“ชลิต” ย้ำชัดรัฐธรรมนูญคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เคาะสติคนจ้องแก้ไขต้องทำให้ดี ชี้ไม่ควรยกกระบิแก้ให้เป็น รธน.40 เพราะเกิดข้อขัดข้องมากมายในอดีต
วานนี้ (9 เม.ย.) พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ถ้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่บนพื้นฐานเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมก็คงไม่มีปัญหา รัฐธรรมนูญถือเป็นกฎหมายสูงสุด และเป็นกฎหมายกลางเพื่อยังประโยชน์ให้คนไทยทุกคน มิใช่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ฉะนั้น ถ้าแก้ไขเพื่อให้เป็นประโยชน์ก็ไม่มีใครคัดค้าน ไม่ว่าจะแก้ไขกี่ประเด็น หรือกี่มาตรา ซึ่งหากเป็นประโยชน์ต่อประเทศ และผู้คนทั้งปวง ก็เป็นเรื่องดี เพราะว่าสิ่งแวดล้อมแต่ละเรื่องมันเปลี่ยนแปลงไปได้ตามระยะเวลา
เมื่อถามว่า มองการที่พรรคพลังประชาชนอ้างเสียงของประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นการตีขลุมมากเกินไปหรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญปี 50 ก็ผ่านการลงประชามติมาเหมือนกัน พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่การลงประชามติครั้งที่แล้ว ก็คือเสียงของประชาชนซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่ หากจะมีการแก้ไขเพื่อกลุ่มคน ซึ่งไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ส่วนรวม ก็จะกลายเป็นข้อถกเถียง และข้อขัดแย้ง
“ทุกอย่างผมคิดว่าต้องทำให้รอบคอบ เพราะรัฐธรรมนูญเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่ริเริ่มมาจากกลุ่มบุคคล ซึ่งไม่น่าจะใช่กลุ่มทหาร เพราะกลุ่มคนที่พิจารณานั้นเป็นนักกฎหมาย เป็นนักการเมือง และบุคคลอีกหลากหลายสาขา และคนเหล่านั้นไม่มีสิทธิ์ลงมาเล่นการเมือง หรือทำงานการเมือง 2 ปี ดังนั้นกลุ่มคนที่ร่าง และเสนอให้ที่ประชุมสภานิติบัญญัติเห็นชอบ ผมคิดว่าเป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์ และที่ศักดิ์สิทธิ์มากกว่านั้นก็ คือ ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องทำกันให้ดี ทำของศักดิ์สิทธิ์ให้ดี” พล.อ.อ.ชลิต กล่าว
ส่วนกลุ่มคนที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญระบุว่าเป็นประชาธิปไตย แต่มีคนไม่เห็นด้วยกลับมองว่าไม่เป็นประชาธิปไตย แล้วกลุ่มคนเหล่านั้นเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่ทราบ พวกท่านก็วิเคราะห์กันไปว่าควรจะเป็นอย่างไร ขณะนี้เป็นช่วงที่เกิดความสับสน ทุกคนไม่ว่าจะเป็นตนเอง หรือน้องๆ สื่อมวลชน เราก็มีส่วนช่วยทำให้ความร้อนทางด้านการเมืองเพิ่มมากขึ้นจากอุณหภูมิที่มีอยู่ จึงต้องพยายามช่วยกันทำให้ไม่ให้ร้อนมากขึ้น
เมื่อถามว่า หากจะแก้ไข ควรเลื่อนเวลาออกไปเพื่อไม่ให้เอื้อต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า หากทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจ และหวังประโยชน์ต่อคนส่วนรวมก็คงไม่มีอะไร ส่วนที่จะมีการนำรัฐธรรมนูญปี 40 มาเป็นหลักในการปรับแก้ไขนั้น คิดว่าทุกคนทราบดีว่า รัฐธรรมนูญฉบับปี 50 ได้นำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาเป็นพื้นฐาน แต่คงไม่ปรับใช้เป็นปี 2540 เสียทีเดียว เพราะก่อให้เกิดข้อขัดข้องในบ้านเมืองมาเยอะแล้ว อย่างที่เราเห็นมา
เมื่อถามถึงคำทำนายของ อ.วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ถือเป็นการชี้นำประชาชนหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า เท่าที่ทราบ ท่านไม่เคยให้สัมภาษณ์ใคร ต้องไปถามว่าท่านให้สัมภาษณ์ใคร ตนไม่ทราบว่าใครปล่อยข่าวว่าท่านให้สัมภาษณ์อย่างนั้นอย่างนี้ และมีคนแนะนำท่านว่าควรจะฟ้องร้อง เพราะทำให้ท่านเสียหาย เพราะถูกมองว่าไปยุยงให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร ดังนั้น ต้องถามท่านว่าได้ให้ข้อมูลกับใคร ตนถามท่านว่าเป็นอย่างไร ท่านบอกว่าไม่เคยให้สัมภาษณ์
รายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.อ.ชลิต ให้สัมภาษณ์ภายหลังงานวันกองทัพอากาศ โดยในวันดังกล่าว นอกจากพิธีวางพานพุ่มถวายสักการะ และวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์อดีตผู้บังคับบัญชากองทัพอากาศ พิธีบรรจุอัฐิ และจารึกผู้เสียชีวิต และพิธีบำเพ็ญกุศลแล้ว ทางกองทัพอากาศยังได้จัดพิธีรดน้ำดำหัวให้อดีตผู้บัญชาการทหาร ประกอบด้วย พล.อ.อ.พะเนียง กานตรัตน์ พล.อ.อ. มรว.ศิริพงษ์ ทองใหญ่ พล.อ.อ.กันต์ พิมานทิพย์ พล.อ.อ.อมร แนวมาลี พล.อ.อ.ปอง มณีศิลป์ และ พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา เป็นต้น
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 10 เม.ย.นี้ เวลา 8.45 น. พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี จะเปิดบ้านสี่เสาเทเวศร์ให้เหล่าบรรดาข้าราชการ ทหาร และตำรวจ เข้าอวยพร และรดน้ำดำหัวเนื่องในวันสงกรานต์ โดยมี พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ นำนายทหารชั้นผู้ใหญ่เข้าอวยพรด้วย ทั้งนี้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะ รมว.กลาโหม จะไม่เดินทางไปร่วมงานด้วยแต่อย่างใด