ไฟแนนเชียลไทมส์ – ทหารเกาหลีใต้จะต้องลดการอาบน้ำลงเหลือเพียงสัปดาห์ละครั้ง ขณะที่นักบินกองทัพอากาศก็จะต้องฝึกบินกับคอมพิวเตอร์ให้มากขึ้น แทนการบินด้วยเครื่องบินขับไล่ของจริง ทั้งนี้สืบเนื่องจากราคาน้ำมันที่ทะยานแพงลิ่วเป็นประวัติการณ์ ทำให้กองทัพโสมขาวจำเป็นต้องใช้มาตรการอันเข้มงวดเพื่อตัดลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง
ตามคำบอกเล่าของนายทหารเกาหลีใต้ผู้หนึ่ง มาตรการดังกล่าวเหล่านี้ รวมทั้งมาตรการอื่นๆ อีก เป็นสิ่งที่ตกลงกันจากการประชุมฉุกเฉินเมื่อสัปดาห์ที่แล้วของบรรดานายทหารอาวุโสในกองทัพบก, เรือ, อากาศ เพื่อหารือกันเกี่ยวกับวิธีในการลดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิงของทั้ง 3 เหล่าทัพ
“เราต้องหามาตรการฉุกเฉินมาใช้เพื่อประหยัดต้นทุนด้านเชื้อเพลิง เนื่องจากราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นมากเหลือเกิน” กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ออกคำแถลงสำทับ พร้อมกับประมาณการว่า ด้วยการใช้มาตรการเข้มงวดต่างๆ ตามที่เสนอกันออกมาเหล่านี้ กองทัพจะสามารถประหยัดได้ประมาณ 77,000 ล้านวอน (76 ล้านดอลลาร์) หรือเท่ากับราว 11% ของยอดรายจ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิงประจำปี
รายละเอียดของมาตรการที่จะนำออกมาใช้เหล่านี้ มีอาทิ กองทัพอากาศวางแผนจะตัดลดชั่วโมงการฝึกบินของพวกนักบินลงจากปีละ 150 ชั่วโมง เหลือ 135 ชั่วโมง และจะบอกให้นักบินใช้ระบบคอมพิวเตอร์จำลองสถานการณ์การบิน แทนที่จะขึ้นบินด้วยเครื่องบินขับไล่ของจริง
ด้านกองทัพเรือจะบอกให้บรรดาเรือในสังกัดลดความเร็วลง ในเที่ยวเดินทางขากลับภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว นอกจากนั้นยังวางแผนจะปลดประจำการพวกเรือเก่าที่ขาดประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิง
แต่ทหารภารพื้นดินดูจะเป็นพวกที่เจอมาตรการโหดสุด โดยกองทัพบกวางแผนลดจำนวนทหารที่จะได้เข้าร่วมการฝึกภาคสนาม รวมทั้งระหว่างการฝึกดังกล่าว ก็จะตัดทอนการใช้อุปกรณ์ขนาดหนักที่กินน้ำมันมากๆ นอกจากนั้นยังจะบอกให้ทหารอาบน้ำเพียงสัปดาห์ละครั้ง
มาตรการรัดเข็มขัดคับติ้วของกองทัพเช่นนี้ สะท้อนให้เห็นความพยายามที่จะรับมือกับราคาน้ำมันแพงลิบของรัฐบาลโสมขาว โดยที่เกาหลีใต้มีฐานะเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของเอเชีย และก็เป็นผู้นำเข้าน้ำมันมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก
ประธานาธิบดีลีเมียงบัค ผู้ได้รับเลือกตั้งด้วยคำมั่นสัญญาที่จะปลุกให้เศรษฐกิจเติบโตอีกครั้ง ได้ออกมาเรียกร้องเมื่อเร็วๆ นี้ให้ใช้มาตรการประหยัดพลังงานกันอย่างสุดฤทธิ์ โดยเขาย้ำว่าราคาของพวกวัตถุดิบต่างๆ ที่กำลังทะยานโด่ง เป็นเรื่องที่รัฐบาลใหม่ของเขารู้สึกวิตกที่สุด
กระนั้นก็ตาม การลดฝึกทหารลงเพื่อประหยัดพลังงานก็เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมาย เมื่อพิจารณาถึงภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือที่เวลานี้ยังไม่ได้ทำลายคลังแสงนิวเคลียร์
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าเกาหลีเหนือกำลังสาหัสจากราคาเชื้อเพลิงยิ่งกว่าฝ่ายใต้นักหนา โดยกองทัพซึ่งมีกำลังพลถึง 1.2 ล้านคน ต้องจอดเครื่องบินรบที่เก่าชรา ตลอดจนเก็บรถถังเอาไว้แต่ในโรงเก็บมาเป็นเวลาหลายปีแล้วด้วยซ้ำ
ตามคำบอกเล่าของนายทหารเกาหลีใต้ผู้หนึ่ง มาตรการดังกล่าวเหล่านี้ รวมทั้งมาตรการอื่นๆ อีก เป็นสิ่งที่ตกลงกันจากการประชุมฉุกเฉินเมื่อสัปดาห์ที่แล้วของบรรดานายทหารอาวุโสในกองทัพบก, เรือ, อากาศ เพื่อหารือกันเกี่ยวกับวิธีในการลดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิงของทั้ง 3 เหล่าทัพ
“เราต้องหามาตรการฉุกเฉินมาใช้เพื่อประหยัดต้นทุนด้านเชื้อเพลิง เนื่องจากราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นมากเหลือเกิน” กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ออกคำแถลงสำทับ พร้อมกับประมาณการว่า ด้วยการใช้มาตรการเข้มงวดต่างๆ ตามที่เสนอกันออกมาเหล่านี้ กองทัพจะสามารถประหยัดได้ประมาณ 77,000 ล้านวอน (76 ล้านดอลลาร์) หรือเท่ากับราว 11% ของยอดรายจ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิงประจำปี
รายละเอียดของมาตรการที่จะนำออกมาใช้เหล่านี้ มีอาทิ กองทัพอากาศวางแผนจะตัดลดชั่วโมงการฝึกบินของพวกนักบินลงจากปีละ 150 ชั่วโมง เหลือ 135 ชั่วโมง และจะบอกให้นักบินใช้ระบบคอมพิวเตอร์จำลองสถานการณ์การบิน แทนที่จะขึ้นบินด้วยเครื่องบินขับไล่ของจริง
ด้านกองทัพเรือจะบอกให้บรรดาเรือในสังกัดลดความเร็วลง ในเที่ยวเดินทางขากลับภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว นอกจากนั้นยังวางแผนจะปลดประจำการพวกเรือเก่าที่ขาดประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิง
แต่ทหารภารพื้นดินดูจะเป็นพวกที่เจอมาตรการโหดสุด โดยกองทัพบกวางแผนลดจำนวนทหารที่จะได้เข้าร่วมการฝึกภาคสนาม รวมทั้งระหว่างการฝึกดังกล่าว ก็จะตัดทอนการใช้อุปกรณ์ขนาดหนักที่กินน้ำมันมากๆ นอกจากนั้นยังจะบอกให้ทหารอาบน้ำเพียงสัปดาห์ละครั้ง
มาตรการรัดเข็มขัดคับติ้วของกองทัพเช่นนี้ สะท้อนให้เห็นความพยายามที่จะรับมือกับราคาน้ำมันแพงลิบของรัฐบาลโสมขาว โดยที่เกาหลีใต้มีฐานะเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของเอเชีย และก็เป็นผู้นำเข้าน้ำมันมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก
ประธานาธิบดีลีเมียงบัค ผู้ได้รับเลือกตั้งด้วยคำมั่นสัญญาที่จะปลุกให้เศรษฐกิจเติบโตอีกครั้ง ได้ออกมาเรียกร้องเมื่อเร็วๆ นี้ให้ใช้มาตรการประหยัดพลังงานกันอย่างสุดฤทธิ์ โดยเขาย้ำว่าราคาของพวกวัตถุดิบต่างๆ ที่กำลังทะยานโด่ง เป็นเรื่องที่รัฐบาลใหม่ของเขารู้สึกวิตกที่สุด
กระนั้นก็ตาม การลดฝึกทหารลงเพื่อประหยัดพลังงานก็เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมาย เมื่อพิจารณาถึงภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือที่เวลานี้ยังไม่ได้ทำลายคลังแสงนิวเคลียร์
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าเกาหลีเหนือกำลังสาหัสจากราคาเชื้อเพลิงยิ่งกว่าฝ่ายใต้นักหนา โดยกองทัพซึ่งมีกำลังพลถึง 1.2 ล้านคน ต้องจอดเครื่องบินรบที่เก่าชรา ตลอดจนเก็บรถถังเอาไว้แต่ในโรงเก็บมาเป็นเวลาหลายปีแล้วด้วยซ้ำ
