"ทาทา" ทุ่ม 2,300 ล้านเหรียญ ซื้อ "จากัวร์-แลนด์โรเวอร์" จากฟอร์ด โดยที่ฟอร์ดขายในราคาต่ำกว่าที่ซื้อ บอสใหญ่บินตรงไทยเปิดตัวปิคอัพในงานมอเตอร์โชว์ ผู้จัดงานคาดยอดจองในงานทะลุ 15,000 คัน เงินสะพัดกว่า 22,000 ล้านบาท มอเตอร์โชว์ปีนี้เปิดตัวคึกคักสวนทางการเมืองวุ่นวาย ค่ายรถทั้งหน้าเก่า รายใหม่ ระดมคอนเซปต์ คาร์ และรถรุ่นล่าสุดอวดโฉมเต็มเวที
"ทาทามอเตอร์ส" ค่ายรถยักษ์ใหญ่แห่งอินเดีย ประกาศซื้อกิจการจากัวร์และแลนด์โรเวอร์ สองแบรนด์รถยนต์หรูหราจากฟอร์ด ค่ายรถยักษ์ใหญ่อันดับสองในสหรัฐฯ ในราคา 2,300 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ ตามข้อตกลง ฟอร์ดจะยังรับผิดชอบแผนการบำนาญของพนักงานจากัวร์และแลนด์โรเวอร์โดยจ่ายเงินส่วนนี้สูงสุด 600 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ฟอร์ดยังจะส่งเครื่องยนต์และชิ้นส่วนอื่นๆ รวมทั้งให้การสนับสนุนด้านวิศวกรรม แก่ตาต้า
ฟอร์ดได้เงินจากการขายจากัวร์และแลนด์โรเวอร์ให้กับตาต้า น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของเงินที่ฟอร์ดจ่ายไปเพื่อเทคโอเวอร์แบรนด์รถยนต์ทั้งสองที่เคยครองอุตสาหกรรมยานยนต์เมืองผู้ดี ทั้งนี้ ฟอร์ดทุ่มเงิน 2,500 ล้านดอลลาร์ ซื้อกิจการจากัวร์ ในปี1989 และจ่ายเงินไป 2,700 ล้านดอลลาร์ ซื้อกิจการแลนด์โรเวอร์ ในปี 2000
ยิ่งไปกว่านั้น ฟอร์ดยังต้องอัดฉีดเงินอีกหลายล้านดอลลาร์เพื่อฟื้นฟูแบรนด์ทั้งสองให้ทำกำไร ทว่า ในปัจจุบัน จากัวร์ก็ยังคงไม่ทำกำไร ขณะที่แลนด์โรเวอร์อยู่ในฐานะที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ฟอร์ดไม่ได้แสดงตัวเลขผลกำไรของแบรนด์ทั้งสอง
ทางด้าน นายอลัน มูลัลลี ซีอีโอของฟอร์ด แถลงว่า ณ ตอนนี้ ฟอร์ดจะมุ่งบูรณาการแบรนด์ของฟอร์ดในทั่วโลก โดยจะใช้แผนทำให้ฟอร์ดมอเตอร์ส ซึ่งเป็นกิจการหลักของค่ายรถรายใหญ่แห่งแดนลุงแซม แข็งแกร่งมากขึ้น
ทั้งนี้ สองปีที่ผ่านมา ฟอร์ดขาดทุนมหาศาลถึง 15,300 ล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์กล่าวว่าทาทาจะสร้างการก้าวกระโดดทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่ด้วยการเข้าถึงเครื่องยนต์อันซับซ้อนของจากัวร์และแลนด์โรเวอร์ อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่าหลังจากนี้ทาทาจะเผชิญกับความท้าทาย 2 ประการ ประการแรกก็คือ จะทำอย่างไรจึงจะฟื้นยอดขายของจากัวร์และแลนด์โรเวอร์ที่กำลังลดต่ำลง ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงขาลง ส่งผลให้ความต้องการรถยนต์หรูหราลดลง
ความท้าทายประการที่สองก็คือ ผู้ซื้ออาจจะไม่ไว้วางใจรถยนต์แบรนด์หรูที่ผลิตโดยบริษัทอินเดีย
นายระวิ คานท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทาทา มอเตอร์ส อินเดีย บินตรงมาแถลงข่าวในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นเนล มอเตอร์โชว์ 2008 พร้อมเปิดเผยถึงแผนการรุกตลาดไทยว่า การที่บริษัทตัดสินใจซื้อกิจการของจากัวร์และแลนด์โรเวอร์ จากฟอร์ดกรุ๊ป ด้วยมูลค่ากว่า 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ นั้น บริษัทมองว่าเป็นการลงทุนระยะยาว เนื่องจากตราสินค้าของทั้ง 2 ยี่ห้อนั้น นับว่ามีมูลค่าสูงมากในทางธุรกิจ ซึ่งทาทาเองมองเรื่องการลงทุนในระยะยาวกว่า 3-4 ทศวรรษอยู่แล้ว จึงไม่ได้มองว่าจะต้องเร่งทำกำไรอะไร แต่หากดูจากผลประกอบการของจากัวร์ ที่ตลาดให้การยอมรับรถรุ่นใหม่อย่าง เอ็กซ์เค และเอ็กซ์เอฟใหม่ แล้วมียอดจองกว่า 1.5 หมื่นคัน ก็ถือว่ามีทิศทางที่ดี ซึ่งแผนงานทั้งหมดและแผนการลงทุน คาดว่าจะสรุปภายในไม่กี่เดือนจากนี้
สำหรับการเข้ามาทำตลาดรถยนต์ครั้งแรกในไทยด้วยการเปิดตัว รถปิกอัพ ซีนอน ราคาเริ่มต้น 5.39 แสนบาท จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี เพราะ ได้ทำการศึกษาวิจัยตลาดมาพอสมควรและที่สำคัญประเทศไทยเป็นตลาดรถปิกอัพที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากอเมริกาดังนั้น การเข้ามาของจึงถือเป็นการลงทุนในระยะยาว และในอนาคตบริษัทกำลังศึกษาเครื่องยนต์ซีเอ็นจีเพื่อติดตั้งในรถปิกอัพซีนอน ซึ่งเรื่องนี้เรากำลังศึกษาอยู่คาดว่าจะสรุปได้ครึ่งปีหลัง
เปิดมอเตอร์โชว์คึกสวนทางการเมือง
สำหรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นเนล มอเตอร์โชว์ 2008 เปิดฉากเป็นทางการแล้วเมื่อวานนี้ โดยรอบประชาชนทั่วไปมีขึ้น ระหว่าง 28 มีนาคม ถึง 6 เมษายน ณ ศูนย์นิทรรศการ ไบเทค บางนา นายสตีเฟน คาร์ไลส์ ประธานกรรมการ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสต์เอเชีย โอเปอเรชั่นส์ จำกัด และ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2008 ได้เปิดตัวเชฟโรเลต โคโลราโด CNG ราคา 6.34 – 7.39 แสนบาท ตั้งยอดขายไว้ 200 คันในปีนี้ ซึ่งถือเป็นปิกอัพคันแรกในเมืองไทยที่ใช้ระบบเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ รวมถึง โคโลราโด รุ่นพื้นกระบะท้ายเรียบ(Flat Deck) ราคา 5.04 แสนบาท และช่วงปลายปีบริษัทเตรียมเปิดตัวรถยนต์นั่ง(อาวีโอ,ออพตร้า)ที่เครื่องยนต์สามรถรองรับน้ำมันแก็ซโซฮอล์ อี20 อีกด้วย
ค่ายมิตซูบิชิ นายมิจิโร อิมาอิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า บริษัทกำลังศึกษาการประกอบรถแลนเซอร์ ซีเอ็นจี ใหม่ โดยจะทำการติดตั้งจากโรงงานประกอบ สำหรับเครื่องยนต์จะเลือกตัว 1600 ซีซี เนื่องจากเหมาะสมกับตัวบอดี้และราคา ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 1O% ของยอดขายรถทุกรุ่น ส่วนแลนเซอร์ใหม่ คาดว่าจะประกอบ 2 รุ่นคือ เครื่องยนต์ 1800 ซีซี และ 2000 ซีซี แต่ทั้งสองรุ่นยังไม่สามารถที่จะจำหน่ายได้ในปีนี้
ส่วนเจ้าตลาดรถหรู เมอร์เซเดสเบนซ์ มีการเปิดตัวรถสปอร์ตใหม่สองรุ่น คือ เอสแอล 350 และเอสแอลเค 200 ซึ่งสร้างความฮือฮาให้กับผู้ชมไม่น้อยเนื่องจากเป็นการเปิดพวงมาลัยขวาของโลกที่เมืองไทย เน้นเรื่องของแบรนด์อิมเมจมากกว่ายอดขาย
นายเทียรี่ เวียดิว กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามนิสสัน ออโต้ โมบิล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทวางเครื่องยนต์คอมมอลเรล 2.5 ลิตร 133 แรงม้า รุ่นใหม่ ในปิกอัพตัวถังซิงเกิ้ลแค็บ ฟรอนเทียร์ โฉมเดิม ซึ่งราคาจะถูกกว่า ฟรอนเทียร์ นาวารา รุ่นใหม่ ตัวถังซิงเกิ้ลแค็บ อยู่ 6-7 หมื่นบาท โดยปีนี้วางเป้ายอดขายไว้ 1,500 ส่วนปิกอัพ ฟรอนเทียร์ นาวารา ใหม่ ตั้งเป้าอยู่ที่ 8,000 – 10,000 คัน
อีกค่ายน้องใหม่ของงาน “เอ็มทีเอ็ม” ปีนี้นำรถสปอร์ต เอ็มทีเอ็ม ออดี้ เอส 5 มาเปิดตัวด้วยราคา 9.7 ล้านบาท รวมถึงนำ เอ็มทีเอ็ม ออดี้ รุ่น ทีที คอนเวิร์ททิเบิ้ล มาเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทยด้วย โดยนายสุวิชชา ลีนุตพงษ์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ็มทีเอ็ม เทคนิค ไมเยอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งเป้ายอดจำหน่ายในงานนี้ไว้ที่ประมาณ 40 คัน
นางสาว วิชชุดา ลีนุตพงษ์ กรรมการบริหาร บริษัท ยนตกิจ กรุ๊ป กล่าวว่า บริษัทฯ นำรถ “มิตซึโอกะ กาลู ลีมูซีน” มาเปิดตัวครั้งแรกในโลกในงานนี้ที่ไทย โดยกาลู ลีมูซีน มีความยาวถึง 5.5 เมตรยาวกว่ารุ่นปกติถึง 50 เซนติเมตร ราคา 5.85 ล้านบาท พร้อมกับนำรถสปอร์ต โอโรชิ ซึ่งมีราคาถึง 11.7 ล้านบาท มาแสดง และตั้งเป้าจำหน่ายสำหรับงานนี้ไว้ 30 คัน
ด้านผู้จัดงานคาดการณ์ยอดจองรถยนต์ในงานจะไม่ต่ำกว่า 15,000 คัน และมีเงินสะพัดกว่า 22,000 ล้านบาท
"ทาทามอเตอร์ส" ค่ายรถยักษ์ใหญ่แห่งอินเดีย ประกาศซื้อกิจการจากัวร์และแลนด์โรเวอร์ สองแบรนด์รถยนต์หรูหราจากฟอร์ด ค่ายรถยักษ์ใหญ่อันดับสองในสหรัฐฯ ในราคา 2,300 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ ตามข้อตกลง ฟอร์ดจะยังรับผิดชอบแผนการบำนาญของพนักงานจากัวร์และแลนด์โรเวอร์โดยจ่ายเงินส่วนนี้สูงสุด 600 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ฟอร์ดยังจะส่งเครื่องยนต์และชิ้นส่วนอื่นๆ รวมทั้งให้การสนับสนุนด้านวิศวกรรม แก่ตาต้า
ฟอร์ดได้เงินจากการขายจากัวร์และแลนด์โรเวอร์ให้กับตาต้า น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของเงินที่ฟอร์ดจ่ายไปเพื่อเทคโอเวอร์แบรนด์รถยนต์ทั้งสองที่เคยครองอุตสาหกรรมยานยนต์เมืองผู้ดี ทั้งนี้ ฟอร์ดทุ่มเงิน 2,500 ล้านดอลลาร์ ซื้อกิจการจากัวร์ ในปี1989 และจ่ายเงินไป 2,700 ล้านดอลลาร์ ซื้อกิจการแลนด์โรเวอร์ ในปี 2000
ยิ่งไปกว่านั้น ฟอร์ดยังต้องอัดฉีดเงินอีกหลายล้านดอลลาร์เพื่อฟื้นฟูแบรนด์ทั้งสองให้ทำกำไร ทว่า ในปัจจุบัน จากัวร์ก็ยังคงไม่ทำกำไร ขณะที่แลนด์โรเวอร์อยู่ในฐานะที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ฟอร์ดไม่ได้แสดงตัวเลขผลกำไรของแบรนด์ทั้งสอง
ทางด้าน นายอลัน มูลัลลี ซีอีโอของฟอร์ด แถลงว่า ณ ตอนนี้ ฟอร์ดจะมุ่งบูรณาการแบรนด์ของฟอร์ดในทั่วโลก โดยจะใช้แผนทำให้ฟอร์ดมอเตอร์ส ซึ่งเป็นกิจการหลักของค่ายรถรายใหญ่แห่งแดนลุงแซม แข็งแกร่งมากขึ้น
ทั้งนี้ สองปีที่ผ่านมา ฟอร์ดขาดทุนมหาศาลถึง 15,300 ล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์กล่าวว่าทาทาจะสร้างการก้าวกระโดดทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่ด้วยการเข้าถึงเครื่องยนต์อันซับซ้อนของจากัวร์และแลนด์โรเวอร์ อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่าหลังจากนี้ทาทาจะเผชิญกับความท้าทาย 2 ประการ ประการแรกก็คือ จะทำอย่างไรจึงจะฟื้นยอดขายของจากัวร์และแลนด์โรเวอร์ที่กำลังลดต่ำลง ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงขาลง ส่งผลให้ความต้องการรถยนต์หรูหราลดลง
ความท้าทายประการที่สองก็คือ ผู้ซื้ออาจจะไม่ไว้วางใจรถยนต์แบรนด์หรูที่ผลิตโดยบริษัทอินเดีย
นายระวิ คานท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทาทา มอเตอร์ส อินเดีย บินตรงมาแถลงข่าวในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นเนล มอเตอร์โชว์ 2008 พร้อมเปิดเผยถึงแผนการรุกตลาดไทยว่า การที่บริษัทตัดสินใจซื้อกิจการของจากัวร์และแลนด์โรเวอร์ จากฟอร์ดกรุ๊ป ด้วยมูลค่ากว่า 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ นั้น บริษัทมองว่าเป็นการลงทุนระยะยาว เนื่องจากตราสินค้าของทั้ง 2 ยี่ห้อนั้น นับว่ามีมูลค่าสูงมากในทางธุรกิจ ซึ่งทาทาเองมองเรื่องการลงทุนในระยะยาวกว่า 3-4 ทศวรรษอยู่แล้ว จึงไม่ได้มองว่าจะต้องเร่งทำกำไรอะไร แต่หากดูจากผลประกอบการของจากัวร์ ที่ตลาดให้การยอมรับรถรุ่นใหม่อย่าง เอ็กซ์เค และเอ็กซ์เอฟใหม่ แล้วมียอดจองกว่า 1.5 หมื่นคัน ก็ถือว่ามีทิศทางที่ดี ซึ่งแผนงานทั้งหมดและแผนการลงทุน คาดว่าจะสรุปภายในไม่กี่เดือนจากนี้
สำหรับการเข้ามาทำตลาดรถยนต์ครั้งแรกในไทยด้วยการเปิดตัว รถปิกอัพ ซีนอน ราคาเริ่มต้น 5.39 แสนบาท จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี เพราะ ได้ทำการศึกษาวิจัยตลาดมาพอสมควรและที่สำคัญประเทศไทยเป็นตลาดรถปิกอัพที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากอเมริกาดังนั้น การเข้ามาของจึงถือเป็นการลงทุนในระยะยาว และในอนาคตบริษัทกำลังศึกษาเครื่องยนต์ซีเอ็นจีเพื่อติดตั้งในรถปิกอัพซีนอน ซึ่งเรื่องนี้เรากำลังศึกษาอยู่คาดว่าจะสรุปได้ครึ่งปีหลัง
เปิดมอเตอร์โชว์คึกสวนทางการเมือง
สำหรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นเนล มอเตอร์โชว์ 2008 เปิดฉากเป็นทางการแล้วเมื่อวานนี้ โดยรอบประชาชนทั่วไปมีขึ้น ระหว่าง 28 มีนาคม ถึง 6 เมษายน ณ ศูนย์นิทรรศการ ไบเทค บางนา นายสตีเฟน คาร์ไลส์ ประธานกรรมการ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสต์เอเชีย โอเปอเรชั่นส์ จำกัด และ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2008 ได้เปิดตัวเชฟโรเลต โคโลราโด CNG ราคา 6.34 – 7.39 แสนบาท ตั้งยอดขายไว้ 200 คันในปีนี้ ซึ่งถือเป็นปิกอัพคันแรกในเมืองไทยที่ใช้ระบบเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ รวมถึง โคโลราโด รุ่นพื้นกระบะท้ายเรียบ(Flat Deck) ราคา 5.04 แสนบาท และช่วงปลายปีบริษัทเตรียมเปิดตัวรถยนต์นั่ง(อาวีโอ,ออพตร้า)ที่เครื่องยนต์สามรถรองรับน้ำมันแก็ซโซฮอล์ อี20 อีกด้วย
ค่ายมิตซูบิชิ นายมิจิโร อิมาอิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า บริษัทกำลังศึกษาการประกอบรถแลนเซอร์ ซีเอ็นจี ใหม่ โดยจะทำการติดตั้งจากโรงงานประกอบ สำหรับเครื่องยนต์จะเลือกตัว 1600 ซีซี เนื่องจากเหมาะสมกับตัวบอดี้และราคา ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 1O% ของยอดขายรถทุกรุ่น ส่วนแลนเซอร์ใหม่ คาดว่าจะประกอบ 2 รุ่นคือ เครื่องยนต์ 1800 ซีซี และ 2000 ซีซี แต่ทั้งสองรุ่นยังไม่สามารถที่จะจำหน่ายได้ในปีนี้
ส่วนเจ้าตลาดรถหรู เมอร์เซเดสเบนซ์ มีการเปิดตัวรถสปอร์ตใหม่สองรุ่น คือ เอสแอล 350 และเอสแอลเค 200 ซึ่งสร้างความฮือฮาให้กับผู้ชมไม่น้อยเนื่องจากเป็นการเปิดพวงมาลัยขวาของโลกที่เมืองไทย เน้นเรื่องของแบรนด์อิมเมจมากกว่ายอดขาย
นายเทียรี่ เวียดิว กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามนิสสัน ออโต้ โมบิล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทวางเครื่องยนต์คอมมอลเรล 2.5 ลิตร 133 แรงม้า รุ่นใหม่ ในปิกอัพตัวถังซิงเกิ้ลแค็บ ฟรอนเทียร์ โฉมเดิม ซึ่งราคาจะถูกกว่า ฟรอนเทียร์ นาวารา รุ่นใหม่ ตัวถังซิงเกิ้ลแค็บ อยู่ 6-7 หมื่นบาท โดยปีนี้วางเป้ายอดขายไว้ 1,500 ส่วนปิกอัพ ฟรอนเทียร์ นาวารา ใหม่ ตั้งเป้าอยู่ที่ 8,000 – 10,000 คัน
อีกค่ายน้องใหม่ของงาน “เอ็มทีเอ็ม” ปีนี้นำรถสปอร์ต เอ็มทีเอ็ม ออดี้ เอส 5 มาเปิดตัวด้วยราคา 9.7 ล้านบาท รวมถึงนำ เอ็มทีเอ็ม ออดี้ รุ่น ทีที คอนเวิร์ททิเบิ้ล มาเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทยด้วย โดยนายสุวิชชา ลีนุตพงษ์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ็มทีเอ็ม เทคนิค ไมเยอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งเป้ายอดจำหน่ายในงานนี้ไว้ที่ประมาณ 40 คัน
นางสาว วิชชุดา ลีนุตพงษ์ กรรมการบริหาร บริษัท ยนตกิจ กรุ๊ป กล่าวว่า บริษัทฯ นำรถ “มิตซึโอกะ กาลู ลีมูซีน” มาเปิดตัวครั้งแรกในโลกในงานนี้ที่ไทย โดยกาลู ลีมูซีน มีความยาวถึง 5.5 เมตรยาวกว่ารุ่นปกติถึง 50 เซนติเมตร ราคา 5.85 ล้านบาท พร้อมกับนำรถสปอร์ต โอโรชิ ซึ่งมีราคาถึง 11.7 ล้านบาท มาแสดง และตั้งเป้าจำหน่ายสำหรับงานนี้ไว้ 30 คัน
ด้านผู้จัดงานคาดการณ์ยอดจองรถยนต์ในงานจะไม่ต่ำกว่า 15,000 คัน และมีเงินสะพัดกว่า 22,000 ล้านบาท