xs
xsm
sm
md
lg

ตรรกะ “เหลิม” อ้างคนเลือก “พลังแม้ว” ไปแก้ รธน.หรือทำอะไรก็ได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เหลิม” อ้างตรรกะ ชาวบ้านเลือกพลังประชาชนเข้าไปแล้ว แก้รัฐธรรมนูญหรือทำอะไรก็ได้ถือว่าได้ฉันทานุมัติแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลก ส่วนเรื่องกล่าวหา “สุเทพ” รุกป่าที่สุราษฎร์ฯ เริ่มเสียงอ่อยเฉไฉอ้างฟังผิด แค่ไปตรวจสอบการออกครอบครองที่ดินราชการ ถ้าไม่ผิดก็จบ

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ให้สัมภาษณ์

วันนี้ (25 มี.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการเสนอให้มีการลงสัตยาบันร่วมกันในพรรคร่วมรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่ายังไม่ทราบรายละเอียด เพราะไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องซีเรียส โดยเฉพาะพรรคพลังประชาชน ตนและนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี พร้อมแกนนำพรรคได้ปราศรัยว่าให้ใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไปก่อนและมาแก้ทีหลัง อะไรดีก็คงไว้ โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญปี 40 มีส่วนดีเยอะก็มารวมกันเพื่อพิจารณาแก้ไข เมื่อถึงเวลาแก้ไขแล้วก็ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้น ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยในการแก้รัฐธรรมนูญคงจะไม่เลือกพรรคประชาชนเข้ามา 233 เสียง

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเชิญพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนตอบแทนพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้ แต่ทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน

นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่าจะฟ้องร้องกรณีที่ออกมาระบุว่าบริษัท ศรีสุบรรณ ของนายสุเทพ บุกรุกพื้นที่สาธารณะในอำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี กว่า 2 พันไร่ว่า จะเรียนอย่างนี้ว่า นายสุเทพฟังผิดและก็ไม่เข้าใจ เหตุเพราะเดิมทีมีเกษตรกรทำกินในที่ดินแปลงนี้ซึ่งมีประมาณ 6 พันไร่ เป็นที่สาธารณประโยชน์ ต่อมามีบริษัทนายทุนซึ่งอยู่ต่างถิ่นมาขอเอกสารสิทธิ และพอออกเอกสารสิทธิได้ น.ส.3 ก.ใส่ชื่อประชาชน 81 รายโดยประมาณ เมื่อนายทุนสามารถออกเอกสารสิทธิโดยใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือได้แล้วก็รวบรวมไปขายให้บริษัทหนึ่ง ต่อจากนั้นก็มีการไปขายให้บริษัทที่ 3 ซึ่งบริษัทที่ 3 ก็ได้นำไปจำนองกับธนาคารกรุงไทย และปล่อยให้ถูกยึดเพื่อนำมาขายทอดตลาด จากนั้นบริษัท ศรีสุบรรณ ได้มาซื้อ ซึ่งนายสุเทพได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่ารู้จักกับบริษัทดังกล่าวก็เป็นเรื่องของนายสุเทพ

รมว.มหาดไทย กล่าวต่อว่า เรื่องนี้มีคนร้องทุกข์ตั้งแต่ 2547 โดยกำนันตำบลน้ำผุด โดยมีการร้องผ่านผู้ตรวจการรัฐสภา รัฐบาล กระทรวงยุติธรรม ร้องกับผู้ว่าฯ แต่ก็ไม่มีใครดำเนินการ จนกระทั่งมาร้อง มท.1 โดยเขาบอกว่าที่ตรงนี้ออกเอกสารสิทธิไม่ได้เพราะเป็นที่สาธารณประโยชน์ ซึ่งตนได้ตรวจสอบก็พบว่าเป็นที่สาธารณะจริงๆ โดยที่ผ่านมาไม่ใครกล้าดำเนินการ กลัวกันหมด

“ผมจะตั้งกรรมการโดยให้กรมที่ดินไปดำเนินการ ถ้าตรวจสอบพบว่าเป็นที่สาธารณประโยชน์ต้องสั่งให้ถอนเอกสารสิทธิ ซึ่งเรียกว่าเพิกถอนเอกสารสิทธิ เพราะเป็นการออกโดยมิชอบโดยกฎหมาย เมื่อเพิกถอนเอกสารสิทธิแล้วบริษัทไหนที่ซื้อมาจากการขายทอดตลาดก็เรื่องของท่าน ท่านก็ต้องไปไล่เบี้ยกันเอาเองระหว่างบริษัทต่างๆ เหตุจะเกิดตั้งแต่ปีไหนก็แล้วแต่ ที่ของทางราชการนับอายุความไม่ได้ รู้ว่าความผิดเกิดเมื่อไรก็นับหนึ่งเมื่อนั้น เดี๋ยวผมจะสั่งกรมที่ดินตรวจสอบ 60 วันก็รู้ผลครอบครองได้หรือไม่ ส่วนประชาธิปัตย์ถ้าคิดว่าผมไปหาเรื่องก็คิดผิดแล้ว ถ้าคิดอย่างนั้นไม่ถูกต้อง เพราะมีการร้องตั้งแต่ปี 47 ถ้ามาร้องผมแล้วผมไม่ทำก็เท่ากับผมละเว้น แต่ถ้าหากเพิกถอนสิทธิไม่ได้ก็แล้วไป ฝากไปบอกคุณสุเทพไม่ต้องมาข่มขู่ผมหรอกเรื่องฟ้องร้อง เชิญนิมนต์” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

เมื่อถามว่า นายสุเทพอ้างว่าถ้าหากเป็นอย่างนี้ความผิดก็สาวไปถึงหน่วยราชการได้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่พูดถึงตรงนั้น ตนพูดแต่เพียงว่าถ้าเริ่มต้นมันออก น.ส.3 ก.ไม่ได้ เราก็เพิกถอนสิทธิก็จบ ส่วนนายสุเทพซื้อที่ดินมาจากไหนก็ไปไล่เบี้ยกันเอาเองไม่ใช่เรื่องของตน ไม่ใช่เรื่องของกรมที่ดิน อย่ามาร้องแรกแหกกระเชอ ตนไม่ได้กลั่นแกล้ง ไปตรวจสอบดูได้ เอกสารมันมี

“ผู้สื่อข่าวอย่าไปมองเรื่องนี้ว่าเป็นการกลั่นแกล้ง ถามว่าผิดไหมถ้าไม่ผิดก็จบ ถ้าผิดก็เพิกถอนสิทธิ ศรีสุบรรณเสียหายก็ไปไล่เบี้ยกันเองก็มีเท่านี้แหละ” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายค้านระบุว่า หยิบยกเรื่องนี้เพื่อเป็นเกมการเมือง รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ก็หยิบยกเรื่องนี้เข้าสภายื่นญัตติได้ นอกจากนี้ ที่จังหวัดสุราษฎร์ฯ ตนได้ให้อธิบดีกรมการปกครองไปสมุย เดี๋ยวก็รู้ว่ามีใครครอบครองที่หลวง ตนเอาจริงเอาจัง ผิดว่าตามผิดใครจะว่าช่างเขา มั่นใจว่าตนมาทำให้บ้านเมือง ไม่ได้ทำเอาเอง

เมื่อถามว่า ส่วนที่ดินที่ปากช่องที่พบว่ามีอดีตนายตำรวจใช้ชื่อผู้อื่นถือสิทธิครอบครอง จะสาวถึงผู้บงการใหญ่ได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า กรณีการบุกรุกถ้ามีชื่อไปร่วมด้วยก็ผิดแล้ว ที่ตรงนี้มันง่ายสอบ 10 นาทีก็เสร็จ “หากคนจนบุกรุกต้องใช้รัฐศาสตร์นำนิติศาสตร์ แต่ถ้าคนรวยบุกรุก คุกก็จบ” ส่วนคนที่บุกรุกแว่วๆ เป็นนักการเมืองเหมือนกัน แต่ไม่ว่าจะเป็นใครต้องดำเนินการเหมือนกันเสมอภาค ไม่มีอภิสิทธิชนในยุครัฐบาลสมัครส่วนที่มีการพบว่าคนของพรรคพลังประชาชนบุกรุกที่ดินด้วยนั้น ไม่ว่าจะเป็นใครก็โดนเหมือนกัน ส่วนที่วังน้ำเขียวก็ได้สั่งการไปแล้วกำลังดำเนินการอยู่ ทั้งผู้ว่าฯ และนายอำเภอ ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นระดับผู้บริหาร ใครครอบครองก็ซวยไป

“ที่ผ่านมารัฐมนตรีมหาดไทยไม่เอาจริง เจ้าหน้าที่ก็กลัว ที่ปากช่องผู้ว่าฯ ก็ทำยึกยัก เมื่อวานบอกว่าทำได้ไหมทำผิดอย่างนี้ ถ้าทำไม่ได้ก็มานั่งหน้าห้องผม ซัก 2 สัปดาห์พักร้อน เขาก็บอกว่าได้ครับๆ และช่วงบ่ายจะไปกล่าวโทษ พบการกระทำผิด บิ๊กตำรวจไป รถนำรถตามยังมีเยอะ ออกไปตั้งหลายปีแล้วยังแอ็กอาร์ต ไปร้านอาหาร คนไปนั่งใกล้ก็ไม่ได้ แล้วยังมีการชวนคนไปดื่มไวน์โต๊ะม้าหินอ่อนในบ้านหลังนี้ พยานสอบไว้หมดแล้ว ซึ่งจากการอ่านเอกสาร ผมคิดว่าอาจจะเข้าคุกด้วย แล้วไม่ต้องมาขู่ผมหรอก จะรื้อคดีนั้นคดีนี้ เชิญชวนนิมนต์เถอะพ่อมหาจำเริญ ผมมีกลัวบ้างไม่กลัวบ้าง ถึงเวลาไม่กลัวมีแตกหัก” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

/0110
กำลังโหลดความคิดเห็น