้าหากัน ให้อภัยกัน คนที่มีทุกข์ก็จะเริ่มมีความหวัง เราต้องเห็นใจคนที่ทุกข์
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความพยายามสร้างเงื่อนไขเพื่อให้เกิดความขัดแย้ง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า อย่าไปพูดเช่นนั้น ทำงานกันไป ใครมีหน้าที่อะไรก็ทำให้ดีที่สุด และตนก็ไม่ห่วงว่าในช่วง 1-2 เดือนนี้จะเกิดปัญหาอะไรกับการเมือง แต่ตนก็ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองแล้ว หลังจากที่ตกงานก็รู้สึกสบายใจ จิตมันว่าง ทุกวันนี้ก็ขอเงินภรรยาใช้ไปเรื่อย ๆ

“บุญสร้าง”ชี้นายกฯแค่ดักคอเรื่องปฏิวัติ
พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.ทหารสูงสุดให้สัมภาษณ์ถึงการเข้ารดน้ำ สงกรานต์ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ( 10 เม.ย.) ว่า ท่านก็ไม่ได้ฝากอะไรเป็นพิเศษเพียงบอกให้ทุกคนมีน้ำใจกันมีความรักความสามัคคีกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกรัฐมนตรียังให้สัมภาษณ์ว่ายังระแวงทหารอยู่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า เมื่อวานท่านไม่ได้พูดเรื่องนี้ คงเป็นการพูดดักคอมากกว่า ซึ่งโดยหน้าที่ของทหารจะต้องสนับสนุนรัฐบาลอยู่แล้ว โดยหลักการก็จะต้องมีความแนบชิดกัน

ผบ.ทอ.ให้เริ่มปีใหม่ด้วยการอภัยกัน
พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ(ผบ.ทอ.) กล่าวอวยพรให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เนื่องวันปีใหม่ในนาม ผบ.ทอ. และข้าราชชั้นผู้ใหญ่ในกองทัพอากาศที่ปฏิบัติหน้าที่ในส่วนกลาง ขอนำส่ง ความสุขและปรารถนาดี ให้กำลังใจไปถึง ทั้งทหาร ลูกจ้างหรือข้าราชการพลเรือน กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยความยากลำบากผู้บังคับบัญชาและผู้อยู่ข้างหลัง ขอเป็นกำลังใจให้ทหารที่ให้ปฏิบัติหน้าที่มีความปลอดภัย ทั้งนี้เพื่อการปฏิบัติงานในท้องถิ่นให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และอวยพรให้คนทุกคนมีความสุข เราน่าจะเริ่มต้นสู่ยุคใหม่ด้วยการสมานฉันท์ ให้อภัยซึ่งกันและกันร่วมกันพัฒนาบ้านเมืองต่อไป

อ้างแก้รธน.เป็นของขวัญปชช.
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าช่วงเทศกาล สงกรานต์ประชาชนจะพบแต่สิ่งดีๆ เพราะนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลประกาศไว้จะเริ่มทยอยนำออกมาใช้แล้วทั้งโครงการ เอสเอ็มแอล เงินกู้เพื่อการศึกษา และจะมีแนวทางที่ดีในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ระบอบประชาธิปไตยเดินหน้าไปได้
“ขอประชาชนอย่าไปวิตกกับการเคลื่อนไหวหรือคัดค้านกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐบาลเคารพการเคลื่อนไหวใดๆหากอยู่ภายใต้กฎหมาย ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ของรัฐบาลจะถือเป็นของขวัญให้ประชาชนหลังจากเทศการณ์ สงกรานต์ ขอประชาชนอย่ากังวลในเรื่องการปฏิวัติเงียบหรือการนองเลือด ซึ่งข้อกล่าวหาเหล่านี้ถือเป็นข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอย ไม่มีรากฐานของข้อเท็จจริง ผมขอยืนยันว่ารัฐบาลนี้จะต่อต้านการทำรัฐประหารทุกกรณีไม่ว่าจะเป็นรัฐประหารเงียบหรือรัฐประหารแบบโวยวาย และขอบอกว่ากลุ่มบุคคล ที่พยายามอ้างว่า จะต่อต้านการรัฐประหารเงียบ ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วก็เป็นกลุ่มบุคคลเดียวกันที่ไม่เคยออกมาแสดงความคัดค้านหรือต่อต้านใดๆ ในช่วงเวลาที่บ้านเมืองมีการรัฐประหารอย่างเปิดเผย”
กำลังโหลดความคิดเห็น