ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – เจ้าของโรงแรมสไตล์บูติกกลางเมืองหาดใหญ่ชี้ทางรอดของการทำธุรกิจท่ามกลางกระแสนักท่องเที่ยวหดหายเพราะกลัวไม่ปลอดภัยจากเหตุในภาคใต้ แนะควรสร้างจุดแข็งพัฒนาเอกลักษณ์โรงแรมแต่ละแห่ง เน้นการพัฒนาสถานที่และบริการสร้างความประทับใจ และเจาะลูกค้ากลุ่มใหม่ยกระดับมูลค่าให้สูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันโรงแรมเน้นกลุ่มลูกค้าวัยทำงาน ทำให้เฉลี่ยมียอดเข้าพักถึง 55% ต่อปี
ภายหลังจากที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ประสบปัญหาความไม่มั่นใจในความปลอดภัย ส่งผลให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและเพื่อนบ้านเข้ามาท่องเที่ยวน้อย ทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะโรงแรมที่ประสบปัญหาขาดทุนจากรายได้ที่ลดลงตามตัวเลขนักท่องเที่ยว
นายปุณญพัฒน์ จิตสกุลชัยเดช ผู้บริหาร เดอะวิณี บูติก รีสอร์ท หาดใหญ่ ซึ่งเป็นโรงแรมสไตล์บูติก เปิดเผยว่า สถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ และความไม่มั่นใจความปลอดภัยของ อ.หาดใหญ่ ทำให้โรงแรมทุกประเภทได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกับเดอะวิณี บูติก รีสอร์ทฯ ที่เคยได้รับการตอบรับกลุ่มลูกค้าหลักจากบริษัทใหญ่ทั้งไทยและต่างชาติที่เข้ามาทำงานในพื้นที่ จ.สงขลา เป็นอย่างดี แต่เมื่อเจอปัญหาหลายด้านทั้งความไม่มั่นใจทางการเมืองส่งผลต่อโครงการต่างๆ ชะลอตัวและบริษัทใหญ่ย้ายฐานการผลิต ทำให้ผู้ติดตามที่เป็นญาติ ครอบครัว และเพื่อนฝูงของลูกค้ากลุ่มนี้หายไปด้วย
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโรงแรมได้สร้างความแตกต่างในตลาดหาดใหญ่อยู่แล้ว ด้วยสไตล์บูติก สร้างบรรยากาศเงียบสงบแม้ตั้งอยู่ภายในเมือง มีความเป็นส่วนตัว มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม และการบริการอย่างเป็นมิตร นับเป็นเอกลักษณ์ที่สามารถดึงดูดให้ลูกค้ากลุ่มเดิมเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยแล้วมีการเข้าพัก 55% ตลอดทั้งปีจากทั้งหมด 41 ห้อง ซึ่งโรงแรมสามารถบริการได้ทั่วถึงและมีคุณภาพ เนื่องจากไม่มีช่วงพีกเหมือนโรงแรมที่อิงยอดนักท่องเที่ยวซึ่งจะเต็มในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น และลูกค้าจ่ายราคาคงเดิมตลอดทั้งปี
“ตอนนี้ตลาดห้องพักนั้นมีเยอะมากที่เกิดขึ้นในหาดใหญ่ ทั้งอพาร์ตเมนต์ที่เกิดขึ้นมาจากผลพวงดอกเบี้ยถูก จึงนำเงินเก็บมาลงทุนทำห้องเช่ารายเดือน รวมถึงโรงแรมที่มีนับหมื่นห้อง ถ้าแต่ละแห่งสร้างเอกลักษณ์เป็นของตัวเองให้แตกต่างกัน ก็จะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่สามารถสร้างมูลค่าให้เพิ่มขึ้น ลูกค้ามาแล้วเกิดความประทับใจก็จะคิดถึง และก็จะหวนกลับมาอีก” นายปุณญพัฒน์ กล่าวและว่า
ทั้งนี้ หากปี 2551 สถานการณ์ความไม่สงบยังไม่คลี่คลาย โครงการลงทุนใหญ่ๆ ที่จะนำเม็ดเงินมากระจายในสงขลาก็ยังไม่เกิด ธุรกิจต่างๆ ก็ต้องประคับประคองตัวเองอีกปี ในส่วนของ เดอะวิณี บูติก รีสอร์ทฯ ตั้งเป้าดูแลลูกค้าเก่าและขยายลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ โดยเน้นตลาดลูกค้าภายใน จ.สงขลา เป็นครั้งแรก เพื่อรักษาการอยู่รอดด้วยเช่นกัน โดยเน้นพัฒนาคุณภาพมากกว่าเพิ่มปริมาณ เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาเกิดความประทับใจมากขึ้นและเกิดการบอกต่อ
“โรงแรมเดอะวิณี บูติก รีสอร์ทฯ ไม่เคยตั้งงบในการทำสื่อประชาสัมพันธ์เลย แต่ใช้วิธีพัฒนาตัวเอง แข่งกับตัวเองมาโดยตลอด จากเดิมที่เปิดเป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์มาก่อนในราคาระดับหมื่นต้นๆ เมื่อปรับปรุงสถานที่และบริการใหม่ในรูปแบบโรงแรมก็ยังคงเป็นลูกค้ากลุ่มเดิมที่เข้ามา และสามารถทำราคาได้ถึง 1,500 บาทต่อคืน นับเป็นราคาที่สูงสำหรับหาดใหญ่ในปัจจุบัน” นายปุณญพัฒน์ กล่าว
แม้รอบปี 2550 สถานการณ์ด้านท่องเที่ยวจะดีขึ้นกว่าปีก่อนๆ เนื่องจากเฉลี่ยทั้งปีแล้วมีนักท่องเที่ยวเข้าพักประมาณ 30% และโรงแรมใจกลางเมืองหาดใหญ่ถูกจอง 80-90% ในช่วงเทศกาลสำคัญ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือโรงแรมขนาดเล็กกลุ่มใหญ่ที่กระจายอยู่รอบนอกนั่นเอง
ปัจจุบัน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลามีโรงแรมทั้งหมด 121 แห่ง จำนวน 10,381 ห้อง จำแนกตามกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 (ราคาตั้งแต่ 2,500 บาทขึ้นไป แต่เนื่องจากมีเพียงแห่งเดียวจึงรวมกับโรงแรมในกลุ่มที่ 3 (ราคาตั้งแต่ 1,000 -1,499บาท) มี 4 แห่ง จำนวน 1,146 ห้อง โดยราคาห้องสูงสุด 11,290 บาท ส่วนกลุ่มที่2 (ราคา 1,500-2,499 บาท) ไม่มีโรงแรมที่อยู่ในเกณฑ์ เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นอพาร์ตเมนต์ กลุ่มที่ 4 (ราคา 500-999 บาท) มี 38 แห่ง จำนวน 4,870 ห้อง กลุ่มที่5 (ราคาน้อยกว่า 500 บาท) มี 79 แห่ง จำนวน 4,365 ห้อง