เดินหน้าโครงการนมฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ พร้อมเผยแพร่ความรู้ให้ผู้ปกครองร่วมดูแลและปฏิบัติถูกต้องเหมาะสม เพื่อสุขภาพฟันที่ดีของเด็ก กทม.ตั้งเป้าปีการศึกษา 52 เด็กนักเรียนทุกคนทุกสังกัดได้ดื่มนมฟลูออไรด์ต่อเนื่อง พร้อมจัดทีมสาธารณสุขรณรงค์ส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพตามสุขบัญญัติ 10 ประการ แนะคนกรุงป้องกันกันโรค สร้างสุขภาพแข็งแรงที่ดีในชุมชนทั่วกรุงเทพฯ 1-7 เม.ย.นี้
นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 52 พรรษา โดยในปี 2548 กทม.ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จัดทำโครงการนมฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุในเด็ก กทม.เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่อง มีระยะเวลาดำเนินงาน 5 ปี คือ ตั้งแต่ปี 2548-2552 โดยดำเนินการควบคู่ไปกับงานป้องกันและส่งเสริมทันตสุขภาพอื่นๆ ในโรงเรียน เพื่อลดอัตราการเกิดโรคฟันผุ และส่งเสริมการป้องกันทันตสุขภาพในเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาใน กทม.ให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และฟันไม่ผุ ทั้งนี้ จะมีการเผยแพร่ความรู้ไปยังผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้องเพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถดูแลเด็กได้ถูกต้อง เหมาะสม ให้การดูแลสุขภาพช่องปากเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิต ทำให้เด็กมีสุขภาพช่องปากที่ดีตลอดไป ทั้งนี้ กทม.ได้ประสานโรงนมที่ได้มาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขให้ผลิตนมได้อย่างเพียงพอ โดยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ควบคุม และกำกับดูแลให้การผลิตนมฟลูออไรด์อยู่ในมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง โดยได้ขยายความครอบคลุมในเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาทั้งหมดของ กทม.436 โรงเรียน และสังกัด สพฐ.จำนวน 38 โรงเรียน ได้ดื่มนมฟลูออไรด์ นอกจากนี้ ได้วางเป้าหมายในปีการศึกษา 2551 ครอบคลุมนักเรียนทั้งหมด และปีการศึกษา 2552 เด็กนักเรียนทุกคนได้ดื่มนมฟลูออไรด์อย่างต่อเนื่อง
นายวัลลภ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 1-7 เมษายน นี้ สำนักอนามัย กทม.ร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุข จัดสัปดาห์รณรงค์ส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพตามสุขบัญญัติ 10 ประการในชุมชนต่างๆ ทั่วพื้นที่ กทม.ในรูปแบบการจัดกิจกรรมและมอบหนังสือคู่มือการปฏิบัติตามหลักสุขบัญญัติ 10 ประการ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตนสำหรับการเสริมสร้างสุขภาพขั้นพื้นฐานให้สมบูรณ์ แข็งแรง
สำหรับหลักสุขบัญญัติ 10 ประการ ได้แก่ การดูแลความสะอาดร่างกาย การรักษาฟันให้แข็งแรง ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหารและหลังขับถ่าย กินอาหารที่สุกสะอาด สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวให้อบอุ่น งดสิ่งเสพติด การพนัน การสำส่อนทางเพศ ป้องกันอุบัติภัยด้วยการไม่ประมาท ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และตรวจสุขภาพประจำปี ทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ และร่วมดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมให้ถูกสุขลักษณะ
นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 52 พรรษา โดยในปี 2548 กทม.ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จัดทำโครงการนมฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุในเด็ก กทม.เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่อง มีระยะเวลาดำเนินงาน 5 ปี คือ ตั้งแต่ปี 2548-2552 โดยดำเนินการควบคู่ไปกับงานป้องกันและส่งเสริมทันตสุขภาพอื่นๆ ในโรงเรียน เพื่อลดอัตราการเกิดโรคฟันผุ และส่งเสริมการป้องกันทันตสุขภาพในเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาใน กทม.ให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และฟันไม่ผุ ทั้งนี้ จะมีการเผยแพร่ความรู้ไปยังผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้องเพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถดูแลเด็กได้ถูกต้อง เหมาะสม ให้การดูแลสุขภาพช่องปากเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิต ทำให้เด็กมีสุขภาพช่องปากที่ดีตลอดไป ทั้งนี้ กทม.ได้ประสานโรงนมที่ได้มาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขให้ผลิตนมได้อย่างเพียงพอ โดยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ควบคุม และกำกับดูแลให้การผลิตนมฟลูออไรด์อยู่ในมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง โดยได้ขยายความครอบคลุมในเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาทั้งหมดของ กทม.436 โรงเรียน และสังกัด สพฐ.จำนวน 38 โรงเรียน ได้ดื่มนมฟลูออไรด์ นอกจากนี้ ได้วางเป้าหมายในปีการศึกษา 2551 ครอบคลุมนักเรียนทั้งหมด และปีการศึกษา 2552 เด็กนักเรียนทุกคนได้ดื่มนมฟลูออไรด์อย่างต่อเนื่อง
นายวัลลภ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 1-7 เมษายน นี้ สำนักอนามัย กทม.ร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุข จัดสัปดาห์รณรงค์ส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพตามสุขบัญญัติ 10 ประการในชุมชนต่างๆ ทั่วพื้นที่ กทม.ในรูปแบบการจัดกิจกรรมและมอบหนังสือคู่มือการปฏิบัติตามหลักสุขบัญญัติ 10 ประการ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตนสำหรับการเสริมสร้างสุขภาพขั้นพื้นฐานให้สมบูรณ์ แข็งแรง
สำหรับหลักสุขบัญญัติ 10 ประการ ได้แก่ การดูแลความสะอาดร่างกาย การรักษาฟันให้แข็งแรง ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหารและหลังขับถ่าย กินอาหารที่สุกสะอาด สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวให้อบอุ่น งดสิ่งเสพติด การพนัน การสำส่อนทางเพศ ป้องกันอุบัติภัยด้วยการไม่ประมาท ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และตรวจสุขภาพประจำปี ทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ และร่วมดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมให้ถูกสุขลักษณะ