00 จะด้วยความเป็นจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือความบังเอิญก็เหลือเดา เมื่อ “แม้ว” นายใหญ่เจ้าของพรรคตัวจริงมาถึง สีหน้าท่าทางของนายกฯหุ่นเชิด ก็เริ่มหมองคล้ำ ไร้คนสนใจ ตอกย้ำความจริงให้เจ็บปวดหัวใจคนแก่กันอีกครั้ง
00 เพราะภาพเก่าๆในอดีตก็หวนกลับมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นบรรดารัฐมนตรีที่แห่แหนกันไปต้อนรับ อำนวยความสะดวก พินอบพิเทาแทบจะอุ้มออกมาจากสนามบิน เรียกได้ว่าทุกอย่าง “จัดให้” อย่างอลังการน่าชื่นชม แม้ว่าคราวนี้จะไม่มีรายการอึกทึกครึกโครมเหมือนกับการก้มกราบโชว์เมื่อปลายเดือนกุมภาฯ แต่ถ้าวัดกันระดับ “ลิ่วล้อ” ทั้งหัวแถว-ปลายแถว ต่างตบเท้าไปรอเสนอหน้าล้วนยังมั่นคงน่าชื่นใจเหมือนเดิม
00 ว่ากันว่าการกลับไทยก่อนกำหนดของ “เฮียแม้ว” ครั้งนี้นอกจากมา “คุมเกม” ด้วยตัวเองหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ เนื่องจากถือว่าเป็นหัวใจสำคัญที่สุด หากผลักดันดำเนินการได้เป็นผลสำเร็จ นอกจากมีโอกาสที่จะได้ทรัพย์สินคืนแล้วยังหวนคืนสู่อำนาจในฐานะ “ผู้นำหน้าเหลี่ยม” ได้อีกรอบ
00 ขณะเดียวกันเวลานี้ยังมีนักวิชาการกลุ่มหนึ่งที่ท่องตำราประชาธิปไตย เน้นแต่ที่มาว่าเป็นผลผลิตเผด็จการ ออกมารับลูกเสนอให้แก้ไขยกล็อต มันก็เข้าทางพอดี เพราะถ้าแก้ทั้งฉบับมัน ก็ต้องพ่วง มาตรา 237 ลุ้นล้างยุบพรรค และ มาตรา 309 โอกาสหนีพ้นคดีทุจริตที่มีเป็นพรวน และหวนคืนอำนาจก็สำเร็จไม่ยาก เพราะทำให้คำสั่ง คปค.ในอดีตที่เกี่ยวพันกับองค์กรต่างๆในอดีตเป็นโมฆะ ได้ตีปีกสบายแฮ
00 ทุกอย่างทำท่าไปได้สวย แต่มาสะดุดทำให้เสียอารมณ์เอาตรงที่ “นอมินีหมัก” คิดนอกกรอบออกมายืนขวางไม่เห็นด้วยกับการเสนอแก้ไขมาตรา 309 พร้อมคิดเองเออเองเสร็จสรรพว่า “เชยสุดสุด” แถมแก้ไขไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะมันไม่มีผลย้อนหลัง หมายความว่า แก้ไขไปก็ไลฟ์บอย เพราะ “ไอ้เรื่องที่หวังว่าจะได้พ้นโทษ คืนเวทีการเมืองนั้นอย่าหวัง” อะไรประมาณนั้น แถมยังอ้างสาเหตุเป็นชนวนให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองตามมาอีก
00 เรื่องอื่นยังพอทำเนา แต่เรื่องแบบนี้มันทำให้ “หัวเสีย” เพราะทุกอย่างกำลังลื่นไหล แต่ดันมีคนมาขัดคอเสียนี่ เห็นท่าจะอยู่ด้วยกันลำบาก
00 หลายคนเริ่มสังเกตเห็นอาการภายในพรรคพลังประชาชนเวลานี้ “เริ่มรวน” รวมกันไม่ค่อยติดคนนี้ไปทาง อีกคนไปทาง เอาแค่เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ “หมัก” กับอดีตทนายหน้าหอ ที่ได้ดีเป็นเจ้ากระทรวงบัวแก้วเบื้องต้นเห็นตรงกันว่าอย่าไปยุ่งกับ มาตรา 309 หรือแม้แต่ ส.ส.หน้าใหม่ภาคอีสานหลายคนก็ขวางไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญด้วยซ้ำ อ้างต้องรีบแก้ปัญหาชาวบ้านที่เดือนร้อนก่อน
00 แต่ถ้าจะให้จับไต๋กันให้ดีก็น่าจะเดาออกว่า ในเมื่อรู้ตัวว่าเป็น “นอมินี” ก็ต้องหาทางขัดขวางไม่ให้ “ตัวจริง” กลับมานั่งเก้าอี้ตัวเดิม ของอย่างนี้ถ้ามีโอกาสก็ต้องขัดขาเอาไว้ก่อน
00 ดังนั้นการกลับมาของ“นายใหญ่” เที่ยวนี้น่าจะมีวาระเร่งด่วน 2-3 อย่าง นอกเหนือจากเรื่องคดีโกงที่ต้องเตรียมการอยู่แล้วตามปกติแล้ว คือ หนึ่งต้องรีบมาคุมเกมภายในพรรคก่อนที่แตกกลุ่มก๊วนรวมกันไม่ติด สองมาบัญชาการเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ และที่สำคัญอีกไม่กี่วันก็ถึงวาระการโยกย้ายข้าราชการครั้งใหญ่ แม้จะยังไม่ชัด จริงไม่จริงไม่รู้ แต่ก็เริ่มมีสัญญาณพิรุธออกมาให้เห็นบ้างแล้ว
00 สำหรับกรณี “ลุงหมัก” เวลานี้ถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะดูตามอาการแล้ว “เจ้าของ” ไม่น่าจะปลื้มเท่าไหร่ ซวยละซี !!
00 เพราะภาพเก่าๆในอดีตก็หวนกลับมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นบรรดารัฐมนตรีที่แห่แหนกันไปต้อนรับ อำนวยความสะดวก พินอบพิเทาแทบจะอุ้มออกมาจากสนามบิน เรียกได้ว่าทุกอย่าง “จัดให้” อย่างอลังการน่าชื่นชม แม้ว่าคราวนี้จะไม่มีรายการอึกทึกครึกโครมเหมือนกับการก้มกราบโชว์เมื่อปลายเดือนกุมภาฯ แต่ถ้าวัดกันระดับ “ลิ่วล้อ” ทั้งหัวแถว-ปลายแถว ต่างตบเท้าไปรอเสนอหน้าล้วนยังมั่นคงน่าชื่นใจเหมือนเดิม
00 ว่ากันว่าการกลับไทยก่อนกำหนดของ “เฮียแม้ว” ครั้งนี้นอกจากมา “คุมเกม” ด้วยตัวเองหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ เนื่องจากถือว่าเป็นหัวใจสำคัญที่สุด หากผลักดันดำเนินการได้เป็นผลสำเร็จ นอกจากมีโอกาสที่จะได้ทรัพย์สินคืนแล้วยังหวนคืนสู่อำนาจในฐานะ “ผู้นำหน้าเหลี่ยม” ได้อีกรอบ
00 ขณะเดียวกันเวลานี้ยังมีนักวิชาการกลุ่มหนึ่งที่ท่องตำราประชาธิปไตย เน้นแต่ที่มาว่าเป็นผลผลิตเผด็จการ ออกมารับลูกเสนอให้แก้ไขยกล็อต มันก็เข้าทางพอดี เพราะถ้าแก้ทั้งฉบับมัน ก็ต้องพ่วง มาตรา 237 ลุ้นล้างยุบพรรค และ มาตรา 309 โอกาสหนีพ้นคดีทุจริตที่มีเป็นพรวน และหวนคืนอำนาจก็สำเร็จไม่ยาก เพราะทำให้คำสั่ง คปค.ในอดีตที่เกี่ยวพันกับองค์กรต่างๆในอดีตเป็นโมฆะ ได้ตีปีกสบายแฮ
00 ทุกอย่างทำท่าไปได้สวย แต่มาสะดุดทำให้เสียอารมณ์เอาตรงที่ “นอมินีหมัก” คิดนอกกรอบออกมายืนขวางไม่เห็นด้วยกับการเสนอแก้ไขมาตรา 309 พร้อมคิดเองเออเองเสร็จสรรพว่า “เชยสุดสุด” แถมแก้ไขไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะมันไม่มีผลย้อนหลัง หมายความว่า แก้ไขไปก็ไลฟ์บอย เพราะ “ไอ้เรื่องที่หวังว่าจะได้พ้นโทษ คืนเวทีการเมืองนั้นอย่าหวัง” อะไรประมาณนั้น แถมยังอ้างสาเหตุเป็นชนวนให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองตามมาอีก
00 เรื่องอื่นยังพอทำเนา แต่เรื่องแบบนี้มันทำให้ “หัวเสีย” เพราะทุกอย่างกำลังลื่นไหล แต่ดันมีคนมาขัดคอเสียนี่ เห็นท่าจะอยู่ด้วยกันลำบาก
00 หลายคนเริ่มสังเกตเห็นอาการภายในพรรคพลังประชาชนเวลานี้ “เริ่มรวน” รวมกันไม่ค่อยติดคนนี้ไปทาง อีกคนไปทาง เอาแค่เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ “หมัก” กับอดีตทนายหน้าหอ ที่ได้ดีเป็นเจ้ากระทรวงบัวแก้วเบื้องต้นเห็นตรงกันว่าอย่าไปยุ่งกับ มาตรา 309 หรือแม้แต่ ส.ส.หน้าใหม่ภาคอีสานหลายคนก็ขวางไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญด้วยซ้ำ อ้างต้องรีบแก้ปัญหาชาวบ้านที่เดือนร้อนก่อน
00 แต่ถ้าจะให้จับไต๋กันให้ดีก็น่าจะเดาออกว่า ในเมื่อรู้ตัวว่าเป็น “นอมินี” ก็ต้องหาทางขัดขวางไม่ให้ “ตัวจริง” กลับมานั่งเก้าอี้ตัวเดิม ของอย่างนี้ถ้ามีโอกาสก็ต้องขัดขาเอาไว้ก่อน
00 ดังนั้นการกลับมาของ“นายใหญ่” เที่ยวนี้น่าจะมีวาระเร่งด่วน 2-3 อย่าง นอกเหนือจากเรื่องคดีโกงที่ต้องเตรียมการอยู่แล้วตามปกติแล้ว คือ หนึ่งต้องรีบมาคุมเกมภายในพรรคก่อนที่แตกกลุ่มก๊วนรวมกันไม่ติด สองมาบัญชาการเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ และที่สำคัญอีกไม่กี่วันก็ถึงวาระการโยกย้ายข้าราชการครั้งใหญ่ แม้จะยังไม่ชัด จริงไม่จริงไม่รู้ แต่ก็เริ่มมีสัญญาณพิรุธออกมาให้เห็นบ้างแล้ว
00 สำหรับกรณี “ลุงหมัก” เวลานี้ถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะดูตามอาการแล้ว “เจ้าของ” ไม่น่าจะปลื้มเท่าไหร่ ซวยละซี !!