ยะลา - ผบ.ทบ.พร้อมคณะเดินทางมาตรวจเยี่ยม และติดตามผลการขับเคลื่อนนโยบายด้านความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระบุกรณีเจ้าหน้าที่รัฐ ตกเป็นผู้ต้องสงสัยขายความลับชาติ หากพบผิดจริงให้ดำเนินการตามกฎหมาย โดยไม่มีข้อยกเว้น พร้อมจะมีการกลั่นกรองอย่างเข้มงวดเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านการข่าว
วันนี้ (11 ม.ค.) เวลา 12.30 น.ที่ กอ.รมน.ภาค 4 ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วย พล.อ.มนตรี ชมพูจันทร์ เสนาธิการทหารบก ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยม และติดตามความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนนโยบายการรักษาความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 และเจ้าหน้าที่ทหาร ให้การต้อนรับ และบรรยายสรุปข้อมูลผลการปฏิบัติงานในระยะเวลาที่ผ่านมา
พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า การเดินทางมาปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ เพื่อเยี่ยมเยียนกำลังพล และตรวจติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายของกองทัพบกในการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายหลังได้วางยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ และบูรณาการภารกิจให้นำไปสู่ความสงบสุขของประชาชน ซึ่งได้มีการติดตามผลการจัดกำลังพล
การผลัดเปลี่ยนหน่วย การปฏิบัติงานประจำของกองบัญชาการผสม พลเรือน ตำรวจ ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ สงขลา สถานการณ์ด้านการข่าวของหน่วย 251 ผลการปฏิบัติการตำรวจส่วนหน้า และ ศอ.บต.ซึ่งภายหลังได้ร่วมหารือและกำหนดแนวทางการปฏิบัติ เพื่อให้สามารถลดปัญหาอุปสรรค ตลอดทั้งข้อจำกัดและข้อขัดข้องต่างๆ ให้สามารถควบคุมสถานการณ์ในภาพรวมได้ตรงตามเป้าหมาย
ทั้งนี้ ยังได้มอบนโยบายและแนวทางให้กำลังพลและหน่วยขึ้นตรง ได้ทำงานร่วมกันอย่างประสานสอดคล้อง และช่วยกันดูแลกำลังพลให้มีขวัญและกำลังใจ เพื่อให้มีพลังในการปฏิบัติงานและสามารถทำงานให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนในเรื่องที่ได้นำนายทหาร จ.ส.อ.และ ข้าราชการพลเรือนรวม 3 นาย ไปซักถามข้อมูลที่ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจแห่งชาติส่วนหน้ายะลา นั้น ตนได้มอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ในการหาข้อมูล และความจริงว่า ทั้ง 3 นาย นำข้อมูลไปเปิดเผยกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ หรือข้อมูลถูกโจรกรรมไป หากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนแล้ว ปรากฏว่า ทั้ง 3 มีมูลความผิดจริง ให้ลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพราะทำให้เกิดผลกระทบทางด้านการทหาร และด้านความมั่นคง
ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ทางด้านการข่าวคนอื่นๆ ทางเราจะต้องทำการตรวจเช็กประวัติ และพฤติกรรม อย่างละเอียด ผู้ที่จะเข้ามาทำงานในด้านการข่าวไม่ว่าทุกภาคส่วนต้องหาคนทำงานที่มีความโปร่งใส่ และทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองจริงๆ
พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของความปลอดภัย และ ความสงบเรียบร้อยในวันเด็กแห่งชาติ ทั้งในภาพรวมของทั่วประเทศ และในส่วนของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มการเผ้าระวังดูแลความปลอดภัย เพื่อให้เด็กและผู้ปกครองได้เกิดความเชื่อมั่นในความปลอดภัย และได้ประสานงานกับส่วนราชการทั้งระดับจังหวัด อำเภอ และท้องถิ่น ในการอำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้ปกครองและเด็กอย่างเต็มที่
