xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” อัดรัฐดับไฟใต้สับสน-แนะแก้ไขปัญหาแบบองค์รวม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ ลิ้มทองกุล” ไล่กระตุกต่อมสำนึก จี้รัฐบาลดับไฟใต้ต้องแก้ปัญหาแบบองค์รวม แนะเพิ่มเงินเดือน ขรก.ที่ลงไปปฏิบัติในพื้นที่แบบดับเบิ้ล แต่ 10 ปีห้ามโยกย้ายไปไหน ขณะที่ นักวิจัยกลุ่มฮิวแมน ไรท์ส วอทช์ เชื่อความรุนแรงในภาคใต้จะเข้าสู่เวทีนานาชาติแน่

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ คนในข่าว

รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เอเอสทีวี คืนวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา นางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ผู้ดำเนินรายการ ได้เปิดประเด็นซักถาม ดร.พีรยศ ราฮิมมูลา ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ นายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล ส.ว.สรรหา ในฐานะกรรมการผู้จัดการ โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี และดร.ดนัย ผาสุข นักวิจัยของกลุ่มฮิวแมน ไรท์ส วอทช์ ถึงการเดินทางลงพื้นที่เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย

โดย ดร.พีรยศ เปิดเผยว่า หากผู้ใหญ่ของบ้านเมืองโดยเฉพาะรัฐมนตรียังใช้วิธีการแก้ไขแบบเดิมๆ ไม่ได้ลงไปสัมผัสพบปะประชาชน ผู้นำศาสนา รัฐบาลก็จะไม่ได้รับข้อมูลที่แท้จริง ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หลายรัฐบาลพยามยามลงไปแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้รับข้อมูลที่แท้จริง การดำเนินรวมทั้งการตัดสินใจของรัฐบาลจึงเกิดข้อผิดพลาด แก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด ยกตัวอย่างรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ตัดสินใจผิดพลาดด้วยการยุบ ศูนย์อำนวยการจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) ด้วยเหตุผลจากจดหมายของเจ้าหน้าที่บางหน่วยงาน ทำให้สถานการณ์รุนแรงเรื่อยมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

ดร.พีรยศ กล่าวอีกว่า การยุบ ศอ.บต.ในครั้งนั้น ส่งผลเสียมากทีเดียว เกิดช่องว่างระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารกับตำรวจที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ถูกปิดกั้นข้อมูลข่าวสารการเคลื่อนไหวของขบวนการต่างๆ สายข่าวจำนวนมากต้องสลายไปพร้อมๆ กับ ศอ.บต. ขณะเดียวกันรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังแก้ไขปัญหาอย่างเร่งรีบ ไม่คำนึงถึงผลได้ผลเสีย ปล่อยให้สถานการณ์บานปลายออกไป จนไม่สามารถฟื้นฟูวิกฤติที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องได้

นอกจากนี้ ดร.พีรยศ ยังตำหนิความรู้สึก “กลัวตาย” ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ที่อาจจะส่งผลเสียโดยตรงกับคนที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ ทำให้เกิดความหวาดกลัว ขวัญเสีย ซึ่งคนในระดับเสนาบดี เป็นถึงรัฐมนตรีไม่สมควรแสดงออกด้วยท่าทีในลักษณะนั้น ที่สำคัญนายกรัฐมนตรีก็ไม่ควรออกมาสนับสนุนท่าทีและแนวความคิดของ ร.ต.อ.เฉลิม เนื่องจากรัฐบาลต้องคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ด้วย

แนะรัฐยุติแก้ไขปัญหาด้วยความรุนแรง

ขณะที่ ดร.ดนัย กล่าวเสริมในประเด็นเดียวกันว่า การพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นการหยามน้ำใจคนที่กล้าอาสาสมัคร เอาตัวไปเสี่ยงแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งๆที่วันนี้รัฐบาลไม่ได้ส่งสัญญาณให้เห็นถึงความสำเร็จ แต่ข้าราชการทุกคนที่เกี่ยงข้อง ก็ยังปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุด

ส่วนกรณีที่รัฐบาลหวั่นปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้จะลามไปสู่เวทีระดับนานาชาตินั้น นักวิจัยของกลุ่มฮิวแมน ไรท์ส วอทช์ ระบุว่า รัฐบาลคงหลีกเลี่ยงความสนใจจากนานาชาติไม่ได้ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหา ภาพความรุนแรงในการปราบปรามที่ผ่านมา เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ปมความขัดแย้งนำไปสู่เวทีนานาชาติ นอกจากนี้โลกมุสลิมยังมองรัฐบาลพยายามใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา จงใจให้เกิดการบาดเจ็บล้มตาย คนมุสลิมมองกำลังถูกเลือกปฏิบัติ ไม่ได้รับความยุติธรรมจากภาครัฐ ดังนั้นรัฐบาลในฐานะที่มีอำนาจสามารถเข้าไปแก้ไขปัญหา ควรยุติธรรมบทบาทแบบสองมาตรฐาน เพื่อให้เกิดความเข้าใจของทั้งสองฝ่ายในอนาคต

ขณะที่นายอนุศาสน์ เหยื่อรายล่าสุดจากเหตุลอบวางระเบิดที่โรงแรมซี.เอส.เปิดเผยว่า โรงแรมซี.เอส.ไม่เคยมีเหตุร้ายเกิดขึ้นตั้งแต่งเปิดให้บริการ และเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นโรงแรมซี.เอส.ก็ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ เพื่อรักษาความภาพลักษณ์ของจังหวัด เนื่องจากเป็นศูนย์กลางการประชุมสัมมาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานราชการเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ทุกคนคาดหวังว่ารัฐบาลจะแก้ไขปัญหาได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

“สนธิ” ย้ำนโยบายดับไฟใต้ ต้องเลิกโม้

ต่อมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้โทรศัพท์แสดงความคิดเห็นในรายการว่า ตนเป็นคนแรกๆ ที่เสนอให้มีการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในลักษณะที่เป็นองค์รวม โดยเฉพาะแนวความคิดที่เสนอให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเขตปกครองเศรษฐกิจพิเศษ ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาอย่างหนักและต่อเนื่อง

นายสนธิ กล่าวว่า ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มันต้องแก้ไขปัญหาด้วยองค์รวม แต่ยังไม่รัฐบาลใดที่จริงใจและจริงจังในการแก้ไขปัญหาแบบองค์รวม มีแต่ปากกล้าขาสั่น โดยเฉพาะสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ยิ่งแก้ไขยิ่งหนัก พยามยามสร้างภาพลวงตาโดยการนำเอา ส.ส.อีสาน หลายคนลงไปในพื้นที่ เป็นการสร้างภาพโดยแท้ของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ

นอกจากนี้ ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยการยกเลิกการเสียภาษีให้กับนักธุรกิจและผู้ประกอบการที่อยู่ในพื้นที่ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้คนเหล่านั้นมีกำลังใจที่อยู่สู้ต่อไป อีกทั้งยังเป็นแรงดึงดูดให้นักธุรกิจจากนอกพื้นที่เข้าไปลงทุนในพื้นที่ดังกล่าวอีกด้วย

ขณะเดียวกัน การโยกย้ายข้าราชการลงไปปฏิบัติหน้าที่ รัฐบาลต้องเพิ่มแรงจูงใจโดยการเพิ่มเงินเดือนแบบดับเบิ้ล แต่ต้องมีข้อแม้ คือ 10 ปี ห้ามโยกย้ายกลับ ไม่ใช่ไปเอาแค่ตำแหน่งเพียงปีหรือสองปีแล้วขอกลับ นอกจากนี้รัฐบาลก็อย่ามัวมาถมน้ำลายรดฟ้า คุยโวโอ้อวด ไม่มีใครลงไปแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังเสียที นอกจากนี้ การที่ ร.ต.อ.เฉลิม โยนปัญหาให้ทหารรับผิดชอบก็ไม่ถูกต้อง เนื่องจากการแก้ไขปัญหาเป็นความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทยโดยตรง จะโยนความรับผิดชอบไปให้ทหารเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้








กำลังโหลดความคิดเห็น