xs
xsm
sm
md
lg

บึ้ม “ซี.เอส.ปัตตานี” สูญกว่า 15 ล้าน-จี้รัฐอุ้มรักษาฐานสัมมนา 3 จชต.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – เจ้าของโรงแรม ซี.เอส.เหยื่อล่าสุดเหตุความรุนแรง เผยต้องใช้ไม่ต่ำกว่า 15 ล้าน ปรับปรุงซ่อมแซมสถานที่ใหม่ ซ้ำร้ายเพิ่งบอกเลิกประกันภัยหลังบริษัทขูดเบี้ยประกันสูงลิบ จี้รัฐระดมการประชุมสัมมนาสู่จังหวัดถี่ขึ้นในช่วง 5 เดือน เพื่อสร้างกำลังใจและรักษาฐานการสัมมนาใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ให้ได้ นักวิชาการชี้บั่นทอนความมั่นใจเชื่อมั่นความปลอดภัยครั้งใหญ่ สะท้อนประสิทธิภาพการดูแลรักษาความปลอดภัย ที่ใช้กำลังคนแต่ไม่มีเครื่องมือช่วย ซึ่งต้องปรับแก้ไขและกล้าลงทุน เพื่อความปลอดภัยในระยะยาว เผยผู้ประกอบการรายย่อยเตรียมเผ่นอีก

จากเหตุระเบิดโรงแรมซี.เอส.เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา นายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล กรรมการผู้จัดการ โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี เปิดเผยว่า โรงแรมได้สำรวจความเสียหายและประเมินว่าไม่น่าจะน้อยกว่า 15 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินจำนวนมากในภาวะเช่นนี้ และโชคร้ายที่ปีนี้โรงแรมตัดสินใจไม่ต่อสัญญาการประกันภัย เนื่องจากบริษัทประกันภัยปรับขึ้นเบี้ยประกันสูงถึง 280,000 บาท จากเดิมที่จ่ายปีละ 50,000 บาท

“เพียงแต่ปีเดียวที่บริษัทประกันภัยปรับเงินสูงมากถึง 300% เราซึ่งเป็นผู้ประกอบการอยู่ในพื้นที่ย่ำแย่อยู่แล้วก็เดือดร้อน โรงแรมซี.เอส.ที่อยู่ได้ก็ไม่ได้แสวงหาผลกำไรมาก และคิดว่าตรงนี้เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสูงด้วย ซึ่งเมื่อเกิดเหตุกับที่นี่แล้วก็ห่วงว่าแล้วที่อื่นเขาจะอยู่กันอย่างไร” นายอนุศาสน์ กล่าวต่อและว่า

อย่างไรก็ตาม โรงแรมซี.เอส.ก็ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ เพื่อรักษาความภาพลักษณ์ของจังหวัด เนื่องจากเป็นศูนย์กลางการประชุมสัมมาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานราชการเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เพราะตั้งแต่ปี 2547 ที่เหตุความไม่สงบปะทุความรุนแรง ทำให้เสียภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นหัวใจหลักของจังหวัด แต่โรงแรมยังประคองตัวได้จากการใช้บริการของหน่วยงานราชการ จึงอยากให้รัฐช่วยเหลือด้านการสนับสนุนให้เกิดการประชุมสัมมนาในโรงแรมต่อไป

“รัฐควรจะนำวิกฤตที่เกิดกับโรงแรม เป็นการนำร่องระดมความช่วยเหลือ ทั้งสถาบันการเงิน กระทรวงที่สามารถผลักดันเพิ่มมาตรการความช่วยเหลือ เพื่ออุดหนุนจุนเจืออยู่ต่อไปได้ โดยเฉพาะช่วง 4-5 เดือนต่อไปนี้ ที่อยู่ระหว่างเยียวยาต้องระดมการจัดประชุม เพราะเป็นหัวใจของ 3 จังหวัดชายแดนในตอนนี้”

ด้าน รศ.ครองชัย หัตถา หัวหน้าภาควิชาภูมิศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และเป็นเจ้าของบ้าน หนึ่งในผู้เสียหายจากเหตุระเบิดโรงแรมซี.เอส.ปัตตานี เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าช็อกความรู้สึกของคนในพื้นที่ ด้วยตลอดเวลา 4 ปีนั้น ในสายตาคนทั่วไปก็ยังมองว่าเป็นพื้นที่ที่มีความปลอดภัยสูง ตามมาตรฐานบริการของโรงแรมระดับ 5 ดาว ซึ่งเสริมสร้างภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยของจังหวัด และในตัวเมืองซึ่งเป็นแหล่งศูนย์รวมธุรกิจและหน่วยงานราชการ

ตลอดจนโรงแรมซี.เอส.ไม่เคยมีเหตุร้ายเกิดขึ้นตั้งแต่งเปิดให้บริการ ทำให้หน่วยงานราชใช้เป็นสถานที่การประชุมสัมมนาในระดับ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ตลอดจนที่พักของแขกบ้านแขกเมือง รวมถึงข้าราชการระดับสูง ส่วนประชาชนไว้วางใจใช้บริเวณโรงแรมเป็นสถานที่พักผ่อนและรับประทานอาหารพักผ่อนในยามค่ำอีกด้วย

แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากจะสะท้อนความรุนแรงที่ยังมีอยู่ทุกแห่ง แม้ในที่ที่คิดว่าปลอดภัย ยังเป็นภาพมุมกลับที่ตอกย้ำรักษาความปลอดภัยของภาครัฐที่มีช่องว่างและความร่วมมือของภาคประชาชนอีกด้วย ซึ่งปกติจะมีการตรวจค้นหรือตั้งด่านสกัด แต่ด้วยกำลังเจ้าหน้าที่มีจำกัดและไร้เครื่องมืออุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพกลายเป็นช่องว่าง และป้องกันได้น้อย ตราบเท่าที่รัฐไม่มีการปรับเปลี่ยนวิธี และทุ่มงบซื้อเครื่องมือทันสมัยมาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

รศ.ครองชัย กล่าวต่อด้วยว่า ในส่วนของความตื่นตระหนกนั้น คงต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งเยียวยาทางจิตใจ แต่ภาพของปัตตานีจะยิ่งย่ำแย่ลง แม้แต่ปัจจุบันเองก็มีเพียงงานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวที่จังหวัดพยายามสืบทอดและจัดอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อรักษาบรรยากาศการท่องเที่ยวให้คงอยู่ แม้ว่าจะมีเพียงคนในพื้นที่ให้ความสนใจ และได้ผลตอบรับในระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม หากมองลึกถึงผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวภายในจังหวัดแล้ว แทบจะไม่มีที่ยืน รายเล็กที่มีอยู่ก็กำลังจะย้ายออกนอกพื้นที่ เพราะทนต่อแรงกดดันด้านความไม่ปลอดภัยปัจจัยหลักที่สกัดการเติบโตของธุรกิจไม่ไหว

รศ.ครองชัย กล่าวด้วยว่า อีกเรื่องหนึ่งที่รัฐยังละเลย คือ การเพิ่มเบี้ยประกันภัยของบริษัทเอกชน ผลประกอบการที่ไม่เห็นกำไร และต้องเสี่ยงกับการตกเป็นเหยื่อเหตุร้ายสูงแล้วยังต้องจ่ายค่าประกันที่สูงอีกก็เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ เช่นเดียวกับแนวทางช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบที่ล่าช้า ซึ่งครั้งนี้ตนตกเป็นหนึ่งในผู้เสียหายด้วย ทำเห็นการทำงานของหน่วยงานรัฐที่ไม่เป็นเอกภาพ

“ในเรื่องการทำประกันภัยของผู้ประกอบการ เห็นว่า เป็นเรื่องดีที่จะบรรเทาความเสี่ยง แต่น่าแปลกใจที่รัฐไม่ลงมาดูแลเป็นรูปธรรมให้ครอบคลุมทั้ง 4 จังหวัดชายแดน หากไม่สามารถเจรจากับบริษัทเอกชนได้ก็ควรยื่นมือมาช่วยเหลือ หรือมิฉะนั้นก็ตั้งองค์กรของรัฐเองเพื่อรับประกันภัย ในรายที่เป็นระดับชาวบ้านที่บ้านเสียหายจากแรงระเบิดบริเวณโรงแรมซี.เอส.ประมาณ 50 คูหา ก็ได้รับการบอกต่อๆ กันมาว่าให้ถ่ายรูปเป็นหลักฐานแล้วแจ้งตำรวจ ซึ่งชาวบ้านก็ยังลังเลอยากจะซ่อมไปก่อน เพราะเป็นที่อยู่อาศัยต้องมีความปลอดภัยแต่ความช่วยเหลือนั้นยังมาไม่ถึง” รศ.ครองชัย กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น