ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – แม้ว่าปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจในตัวเมืองหาดใหญ่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางความเจริญของภาคใต้ แต่”ศุภาลัย”เล็งเห็นช่องว่างตลาดบ้านที่ราคาสูงลิ่ว ผุดโครงการคอนโดมิเนียมมูลค่ากว่า 390 ล้านบาท สูง 20 ชั้นกลางเมืองหาดใหญ่ หวังรับกระแสย้ายถิ่นฐานของผู้คนจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ เจาะกลุ่มมนุษย์เงินเดือน 10,000 บาทต้นๆ ฟุ้งปิดโครงการได้ภายใน 3 เดือนแน่นอน
ธุรกิจบ้านจัดสรรใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจของภาคใต้ทิ้งราคาขั้นต่ำเกือบ 2,000,000 บาทแล้ว โดยกระจายอยู่พื้นที่รอบนอกเมืองเป็นส่วนใหญ่ ทำให้บริษัทหาดใหญ่นครินทร์ ในเครือบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เห็นช่องว่างของตลาดที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองที่มีความต้องการสูง ผุดโครงการคอนโดมิเนียมย่านภาสว่างบนถนนเพชรเกษมกลางเมืองหาดใหญ่
นายพีระ หงส์ชยางกูร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บริษัทหาดใหญ่นครินทร์ ในเครือบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ยักษ์ใหญ่ในวงการธุรกิจพัฒนาที่ดินในส่วนกลาง ซึ่งได้รับการยอมรับด้านโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมานาน เปิดเผย “ผู้จัดการรายวัน” ว่า ไม่ว่าเศรษฐกิจจะขึ้นลงอย่างไร อ.หาดใหญ่เป็นศูนย์กลางความเจริญในทุกๆ ด้านของภาคใต้คล้ายกับกรุงเทพฯ ทั้งธุรกิจ บริษัทเอกชน ศูนย์การค้าทั้งต่างชาติและท้องถิ่น สถาบันการเงิน ตลาดซื้อขายยางพารา สถานศึกษา โรงพยาบาล เป็นต้น ทำให้มีประชากรจากต่างจังหวัดเข้ามาอาศัยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก วิถีชีวิตของคนเมืองในหาดใหญ่เปลี่ยนไปไม่แตกต่างจากเมืองหลวงมากนัก
ด้วยราคาและทำเลของคอนโดมิเนียมที่สามารถเติมเต็มให้ช่องว่างของคนที่ต้องการมีที่พักอาศัยแต่อยู่ในกลางเมืองได้ จึงเปิดโครงการคอนโดมิเนียมซิตี้ โฮมหาดใหญ่ ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมโครงการที่ 3 ความสูง 20 ชั้น จำนวน 400 ยูนิต มูลค่า 390 ล้านบาท บนเนื้อที่ 2 ไร่เศษ ในราคาระหว่าง 0.70 – 1.8 ล้านบาท พื้นที่ตั้งแต่ 28.5 – 59.5 ตารางเมตร ผ่อนเดือนละ 3,900 บาท นาน 30 ปี ใกล้เคียงกับการเช่าห้องพักที่มีราคาประมาณ 3,500-4,500 บาท ขึ้นอยู่กับสิ่งอำนวยความสะดวก โดยเปิดจองตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ตั้งเป้าปิดโครงการภายใน 3 เดือน แต่ขณะนี้มียอดจองแล้ว 40 %
“อ.หาดใหญ่ เป็นหัวใจหลักในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใน จ.สงขลา ที่มีความต้องการสูงที่สุด แต่หากลูกค้าต้องการอยู่สบายก็แพง เริ่มตั้งแต่หนึ่งล้านปลายๆ มีที่ตั้งนอกเมือง ต้องเดินทางไกลและจ่ายค่าน้ำมันแพงอีกต่างหาก เราเล็งเห็นตรงนี้ จึงทำโครงการอาเชียนคอนโดมิเนียม1 และ 2 ความสูง 8 ชั้นใกล้กับสถานีขนส่งหาดใหญ่ ซึ่งได้รับกระแสตอบรับดี ปิดโครงการได้ตามเป้าหมาย จึงหันมาพัฒนาที่ดินกลางเมืองเป็นโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่” นายพีระ กล่าวและว่า
สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักเน้นคนหนุ่มสาวที่ทำงานในเมือง และมีรายได้ตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป รวมถึงครอบครัวจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้และจังหวัดอื่นๆ ที่ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ใน อ.หาดใหญ่ ข้าราชการ หรือผู้ปกครองที่ซื้อไว้ให้ลูกที่กำลังเรียนหนังสือ ซึ่งทั้งหมดมั่นใจได้ในความปลอดภัยที่มีการดูแลอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ โดยทันทีที่โครงการนี้ผ่านรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EAI ก็จะยื่นขออนุญาตก่อสร้างจากเทศบาลนครหาดใหญ่และก่อสร้างในกลางปีนี้ แล้วเสร็จกลางปี 2553 และโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 3 ของปี
ทั้งนี้ คอนโดมิเนียมซิตี้ โฮม หาดใหญ่ ออกแบบห้องชุด 5 แบบ ได้แก่ Shop บริเวณร้านค้าชั้นล่าง 3 ห้อง พื้นที่ 40.5-43.0 ตารางเมตร(ตร.ม.), Dahilia ห้องนอนสตูดิโอ 1 ห้องน้ำ-ครัว พื้นที่ 28.5-32 ตร.ม., Catleya Suit 1ห้องนอน-ห้องน้ำ-ห้องครัว พื้นที่ 37.5-38 ตร.ม. , Bellflower Suit 1 ห้องนอน-ห้องน้ำ-ห้องครัว พื้นที่ 43.5 ตร.ม. และ Allanmanada Suit 1-2ห้องนอน 1 ห้องน้ำ-ห้องครัว พื้นที่ 58.5 ตร.ม.
อย่างไรก็ตาม ในห้วง 10 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เคยเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งทำให้โครงการต่างๆ ที่กำลังผุดขึ้นถูกทิ้งร้าง และพยายามใช้เวลาฟื้นตัวมาโดยตลอด จนถึงปัจจุบันที่มีมรสุมลูกใหม่เรื่องความไม่สงบเข้ามา รวมกับปัญหาด้านเศรษฐกิจที่กระทบต่อค่าครองชีพมนุษย์เงินเดือน นายพีระ กล่าวว่า หากจะเกิดวิกฤตที่กระทบในวงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก็คงจะไม่มีเหตุการณ์ใดร้ายแรงเท่ากับพิษต้มยำกุ้งในปี 2540 เพราะขณะนี้สถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ และทุกฝ่ายได้เรียนรู้บทเรียนและระมัดระวังอยู่แล้ว ซึ่งในส่วนของคอนโดมิเนียมก็จะมีความรุนแรงในลำดับท้ายๆ