รอยเตอร์ - เด็กๆ ส่วนใหญ่เคยได้ยินคำเตือนว่าลูกกวาดทำให้ฟันผุ แต่เด็กชาวเวเนซุเอลาที่รับประทานลูกกวาดพิเศษสำหรับป้องกันฟันผุ มีอัตราการเกิดฟันผุน้อยกว่าเด็กที่แปรงฟันเป็นประจำถึง 62 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้เป็นผลวิจัยของคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสโตนี บรู้ค ซึ่งคิดค้นองค์ประกอบสำคัญในใบมินต์ที่เรียกว่า คาวิสแตท (CaviStat) ขึ้นมา และได้ทำการทดลองกับเด็กวัยสิบขวบครึ่งถึง 11 ปี จำนวน 200 คน ในประเทศเวเนซุเอลา ซึ่งมีฟันกรามแท้ขึ้นแล้ว แต่ยังคงมีฟันน้ำนมหลงเหลืออยู่บางส่วน
เด็กๆ จำนวนครึ่งหนึ่งจะเคี้ยว "เบสิกมินต์" สองชิ้นในตอนเช้าภายหลังจากแปรงฟันด้วยยาสีฟันชนิดที่ผสมฟลูออไรด์ และทำเช่นเดียวกันนี้ในตอนกลางคืนก่อนเข้านอน ส่วนเด็กอีกครึ่งหนึ่งจะแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ตามปกติวันละสองครั้งเช่นกัน แต่จะได้เคี้ยวมินต์ไร้น้ำตาลแบบธรรมดาหลังแปรงฟัน
หลังการทดลองเป็นเวลา 1 ปีพบว่าเด็กกลุ่มที่เคี้ยวเบสิกมินต์มีการเกิดฟันผุน้อยกว่าเด็กในกลุ่มเปรียบเทียบ
เบสิกมินต์มีลักษณะอ่อนนุ่ม และออกแบบมาเพื่อให้เคี้ยวและละลายลงไปถึงพื้นผิวด้านหลังของฟันซึ่งเป็นบริเวณที่มักเกิดฟันผุถึง 90 เปอร์เซ็นต์ และเป็นการเลียนแบบองค์ประกอบของน้ำลายมนุษย์ที่ช่วยลดสภาพความเป็นกรดในช่องปากซึ่งสามารถทำลายเคลือบฟันได้
มิตเชล โกลด์เบิร์ก ประธานบริษัทออร์เท็ค เธราพูติกส์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทที่จดสิทธิบัตรดังกล่าวบอกว่า มินต์แตกต่างจากหมากฝรั่งไร้น้ำตาลซึ่งป้องกันฟันผุได้เพียงชั่วคราวด้วยการเพิ่มการไหลเวียนของน้ำลายในช่องปาก เพราะมินต์มีฤทธิ์ในการทำให้สภาพความเป็นกรดกลายเป็นกลางได้ และกรดนี่เองที่เป็นต้นเหตุของฟันผุ
ทั้งนี้เป็นผลวิจัยของคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสโตนี บรู้ค ซึ่งคิดค้นองค์ประกอบสำคัญในใบมินต์ที่เรียกว่า คาวิสแตท (CaviStat) ขึ้นมา และได้ทำการทดลองกับเด็กวัยสิบขวบครึ่งถึง 11 ปี จำนวน 200 คน ในประเทศเวเนซุเอลา ซึ่งมีฟันกรามแท้ขึ้นแล้ว แต่ยังคงมีฟันน้ำนมหลงเหลืออยู่บางส่วน
เด็กๆ จำนวนครึ่งหนึ่งจะเคี้ยว "เบสิกมินต์" สองชิ้นในตอนเช้าภายหลังจากแปรงฟันด้วยยาสีฟันชนิดที่ผสมฟลูออไรด์ และทำเช่นเดียวกันนี้ในตอนกลางคืนก่อนเข้านอน ส่วนเด็กอีกครึ่งหนึ่งจะแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ตามปกติวันละสองครั้งเช่นกัน แต่จะได้เคี้ยวมินต์ไร้น้ำตาลแบบธรรมดาหลังแปรงฟัน
หลังการทดลองเป็นเวลา 1 ปีพบว่าเด็กกลุ่มที่เคี้ยวเบสิกมินต์มีการเกิดฟันผุน้อยกว่าเด็กในกลุ่มเปรียบเทียบ
เบสิกมินต์มีลักษณะอ่อนนุ่ม และออกแบบมาเพื่อให้เคี้ยวและละลายลงไปถึงพื้นผิวด้านหลังของฟันซึ่งเป็นบริเวณที่มักเกิดฟันผุถึง 90 เปอร์เซ็นต์ และเป็นการเลียนแบบองค์ประกอบของน้ำลายมนุษย์ที่ช่วยลดสภาพความเป็นกรดในช่องปากซึ่งสามารถทำลายเคลือบฟันได้
มิตเชล โกลด์เบิร์ก ประธานบริษัทออร์เท็ค เธราพูติกส์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทที่จดสิทธิบัตรดังกล่าวบอกว่า มินต์แตกต่างจากหมากฝรั่งไร้น้ำตาลซึ่งป้องกันฟันผุได้เพียงชั่วคราวด้วยการเพิ่มการไหลเวียนของน้ำลายในช่องปาก เพราะมินต์มีฤทธิ์ในการทำให้สภาพความเป็นกรดกลายเป็นกลางได้ และกรดนี่เองที่เป็นต้นเหตุของฟันผุ