xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรล็อกรบ.หุ่น ขอประชามติแก้รธน.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - แกนนำพันธมิตรฯ เตือนรัฐบาล "หุ่นเชิด" เป็นครั้งสุดท้าย หยุดเล่นเกมรวบรัดแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกคนผิดให้ขาวสะอาด โดยละเลยความเดือดร้อนของชาว บ้าน ที่ประสบปัญหาข้าวยากหมากแพง ในขณะนี้ ชี้การกระทำของรัฐบาล เป็นการรัฐประหารเงียบ ยืนกรานหาก มีการแก้ไขต้องลงประชามติถามประชาชนก่อน ขณะเดียวกัน เตรียมสรุป ท่าทีอีกครั้งวันที่ 19 เม.ย.นี้ ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ

วานนี้ (9 เม.ย.) ที่บ้านพระอาทิตย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทั้ง 5 คน อันประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายพิภพ ธงไชย, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้หารือเพื่อประเมินสถานการณ์หลังจากพรรคพลังประชาชนเคลื่อนไหวขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ

หลังจากที่ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ได้อ่านแถลงการณ์เสร็จสิ้นแล้ว นายพิภพได้แถลงเพิ่มเติมการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้พิสูจน์ได้ชัดว่าประชาชน ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เป็นเพียงการแก้เกมทางการเมืองของฝ่ายรัฐบาล หลังจากถูกหลายฝ่ายออกมาคัดค้านในเรื่องการแก้ไขมาตรา 237 และมาตรา 309 ก่อนหน้านี้ ทำให้ต้องเปลี่ยนมาเป็นการแก้ไขทั้งฉบับ

นายพิภพกล่าวว่า การแถลงการณ์ครั้งนี้ เพื่อให้สังคมได้รู้เท่าทันแก้เกมทางการเมืองของรัฐบาลหุ่นเชิดในระบบทักษิณ ในขณะที่ประชาชนมีความทุกข์ยากในเรื่องข้าวยากหมากแพง ข้าวสารอาจจะไม่พอกิน น้ำมันแพงขึ้นตลอดเวลา และโจรผู้ร้ายชุกชุมขึ้น และมีความรุนแรงในสังคมตามมา รัฐบาลหุ่นเชิดในปัจจุบันนี้กลับไม่สนใจที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ขณะเดียวกัน ความพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตรา 237 แก้ไขมาตรา 309 เพื่อไม่ให้คนที่ถูกกล่าวหา หรือนักการเมืองที่ถูกกล่าวหาในอดีต ที่คณะกรรมการไต่สวนของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ( คตส.) กำลังทำงานอยู่ และจะนำไปขึ้นสู่ศาลนั้น ก็จะเห็นได้ว่าความพยายาม แก้ไขมาตรา 309 นั้น ได้ถูกสังคม ชุมชน นักวิชาการ ผู้อาวุโสทางการเมือง รวมทั้งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คัดค้านโดยตลอดว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 และ 309 นั้น เป็นไปเพื่อทำให้คนผิดกลายเป็นคนถูก และนอกจากนั้น มาตรา 237 ยังเป็นมาตราที่มุ่งที่จะทำให้ระบอบการเมืองเข้มแข็ง และไม่ทำให้นักการเมืองที่ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเข้าสู่สภาได้

"ถ้าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ จะต้องมีการลงประชามติ ขอความเห็นชอบจากประชา-ชนก่อนว่าควรจะแก้ไขทั้งฉบับหรือไม่ หลังจากนั้นจึงจะสามารถดำเนินการได้ มิเช่นนั้นเราจะถือว่าการมุ่งแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับภายในเวลา 1 เดือนนี้ถือว่าเป็นการรัฐประหารเงียบ โดยระบบรัฐสภาของพรรคร่วมรัฐบาล" นายพิภพกล่าว

นายสนธิกล่าวว่า การตัดสินใจของพันธมิตรฯในแต่ละครั้งจะวิเคราะห์สถานการณ์ ถ้าสถานการณ์เกิดภาวะวิกฤตจะเป็นมูลเหตุที่ทำ ให้ชาติบ้านเมืองวุ่นวาย การขยับของพันธมิตรฯ จะเป็นไปตามการรองรับสถานการณ์แต่ละครั้ง

"ในขณะนี้เรากำลังเตือนรัฐบาลว่า อย่าล้อเล่นกับประชาชน อย่าประพฤติตนชั่ว อย่าทำตัวเป็นคนพาล สร้างจริยธรรมในการปกครอง บ้านปกครองเมือง และใช้หลักนิติธรรมในการปกครอง แล้วหันเข้ามาแก้ไขปัญหาที่เป็นปัญหา จริงๆ ของชาติบ้านเมือง คือ ปัญหาข้าวยากหมาก แพงในขณะนี้ ราคาแก๊สที่สูงขึ้น กับราคาน้ำมันไม่ลดลง กับข้าวที่แพงขึ้น ชาวนาเห็นราคาข้าวแพงขึ้น แต่จริงๆ แล้วไม่ได้เงินเพิ่มเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะขายข้าวไปนานแล้ว หรือว่าภาวะ การตกงานของคนมากขึ้น แล้วยังจะต้องทนต่อ ความกักขฬะ สามหาว ความหยาบคาย ความถ่อย ของคนซึ่งควรจะเป็นตัวแทนของประชา-ชนเข้าไปในสภาฯ แต่กลับแก้ปัญหาที่ทำให้ตัวเอง และพรรคพวกไม่กี่คนพ้นผิด" นายสนธิกล่าว และย้ำว่า การเตือนอาจจะเตือนครั้งสุดท้าย หรืออาจจะเตือนอีกสัก 1-2 ครั้ง"

นายสนธิกล่าวว่า การที่รัฐมนตรีทำผิด ควรที่จะมีมารยาทลาออก เหมือนกับสมัยรัฐบาล ชุดที่แล้วที่แสดงสปิริตลาออก ไม่ว่า นางอรนุช โอสถานนท์ นายอารีย์ วงศ์อารยะ แต่รัฐมนตรีชุดนี้กลับเป็นคนพูดว่า ในกฎหมายไม่ได้ระบุคำว่า จริยธรรม ไว้

พล.ต.จำลองกล่าวว่า ท่าทีของพันธมิตรฯ เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ และรอดูว่ารัฐบาลจะฟังเสียงการคัดค้านของประชาชนหรือไม่ และย้ำว่า เราไม่ได้คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ต้องถามประชาชนก่อน เพราะประชาชนเพิ่งประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 มาไม่นาน

ผิดหวังคำพูด "สดศรี"

นายสนธิได้กล่าวติง นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เสนอให้มีการสมานฉันท์ระหว่างพันธมิตรฯกับรัฐบาลว่า รู้สึกผิดหวังกับคำพูดของนางสดศรี ที่เป็น กกต.ที่ต้องทำหน้าที่ในการชะล้างความชั่วของนักการเมืองผ่านการเลือกตั้ง เพราะคำพูดกล่าวเหมือน กับว่าต้องการให้นำความถูกกับความผิดมาผสมกัน

"ผมเสียดายและเสียใจที่คนอย่างคุณสดศรี สัตยธรรม ที่มีวุฒิภาวะ เคยเป็นอดีตผู้พิพากษา เป็นหนึ่งใน กกต.ไปให้ความกังวลกับ คำพูดของโหรวารินทร์ โหราศาสตร์กับการเมือง ไทยนั้นอยู่คู่กันมานานแล้ว แต่ว่าในข้อเท็จจริงแล้วคือพุทธศาสนา กับกฎแห่งกรรม เป็นตัวกำหนดการกระทำของคน ในฐานะเป็นหนึ่งใน กกต.แล้ว ตัดสินหลายๆ คดีออกไป นั่นคือมาตรฐานที่คุณสดศรีใช้ มิน่า การเมืองไทยมันถึงวุ่นทุกวันนี้ เพราะว่าหน้าที่คุณสดศรี และ กกต.อีก 4 ท่าน รวมเบ็ดเสร็จ 5 ท่าน มีหน้าที่ที่จะชะล้าง สร้างการเมืองให้สะอาด แต่กลับไม่ทำหน้าที่นี้อย่างสมบูรณ์แบบ" นายสนธิกล่าว

พล.ต.จำลองกล่าวว่า เรื่องสมานฉันท์ พวกเราหยุดมาเป็นปี ไม่ได้ทำอะไรเลย เมื่อไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราในฐานะที่เป็นนายจ้าง รัฐบาลคือลูกจ้างชั่วคราว เมื่อลูกจ้างชั่วคราวทำผิด เราก็ต้องออกมาต่อว่า ออกมาคัดค้าน ก็เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อนายจ้างออกมาต่อว่าคัดค้าน ก็บอกว่าไม่มีสมานฉันท์ ทำอย่างนี้ได้ยังไง มันไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง เมื่อผิดก็ต้องบอกว่าผิด ผิดแล้วบอกว่าอย่าไปยุ่งกับเขา ปล่อยเขาไปเถอะ จะได้สมานฉันท์ บ้านเมืองก็แย่

ลงชื่อถอดถอน ส.ส.ดันทุรังแก้รธน.

สำหรับความคืบหน้าในการยื่นถอดถอน ส.ส.หากมีการยื่นขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเห็นว่าเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ตัวเอง ซึ่งขัดกับกฎหมายนั้น นายสุริยะใสกล่าวว่า ขณะนี้ต้องรอให้มีการยื่นขอแก้ไขก่อน เพื่อให้เกิดพฤติกรรมก่อน จากนั้นก็จะไปแสดงตนต่อประธานวุฒิสภาเพื่อเริ่มกระบวนการถอดถอน ส.ส.ออกจากตำแหน่งต่อไป

"เราต้องยกร่างแบบถอดถอน ถ้าทันทีที่ข้อเรียกร้องของพันธมิตรฯ ไม่เป็นผล แล้วรัฐบาลนอมินีดื้อรั้น ดันทุรังยื่นญัตติเสนอแก้ไข ร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะทั้งฉบับหรือเป็นบางมาตราก็ตาม จะยื่นหนังสือต่อประธานวุฒิสภา เพื่อดำเนินการถอดถอนทันที แต่หากมีการล่ารายชื่อไปก่อน แต่พฤติกรรมของผู้ถูกกล่าวหา ยังไม่เกิด มันไม่มีผล คล้ายๆ กรณีถอดถอนนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข มีกว่า 4,000 ชื่อ ซึ่งทางวุฒิสภาบอกว่าได้มาโดยมิชอบ เพราะว่ามีการล่าชื่อไปก่อน" นายสุริยะใสกล่าวและชี้ประเด็นว่า

ในเรื่องของการประชาสัมพันธ์ให้แก่ประชาชนนั้น คงต้องเข้าใจว่า ขณะนี้สามารถแยก แยะได้ เพราะวันนี้ช่อง 11 ถูกปรับเปลี่ยนไปเพื่ออะไร ซึ่งตามหลักการของช่อง 11 คือ ทีวีที่ทำหน้าที่ขยายความนโยบายสาธารณะ โดยเฉพาะนโยบายของรัฐบาล แต่ตอนนี้ทีวีช่อง 11 ถูกเปลี่ยนไปเป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มการเมือง ผิดเจตนารมณ์ ขณะนี้หลายองค์กรที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะมีการดำเนินคดีความ

ด้านนายสมศักดิ์ย้ำว่า การแก้ไขรัฐ-ธรรมนูญของพรรคพลังประชาชนเพื่อให้บางคนพ้นผิดต้องการแก้ไขมาตรา 237 และมาตรา 309 เท่านั้น และที่ผ่านมาการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้เป็นนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อสภา

โดยในวันที่ 19 เม.ย.นี้ พันธมิตรฯจะมีการประชุมร่วมกับตัวแทนองค์กรเครือข่าย ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ เพื่อสรุปสถานการณ์อีกครั้ง ก่อนจะมีการแถลงข่าวช่วง 15.30 น. เพื่อ กำหนดแผนและแนวทางในการเคลื่อนไหว
กำลังโหลดความคิดเห็น