ปชป..ซัด “เป็ดเหลิม” ไร้ผลงานมีแต่ตามไล่บี้โจทก์เก่า ท้าแน่จริงอย่าเลือกปฎิวัติ ทวงที่ดิน “บุรีรัมย์-วังน้ำเย็น” คืนรัฐ ด้าน ดีเอสไอ แจ้ง เสนอเพิกถอนเอกสารสิทธิ นส.3 ก.ของ “ศรีสุบรรณ ฟาร์ม” แล้ว 70 ไร้ หลังรับเรื่องร้องทุกข์ เหลืออีก 2 พันไร่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการทำติดตาม การทำงานของร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ว่า 2 เดือน ที่ผ่านมา รมว.มหาดไทย ไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหายาเสพติด และเรื่องลักเล็กขโมยน้อยที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะสัปดาห์ที่ผ่านมา กลับใช้เวลาทั้งหมด ในการให้สัมภาษณ์สื่อ ด่ากราดระรานคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามหรือคนที่ไม่ใช่พวก อาทิ เรื่องที่ดินที่ จ.นครราชสีมา คล้ายจะไปข่มขู่ พูดบังคับ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ดำเนิน คดีนายตำรวจใหญ่ 2 นาย หรือ เรื่องที่ดินของนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ จ.สุราษฎ์ธานี ซึ่งทั้ง 2 เรื่อง เหมือนเป็นการแก้แค้นส่วนตัว
“อย่างเรื่องนายตำรวจใหญ่ ที่ไม่ได้ช่วยเหลือกรณีที่ลูกชายของ ร.ต.อ.เฉลิม ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ฆ่า จึงเก็บความแค้นไว้หลายปี ทั้งนี้เรื่องที่ดินของ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นการซื้อมาโดยสุจริต มีกฎหมายคุ้มครอง ที่ออกมา โจมตีจึงเป็นการทำลายล้างการเมืองฝ่ายตรงข้าม แถมยังด่ากราด บอก ว่า ทำงานมา 2 เดือน มีผลงานมากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำงานมา 4 ปี
“ผมกำลังจะติดตามสถิติเรื่องยาเสพติด เรื่องลักเล็กขโมยน้อย จะลดลงหรือไม่ ในอีก 2 เดือนข้างหน้า และรมว.มหาดไทย อย่าเลือกปฏิบัติ โดยเฉพาะเรื่องที่ดิน การรถไฟที่ จ.บุรีรัมย์ ของคนตระกูล ชิดชอบ ที่กำลังดำเนินคดีอาญา และและที่ดินวังน้ำเขียวว่าจะมีวิธีใดที่กลับคืนมาเป็นของประเทศให้ได้ เป็นต้น”
พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงข่าว กรณีการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ที่ดินเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ ของบริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณว่า เมื่อประมาณปี 2548 นายวิลาส ไกรวงศ์ กำนันตำบลน้ำหัก อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราฎร์ธานี ได้ถวายฎีกาขอพระราชทานความเป็นธรรม เกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิ์ทับที่สาธารณะ บริเวณ ต.น้ำหัก อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ฯ และได้เข้าร้องทุกข์กับดีเอสไอ ขณะนั้น พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ เป็นอธิบดีดีเอสไอ จึงได้มีคำสั่งให้นายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบข้อเท็จจริง
เบื้องต้นพบว่า บริษัท ทักษิณปาล์ม จำกัด ได้กว้านซื้อที่ดินใน อ.คีรีรัฐนิคม โดย ใช้ชื่อคนงานในบริษัทฯ ซึ่งไม่ใช่เป็นผู้ครอบครองที่ดินจริง มาแสดงตนเป็น ผู้ครอบครองที่ดิน และนำมาขอเอกสารสิทธิ นส.3 ก. ต่อมาในปี 2529 บริษัท ทักษิณ ปาล์ม ได้โอนขายที่ดินให้บริษัท ไทยมาเลเซียนเกษตร จำกัด
จนท้ายที่สุดที่ดิน ถูกบังคับจำนอง โดยกรมบังคับคดีนำมาขายทอดตลาด โดย บริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด ได้ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดของกรมบังคับคดี และฟ้องขับไล่ชาวบ้าน ซึ่งอาศัยอยู่ในที่ดินผืนดังกล่าว
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า ดีเอสไอ ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงมาโดยตลอด แต่ยังไม่ได้รับเป็นคดีพิเศษ ที่ผ่านมาดีเอสไอได้มีหนังสือไปยังกรมที่ดินให้เพิกถอน เอกสารสิทธิที่ดิน 45 แปลง รวมเนื้อที่ 700 ไร่ ส่วนที่ดิน อีก 81 แปลง เนื้อกว่า 2,000 ไร่ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของดีเอสไอ
อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนเพิกถอนที่ดินอยู่ระหว่างการดำเนินการของกรมที่ดิน และอยู่ในขั้นตอนการรอฟังคำพิพากษาของศาลในคดีการฟ้องขับไล่ เนื่องจากในการ พิจารณามีการพิสูจน์แนวเขตว่ามีการออกเอกสารสิทธิทับที่สาธารณะหรือไม่
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ ออกมาระบุว่า ดีเอสไอไม่ได้รับทำคดี กรณีบริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม เนื่องจากการตรวจสอบในครั้งแรก ไม่พบชื่อบริษัท ศรีสุบรรณฯ แต่เมื่อตรวจสอบซ้ำอีกครั้ง พบว่า ผู้ร้อง ได้เข้าร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับบริษัท ทักษิณปาล์ม ซึ่งเป็นผู้เข้ามากว้านซื้อที่ดิน และดำเนินการขอออกเอกสารสิทธิ ต่อมาจึงมีการขายทอดตลาดมาให้บริษัทศรีสุบรรณฟาร์ม
นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการทำติดตาม การทำงานของร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ว่า 2 เดือน ที่ผ่านมา รมว.มหาดไทย ไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหายาเสพติด และเรื่องลักเล็กขโมยน้อยที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะสัปดาห์ที่ผ่านมา กลับใช้เวลาทั้งหมด ในการให้สัมภาษณ์สื่อ ด่ากราดระรานคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามหรือคนที่ไม่ใช่พวก อาทิ เรื่องที่ดินที่ จ.นครราชสีมา คล้ายจะไปข่มขู่ พูดบังคับ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ดำเนิน คดีนายตำรวจใหญ่ 2 นาย หรือ เรื่องที่ดินของนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ จ.สุราษฎ์ธานี ซึ่งทั้ง 2 เรื่อง เหมือนเป็นการแก้แค้นส่วนตัว
“อย่างเรื่องนายตำรวจใหญ่ ที่ไม่ได้ช่วยเหลือกรณีที่ลูกชายของ ร.ต.อ.เฉลิม ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ฆ่า จึงเก็บความแค้นไว้หลายปี ทั้งนี้เรื่องที่ดินของ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นการซื้อมาโดยสุจริต มีกฎหมายคุ้มครอง ที่ออกมา โจมตีจึงเป็นการทำลายล้างการเมืองฝ่ายตรงข้าม แถมยังด่ากราด บอก ว่า ทำงานมา 2 เดือน มีผลงานมากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำงานมา 4 ปี
“ผมกำลังจะติดตามสถิติเรื่องยาเสพติด เรื่องลักเล็กขโมยน้อย จะลดลงหรือไม่ ในอีก 2 เดือนข้างหน้า และรมว.มหาดไทย อย่าเลือกปฏิบัติ โดยเฉพาะเรื่องที่ดิน การรถไฟที่ จ.บุรีรัมย์ ของคนตระกูล ชิดชอบ ที่กำลังดำเนินคดีอาญา และและที่ดินวังน้ำเขียวว่าจะมีวิธีใดที่กลับคืนมาเป็นของประเทศให้ได้ เป็นต้น”
พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงข่าว กรณีการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ที่ดินเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ ของบริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณว่า เมื่อประมาณปี 2548 นายวิลาส ไกรวงศ์ กำนันตำบลน้ำหัก อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราฎร์ธานี ได้ถวายฎีกาขอพระราชทานความเป็นธรรม เกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิ์ทับที่สาธารณะ บริเวณ ต.น้ำหัก อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ฯ และได้เข้าร้องทุกข์กับดีเอสไอ ขณะนั้น พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ เป็นอธิบดีดีเอสไอ จึงได้มีคำสั่งให้นายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบข้อเท็จจริง
เบื้องต้นพบว่า บริษัท ทักษิณปาล์ม จำกัด ได้กว้านซื้อที่ดินใน อ.คีรีรัฐนิคม โดย ใช้ชื่อคนงานในบริษัทฯ ซึ่งไม่ใช่เป็นผู้ครอบครองที่ดินจริง มาแสดงตนเป็น ผู้ครอบครองที่ดิน และนำมาขอเอกสารสิทธิ นส.3 ก. ต่อมาในปี 2529 บริษัท ทักษิณ ปาล์ม ได้โอนขายที่ดินให้บริษัท ไทยมาเลเซียนเกษตร จำกัด
จนท้ายที่สุดที่ดิน ถูกบังคับจำนอง โดยกรมบังคับคดีนำมาขายทอดตลาด โดย บริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด ได้ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดของกรมบังคับคดี และฟ้องขับไล่ชาวบ้าน ซึ่งอาศัยอยู่ในที่ดินผืนดังกล่าว
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า ดีเอสไอ ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงมาโดยตลอด แต่ยังไม่ได้รับเป็นคดีพิเศษ ที่ผ่านมาดีเอสไอได้มีหนังสือไปยังกรมที่ดินให้เพิกถอน เอกสารสิทธิที่ดิน 45 แปลง รวมเนื้อที่ 700 ไร่ ส่วนที่ดิน อีก 81 แปลง เนื้อกว่า 2,000 ไร่ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของดีเอสไอ
อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนเพิกถอนที่ดินอยู่ระหว่างการดำเนินการของกรมที่ดิน และอยู่ในขั้นตอนการรอฟังคำพิพากษาของศาลในคดีการฟ้องขับไล่ เนื่องจากในการ พิจารณามีการพิสูจน์แนวเขตว่ามีการออกเอกสารสิทธิทับที่สาธารณะหรือไม่
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ ออกมาระบุว่า ดีเอสไอไม่ได้รับทำคดี กรณีบริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม เนื่องจากการตรวจสอบในครั้งแรก ไม่พบชื่อบริษัท ศรีสุบรรณฯ แต่เมื่อตรวจสอบซ้ำอีกครั้ง พบว่า ผู้ร้อง ได้เข้าร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับบริษัท ทักษิณปาล์ม ซึ่งเป็นผู้เข้ามากว้านซื้อที่ดิน และดำเนินการขอออกเอกสารสิทธิ ต่อมาจึงมีการขายทอดตลาดมาให้บริษัทศรีสุบรรณฟาร์ม