ภัยแล้งคุกคามบุรีรัมย์หนัก-ต้องแย่งกันซื้อน้ำจากพ่อค้ารถเร่

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - บุรีรัมย์โดนภัยแล้งคุกคามหนัก ชาวบ้าน 2 หมู่บ้าน อ.ลำปลายมาศ กว่า 220 ครัวเรือน ต้องแย่งกันรับบัตรคิวรอซื้อน้ำอุปโภคบริโภคจากพ่อค้าเร่ราคาแพงถึงรถละ 120 -150 บาท หลังแหล่งน้ำสาธารณะถูกบุกรุกถมดินออกสารสิทธิ์มานานกว่า 10 ปี ร้องหน่วยงานรัฐเข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดบุรีรัมย์ ว่า ภัยแล้งเริ่มคุกคามบุรีรัมย์หนัก ล่าสุดชาวบ้าน บ.ค้อพัฒนา ม.7 และ ม.14 ต.โคกสะอาด อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ กว่า 220 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค เนื่องจากไม่มีประปา บ่อบาดาล และ “หนองปุ๊ก” แหล่งน้ำสาธารณะเพียงแห่งเดียวที่ชาวบ้านใช้ในการอุปโภคบริโภคร่วมกัน ได้มีผู้บุกรุกถมดินออกเอกสารสิทธิ์ครอบครองมานานกว่า 10 ปี ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนไม่มีแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคในช่วงหน้าแล้ง

ส่วนน้ำที่กักเก็บไว้ในภาชนะในช่วงหน้าฝนก็ใช้จนหมดแล้ว ชาวบ้านต้องแย่งกันรับบัตรคิวรอซื้อน้ำจากพ่อค้ารถเร่ ที่บรรทุกน้ำมาเร่ขายตามหมู่บ้าน เพื่อนำไปอุปโภคบริโภค ในราคาสูงถึงรถละ 120- 150 บาท ส่วนรถเข็นราคารถละ 20 บาท ซึ่งในแต่ละปีชาวบ้านต้องซื้อน้ำอุปโภคบริโภคครัวเรือนละ 8,000 -10,000 บาท สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ส่วนใหญ่ชาวบ้านมีอาชีพทำนา และรับจ้าง มีรายได้น้อย แต่ต้องมาซื้อน้ำอุปโภคบริโภคเป็นประจำทุกปี จึงเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง มาทำการขุดลอกแหล่งน้ำ ก่อสร้างระบบประปาหมู่บ้าน เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่ต้องประสบกับภาวะภัยแล้งขาดแคลนน้ำดังกล่าวด้วย

นายเปล่ง เขื่อนแก้ว อายุ 53 ปี สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)โคกสะอาด บ.ค้อพัฒนา ม.7 ต.โคกสะอาด อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ หนึ่งในผู้เดือดร้อน กล่าวว่า ชาวบ้านต้องประสบปัญหาภัยแล้งซื้อน้ำอุปโภคบริโภคมานานกว่า 10 ปี อยากให้ทางจังหวัดบุรีรัมย์ และสำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ เร่งเพิกถอนสิทธิ์ผู้บุกรุกออกสารสิทธิ์ครอบครองแหล่งน้ำสาธารณะหนองปุ๊ก เพื่อที่ทาง อบต.จะได้ทำการขุดลอกกักเก็บน้ำ และใช้ในการผลิตประปาหมู่บ้าน ให้ชาวบ้านสามารถอุปโภคบริโภคได้ตลอดทั้งปีอย่างเร่งด่วนด้วย

ด้าน นายอ้วน หอมดี อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 บ.ค้อพัฒนา ม.7 ต.โคกสะอาด อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า บ.ค้อพัฒนา ได้ประสบปัญหาภัยแล้งเป็นประจำทุกปี และชาวบ้านในหมู่บ้านก็ต้องซื้อน้ำดื่มน้ำใช้ทุกปีเช่นกัน เพราะไม่มีประปา บ่อบาดาล ส่วนหนองน้ำสาธารณะ หนองปุ๊ก ก็มีผู้เข้าไปบุกรุกครอบครอง ถึงแม้ชาวบ้านจะร่วมกันร้องเรียน จนล่าสุดทางภาครัฐได้มีมติให้เพิกถอนสิทธิ์ผู้บุกรุกแล้วเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2550 ที่ผ่าน แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ดำเนินการแต่อย่างใด

“ทำให้ชาวบ้านต้องประสบปัญหาเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะต้องซื้อน้ำกินน้ำใช้ ปีละ 8,000-10,000 บาท ลำพังชาวบ้านซึ่งมีอาชีพทำนา และรับจ้าง จะซื้อข้าวกินก็จะไม่เพียงพออยู่แล้ว ยังต้องมาซื้อน้ำอุปโภคบริโภค จึงวอนให้ทางภาครัฐเร่งดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว ให้แล้วเสร็จโดยเร่งด่วนด้วย เพื่อชาวบ้านจะได้ไม่ต้องซื้อน้ำกินน้ำใช้อีกต่อไป” นายอ้วน กล่าว