ยะลา - ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการข่าวสาร กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ย้ำเน้นใช้สันติวิธีแก้ปัญหาความไม่สงบ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระบุ กรณีข่าวการจับนักศึกษาไปซ้อมไม่เป็นความจริง ผู้ถูกจับเป็นผู้ก่อความไม่สงบแฝงตัวอยู่ในกลุ่มนักศึกษา
วันนี้ (9 มี.ค.) ที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการข่าวสาร กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า ผู้บัญชาการทหารบก ได้เน้นย้ำว่า การสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ จะต้องใช้สันติวิธีเป็นหลัก ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมทุกๆ ขั้นตอน มาตรการใดๆ ก็แล้วแต่ ที่ไม่สามารถปฏิบัติตามนโยบายนี้ ให้มีการปรับเปลี่ยนผ่อนปรน หรือพยายามผ่อนตามให้เกิดภาพของการปฏิบัติในการแก้ปัญหา หรือการยุติปัญหาโดยสันติวิธี ให้ประชาชนได้รับรู้
มารตรการที่ผู้บังคับหน่วยในพื้นที่ ได้ประกาศไม่ให้ญาติพี่น้องได้ติดตามมาเยี่ยม หรือติดตามมาพูดคุย กับผู้ต้องสงสัยที่เชิญตัวมาในช่วง 3 วันแรกนั้นก็ให้ยกเลิก ไม่มีการควบคุมการปฏิบัติเช่นนั้นตั้งแต่นาทีแรกที่ถูกควบคุมตัว สามารถที่จะพูดคุยเยี่ยมได้ ถ้าไม่ได้พูดคุย ก็สามารถเห็นกันได้ ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทำการสอบถาม ญาติอาจจะไม่ได้เข้าร่วมสามารถรับรู้ได้โดยมีความมั่นใจ มีคำกล่าวที่ว่า ในขณะนี้ผู้ต้องสงสัยหลายคนอาจจะถูกทางเจ้าหน้าที่ซ้อมทารุณ
อย่างกรณีที่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ที่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ได้ มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ว่าเป็นผู้กระทำ เรื่องนี้ทางเราได้ชี้แจงกับสาธารณะให้รับทราบแล้วว่า ไม่มีการซ้อมทารุณแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ไม่ได้ไปจับกุมนักศึกษา แต่เจ้าหน้าที่ไปจับผู้ก่อความไม่สงบที่แอบอยู่ในคราบของนักศึกษา และแอบไปพักอยู่รวมกันกับหอพัก บ้านเช่ากับนักศึกษา
เมื่อจับมาแล้ว ถ้าหากอยู่ด้วยกันกับผู้กระทำความผิดก็ต้องนำตัวมาสอบสวนทุกคน ว่า ใครบ้างเป็นคนผิดใครบ้างเป็นคนที่บริสุทธิ์ เมื่อพบว่าในกลุ่มที่ถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวมานั้น ไม่มีใครผิดก็จะทำการปล่อยตัวกลับ หากในกลุ่มนั้นมีผู้กระทำความผิดก็จะต้องทำตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนที่ทางอุสตาซ (ครูสอนศาสนา) ของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา จะเดินทางเข้ามาพบกับ พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 นั้น ตนเองยังไม่ทราบรายละเอียดว่าจะพบในเรื่องใดบ้าง ต้องรอในวันพรุ่งนี้ (9 มี.ค.) แต่คิดว่าน่าจะเป็นการมาปรึกษาหารือในด้านต่างๆ เกี่ยวกับการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ หากพบเห็นบุคคลต้องสงสัยหรือสิ่งผิดปกติ กรุณา โทร.แจ้ง 1341 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้ (9 มี.ค.) ที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการข่าวสาร กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า ผู้บัญชาการทหารบก ได้เน้นย้ำว่า การสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ จะต้องใช้สันติวิธีเป็นหลัก ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมทุกๆ ขั้นตอน มาตรการใดๆ ก็แล้วแต่ ที่ไม่สามารถปฏิบัติตามนโยบายนี้ ให้มีการปรับเปลี่ยนผ่อนปรน หรือพยายามผ่อนตามให้เกิดภาพของการปฏิบัติในการแก้ปัญหา หรือการยุติปัญหาโดยสันติวิธี ให้ประชาชนได้รับรู้
มารตรการที่ผู้บังคับหน่วยในพื้นที่ ได้ประกาศไม่ให้ญาติพี่น้องได้ติดตามมาเยี่ยม หรือติดตามมาพูดคุย กับผู้ต้องสงสัยที่เชิญตัวมาในช่วง 3 วันแรกนั้นก็ให้ยกเลิก ไม่มีการควบคุมการปฏิบัติเช่นนั้นตั้งแต่นาทีแรกที่ถูกควบคุมตัว สามารถที่จะพูดคุยเยี่ยมได้ ถ้าไม่ได้พูดคุย ก็สามารถเห็นกันได้ ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทำการสอบถาม ญาติอาจจะไม่ได้เข้าร่วมสามารถรับรู้ได้โดยมีความมั่นใจ มีคำกล่าวที่ว่า ในขณะนี้ผู้ต้องสงสัยหลายคนอาจจะถูกทางเจ้าหน้าที่ซ้อมทารุณ
อย่างกรณีที่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ที่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ได้ มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ว่าเป็นผู้กระทำ เรื่องนี้ทางเราได้ชี้แจงกับสาธารณะให้รับทราบแล้วว่า ไม่มีการซ้อมทารุณแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ไม่ได้ไปจับกุมนักศึกษา แต่เจ้าหน้าที่ไปจับผู้ก่อความไม่สงบที่แอบอยู่ในคราบของนักศึกษา และแอบไปพักอยู่รวมกันกับหอพัก บ้านเช่ากับนักศึกษา
เมื่อจับมาแล้ว ถ้าหากอยู่ด้วยกันกับผู้กระทำความผิดก็ต้องนำตัวมาสอบสวนทุกคน ว่า ใครบ้างเป็นคนผิดใครบ้างเป็นคนที่บริสุทธิ์ เมื่อพบว่าในกลุ่มที่ถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวมานั้น ไม่มีใครผิดก็จะทำการปล่อยตัวกลับ หากในกลุ่มนั้นมีผู้กระทำความผิดก็จะต้องทำตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนที่ทางอุสตาซ (ครูสอนศาสนา) ของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา จะเดินทางเข้ามาพบกับ พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 นั้น ตนเองยังไม่ทราบรายละเอียดว่าจะพบในเรื่องใดบ้าง ต้องรอในวันพรุ่งนี้ (9 มี.ค.) แต่คิดว่าน่าจะเป็นการมาปรึกษาหารือในด้านต่างๆ เกี่ยวกับการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ หากพบเห็นบุคคลต้องสงสัยหรือสิ่งผิดปกติ กรุณา โทร.แจ้ง 1341 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง